ปักกิ่ง, 6 ก.ย. 2567 /PRNewswire/ — ทางรถไฟยาว 1,860 กม. จากเมือง Dar es Salaam ของแทนซาเนียไปยังเมือง New Kapiri Mposhi ในแซมเบีย ของการรถไฟแห่งประเทศแทนซาเนีย-แซมเบีย (TAZARA) นับเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างจีนและแทนซาเนีย
ตลอด 48 ปีที่ดำเนินการ ทางรถไฟสายดังกล่าวขนส่งสินค้าไปแล้วกว่า 30 ล้านตัน อีกทั้งผู้โดยสารมากกว่า 40 ล้านคน กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญซึ่งช่วยให้การดำเนินงานทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของแทนซาเนีย แซมเบีย รวมถึงพื้นที่โดยรอบดำเนินไปได้
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้นำของทั้งสามประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการฟื้นฟูทางรถไฟสาย TAZARA ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับเครือข่ายการขนส่งแบบผสมผสานระหว่างรางและทางทะเลในแอฟริกาตะวันออก
ปัจจุบัน จีนยังคงนำเสนอโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา และยังคงมุ่งมั่นในแนวทางแห่งความไว้วางใจ ผลประโยชน์ต่อกัน การเรียนรู้ร่วมกัน และความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อปลูกฝังความสัมพันธ์ให้เติบใหญ่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดความร่วมมือจีน-แอฟริกา (FOCAC) ประจำปี 2567 โดยยกย่องว่าจีนและแอฟริกากำลังร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น ก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่จับต้องได้ต่อทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่
สี จิ้นผิงประกาศว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนและประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกาซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันได้รับการยกระดับขึ้นเป็นความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ และลักษณะโดยรวมของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและแอฟริกาได้รับการยกระดับขึ้นเป็นชุมชนจีน-แอฟริกาที่พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์และมีอนาคตร่วมกัน
จีน-แอฟริกา ความร่วมมืออันเฟื่องฟู
FOCAC ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-แอฟริกาแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2543 โดยเป็นตัวอย่างด้านความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาและความร่วมมือระหว่างประเทศกับแอฟริกาอันดีเยี่ยม
ในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างจีน-แอฟริกาให้ดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งการแลกเปลี่ยนในหลากหลายสาขาก็คึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ปริมาณการค้าระหว่างจีน-แอฟริกาไต่ระดับขึ้นจาก 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2543 เป็น 2.821 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 26 เท่า ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนโดยตรงของจีนในแอฟริกาเกิน 40,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2566
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมมือกันสร้างและซ่อมบำรุงถนนเกือบ 100,000 กิโลเมตร ทางรถไฟมากกว่า 10,000 กิโลเมตร สะพานเกือบหนึ่งพันแห่ง และท่าเรือนับร้อยแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา 52 ประเทศและคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกายังได้ลงนามในเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้ามทวีปของจีนอีกด้วย
การสร้างถนน สะพาน และท่าเรือหลายแห่งโดยความช่วยเหลือของจีน ช่วยส่งเสริมการเชื่อมต่อในทวีปแอฟริกา อาทิ ทางรถไฟมาตรฐาน Mombasa-Nairobi ช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเวลาเดินทางไปได้มาก อีกทั้งยังส่งเสริมการค้าและการพาณิชย์ ส่วนทางรถไฟสาย Addis Ababa–Djibouti ช่วยเชื่อมเอธิโอเปียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลกับท่าเรือ Djibouti ทำให้เข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างจีนและแอฟริกา รวมถึงเป็นแกนนำในการสร้างความทันสมัยให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา สี จิ้นผิง เปิดเผยว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับแอฟริกาเพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือ 10 ประการในอีกสามปีข้างหน้า ซึ่งครอบคลุมด้านการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมร่วมกัน ความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า ความร่วมมือในห่วงโซ่อุตสาหกรรม การเชื่อมต่อ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา สุขภาพ การเกษตรและการดำรงชีพ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนกับประชาชน การพัฒนาสีเขียว และความมั่นคงร่วมกัน
สี จิ้นผิง เพิ่มเติมว่า จีนจะขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของแอฟริกา ผลักดันเขตนำร่องสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและแอฟริกาในเชิงลึก รวมถึงดำเนินโครงการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐาน 30 แห่งในแอฟริกาด้วย
นอกจากนี้ จีนจะส่งบุคลากรทางการแพทย์ 2,000 รายไปยังแอฟริกา เปิดตัวโครงการเกี่ยวกับสถานพยาบาลและการรักษามาเลเรีย 20 แห่ง รวมถึงส่งผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรม 500 รายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านสุขภาพและเกษตรกรรมในประเทศแอฟริกาด้วยเช่นกัน
ร่วมเคียงเส้นทางสู่ความล้ำสมัย
ในอนาคต จีนและแอฟริกามุ่งมั่นรังสรรค์ชุมชนอันใกล้ชิดยิ่งขึ้นพร้อมอนาคตที่มีร่วมกัน อีกทั้งเป็นเพื่อนร่วมทางสู่การสำรวจเส้นทางแห่งความล้ำสมัย
จีนช่วยเหลือแอฟริกาในการแก้ปัญหาด้านการพัฒนาต่าง ๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้า การขาดแคลนอาหาร และการขาดแคลนบุคลากร ในขณะที่การเข้าสู่แอฟริกายังนำมาซึ่งโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศให้กับบริษัทจีนอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ในภูมิภาคชายฝั่งของแทนซาเนีย โรงงานกระจกโฟลตแซฟไฟร์ที่จีนลงทุนนั้นให้บริการทั้งตลาดในท้องถิ่นและส่งออกไปยังประเทศในแอฟริกาอีก 6 แห่ง คาดการณ์ว่าโครงการซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2566 นี้จะสร้างงานโดยตรงได้มากถึง 1,650 ตำแหน่งและโดยอ้อม 6,000 ตำแหน่งเมื่อผลิตได้เต็มกำลัง อนึ่ง โรงงานดังกล่าวสร้างงานโดยตรงให้กับคนในพื้นที่ 1,012 ตำแหน่งและโดยอ้อม 3,857 ตำแหน่ง
ในทางเกษตรกรรม จีนจัดตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีการเกษตร 24 แห่งในแอฟริกาตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และนำเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงมาใช้มากกว่า 300 รายการ ทำให้ผลผลิตในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 30 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมากกว่าหนึ่งล้านคนทั่วทั้งทวีป
ปัจจุบัน บริษัทจีนกว่า 200 แห่งยังคงลงทุนในภาคเกษตรกรรมของแอฟริกา โดยมีเงินลงทุนสะสมเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ การลงทุนเหล่านี้ครอบคลุมหลายด้าน อาทิ อุปกรณ์และเครื่องจักรทางการเกษตร การทำฟาร์ม การแปรรูป และการจัดจำหน่าย
"บนเส้นทางสู่ความทันสมัย ไม่มีใครหรือประเทศใดควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง" สี จิ้นผิง กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสุดยอด FOCAC ประจำปี 2567 พร้อมเรียกร้องให้ร่วมกันผลักดันการพัฒนาที่ยุติธรรมและเท่าเทียม เปิดกว้างและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก มีความหลากหลายและครอบคลุม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยอยู่บนพื้นฐานของสันติภาพและความมั่นคง
ความร่วมมือสู่ความล้ำสมัยของจีนและแอฟริกาจะจุดชนวนความก้าวหน้าในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก รวมถึงเปิดศักราชใหม่แห่งการขับเคลื่อนชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ สี จิ้นผิง ทิ้งท้าย
Source : CGTN: ศักราชใหม่แห่งความร่วมมือสู่ความล้ำสมัย: จีนจับมือแอฟริกาเดินหน้ารังสรรค์ชุมชนเปี่ยมอนาคต
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network