การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็นสามเท่าภายในปี 2573 ซึ่งเป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของฉันทมติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งประวัติศาสตร์ เป็น "ตัวขับเคลื่อนสำคัญ" ของความพยายามทั่วโลกเพื่อให้เป้าหมาย 1.5°C เป็นไปได้และผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

นิวยอร์ก, 24 กันยายน 2567 /PRNewswire/ — การลงทุนในพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกต้องเพิ่มมากขึ้นกว่าสามเท่าภายในช่วงระยะเวลาหกปีข้างหน้าเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายกำลังการผลิต 11,000 กิกะวัตต์ ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อทำให้เป้าหมาย 1.5°C เป็นไปได้ ประธาน COP28 ดร. Sultan Al Jaber กล่าวในวันนี้ที่การประชุมสุดยอดพลังงานหมุนเวียนระดับโลก ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดระหว่างภาครัฐและเอกชนระดับสูงครั้งแรกที่มุ่งเน้นที่เป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็นสามเท่าภายในปี 2573

"การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าไม่ได้เป็นเพียงแค่เกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของความพยายามทั่วโลกทั้งหมดเพื่อทำให้เป้าหมาย 1.5°C เป็นไปได้ ผลักดันให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง" ดร. Al Jaber กล่าวในที่ประชุม ซึ่งจัดขึ้นควบคู่กับการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 79 ในนิวยอร์ก

การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็นสามเท่าเป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของฉันทมติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE Consensus) ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญให้แก่ความมุ่งมั่นด้านภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วโลก พลังงานหมุนเวียนมี "การขยายตัวเติบโตครั้งประวัติศาสตร์" ทั่วโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าและต้นทุนลดลงมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ตามคำกล่าวของประธาน COP28 พร้อมระบุว่าในปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์มีราคาถูกกว่าพลังงานจากแหล่งอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะ "เกิดแนวโน้มซึ่งเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่ถูกต้อง แต่ก็ยังไม่เร็วมากพอ" เขากล่าว

"เราจำเป็นต้องเร่งความเร็วในสามด้านสำคัญ" ดร. Al Jaber กล่าว โดยเรียกร้องให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) และในกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South) ให้มากกว่าเดิม "เราจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนโดยรวมมากกว่าสามเท่าในหกช่วงปีข้างหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 11,000 กิกะวัตต์ภายในปี 2573"

ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีความสำคัญมาก "นักลงทุนจำเป็นต้องทราบว่าโครงการของพวกเขาจะมีโครงข่ายไฟฟ้าที่ใช้งานได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม" เขากล่าว โดยชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายไฟฟ้าในประเทศอุตสาหกรรมหลายแห่งมักจะมีอายุเกินกว่า 60 ปีแล้ว ขณะที่ในหลายประเทศในกลุ่มประเทศโลกใต้นั้น "ไม่มีโครงข่ายไฟฟ้าเลย"

เขาเสริมว่า รัฐบาล "ต้องยกระดับความพยายาม" และรวมเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะไว้ในการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contribution : NDC) ฉบับต่อไปของพวกเขา นอกจากนี้ พวกเขายังควรใช้นโยบายต่าง ๆ ที่กระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชน และทำให้การอนุมัติโครงการเป็นไปได้เร็วขึ้น "ในหลายแห่ง การอนุมัติโครงการยังเป็นเหมือนการขับรถโดยดึงเบรกมือไว้ ในขณะที่เราจำเป็นต้องเร่งความเร็วเมื่อขับรถบนทางหลวง" เขากล่าวเพิ่มเติม

เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI อาจช่วยแก้ไขความท้าทายสำคัญที่พลังงานหมุนเวียนต้องเผชิญ เช่นความไม่ต่อเนื่องในการผลิตพลังงานหมุนเวียนและการกักเก็บพลังงานได้โดยทำให้โครงข่ายไฟฟ้ามีความอัจฉริยะขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการใช้งานได้ดีขึ้น ขณะที่การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ก็สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น เสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานส่งพลังงาน และเพิ่มความสามารถในการเก็บพลังงานได้ เขากล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ เขากล่าวว่า AI ยังสามารถช่วยบูรณาการความต้องการพลังงานพื้นฐานและแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดคาร์บอนและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานได้อีกด้วย

"ยิ่งเราลงทุนและนำ AI ไปใช้ในภาคพลังงานเร็วเท่าใด ก็จะสามารถขยายเพิ่มผลประโยชน์ที่จะได้รับเร็วเท่านั้น" ดร. Al Jaber กล่าว โดยชี้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมพิเศษกับผู้นำในด้านเทคโนโลยีและพลังงานในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่กรุงอาบูดาบี "สองภาคส่วนนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน" เขากล่าว

"โอกาสในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการเติบโตที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เคยเกิดขึ้นมากเท่านี้มาก่อน แต่บางส่วนของโลกกลับไม่ได้รับโอกาสนี้อย่างยุติธรรม" ประธาน COP28 กล่าว โดยชี้ว่าในปัจจุบันประเทศกำลังพัฒนากว่า 120 ประเทศสามารถดึงดูดการลงทุนได้เพียงไม่ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ของการลงทุนพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก

"เมื่อพูดถึงการเงินด้านภูมิอากาศ เราต้องท้าทายโมเดลแบบเก่า และให้การสนับสนุนโมเดลรูปแบบใหม่" เขากล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเรียกร้องให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศทำให้เงินทุนมีความพร้อมให้บริการมากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และมีราคาที่เอื้อมถึงได้ยิ่งขึ้น และให้กระตุ้นการเงินภาคเอกชนผ่านรูปแบบผสมผสานที่ "เป็นนวัตกรรมใหม่"

ดร. Al Jaber เน้นตัวอย่างโครงการริเริ่มการลงทุนพลังงานสีเขียวในแอฟริกา ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มุ่งพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและการกักเก็บพลังงาน 25 โครงการในประเทศแอฟริกา 14 ประเทศ เพื่อเป็นตัวอย่างของการกระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวถึงตัวอย่างกองทุนการลงทุนด้านภูมิอากาศ ALTÉRRA ที่เปิดตัวในงาน COP28 ซึ่งได้จัดสรรเงินจำนวน 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่วมกับนักลงทุนในโครงการที่มีพอร์ตโฟลิโอรวม 40 กิกะวัตต์แล้ว

"ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำเพื่อเติมเต็มช่องว่างในการพัฒนาพลังงานในกลุ่มประเทศโลกใต้" ประธาน COP28 กล่าว "และผมขอสนับสนุนให้ทุกฝ่ายสำรวจค้นหาวิธีการทั้งหมด โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายกัน"

ดร. Al Jaber ประกาศว่า "การดำเนินการในรูปแบบเดิม ๆ ตามปกติจะใช้ไม่ได้ผล" และเรียกร้องให้มี "รูปแบบใหม่ของการเข้ามามีส่วนร่วม ที่กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนให้ก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่" พร้อมด้วย "จิตวิญญาณของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างแท้จริง" และ "ความรู้สึกในแง่บวกที่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งมองว่าการใช้จ่ายไปกับพลังงานหมุนเวียนเป็นการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนสูง"

Source : การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็นสามเท่าภายในปี 2573 ซึ่งเป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของฉันทมติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งประวัติศาสตร์ เป็น "ตัวขับเคลื่อนสำคัญ" ของความพยายามทั่วโลกเพื่อให้เป้าหมาย 1.5°C เป็นไปได้และผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles