ผลการวิจัยของ Syncron เผยความท้าทายสำคัญและการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่ออนาคตของบริการหลังการขาย

92% ขององค์กรบริการประสบปัญหาในการบรรลุเป้าหมายความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ

สตอกโฮล์ม, 26 กันยายน 2567 /PRNewswire/ — Syncron ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน Service Lifecycle Management อัจฉริยะ เปิดเผยผลการวิจัยประจำปี 2567 ในหัวข้อ "การทำตลาดหลังการขายให้ทันสมัย" (Modernizing the Aftermarket) ซึ่งจัดทำร่วมกับ Field Service Associates โดยเน้นย้ำถึงความท้าทายเร่งด่วนที่องค์กรบริการต้องเผชิญท่ามกลางภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

-

ปัจจุบัน องค์กรบริการกว่า 92% พบว่าการบรรลุเป้าหมายความพึงพอใจของลูกค้าเป็นเรื่องท้าทาย โดยหนึ่งในสาม (33%) ยังคงต้องพึ่งพาขั้นตอนที่อาศัยแรงกายในการจัดการอะไหล่คงคลัง และเกือบทั้งหมด (99%) รายงานถึงความท้าทายเมื่อมีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล (41%) และความยากลำบากในการหาโซลูชันที่เหมาะสม (39%)

ผลการวิจัยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่องค์กรด้านการบริการจะต้องนำเอารูปแบบธุรกิจใหม่มาใช้ เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างการดำเนินงานในปัจจุบันกับความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต และเลือกใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยจัดการกับความซับซ้อนของธุรกิจได้

ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตในอนาคต

จากการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า องค์กรต่าง ๆ คาดหวังว่ารายได้จากรูปแบบบริการที่อิงผลลัพธ์จะเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 41% ในอีก 5 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้สมเหตุสมผล เนื่องจากการเน้นผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการเพียงอย่างเดียว จะเป็นสิ่งที่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดจะเชื่อว่าการลงทุนในการปรับปรุงการดำเนินงานจะนำไปสู่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าหนึ่งในสาม (34%) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งหนึ่ง (48%) มองว่าการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสมมีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มรายได้และอัตรากำไรได้มากที่สุด นอกจากนี้ องค์กรต่าง ๆ ยังจะได้รับประโยชน์จากการปรับราคาชิ้นส่วน (59%) การจัดการต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของห่วงโซ่อุปทาน (58%) และการปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม (53%)

เปลี่ยนจากการทำงานด้วยมือเป็นระบบอัตโนมัติ

ขณะที่องค์กรบริการต่าง ๆ กำลังปลีกตัวออกจากกระบวนการทำงานที่อาศัยแรงงานและล้าสมัยอย่างต่อเนื่องนั้น การนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และระบบอัตโนมัติมาใช้จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในการจัดการกับความซับซ้อนของข้อมูลสมัยใหม่ รับรองการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ และปรับปรุงการตัดสินใจ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 39% กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนั้น "สำคัญที่สุด" เมื่อต้องเลือกโซลูชันสำหรับองค์กรของตนเอง และเกือบครึ่งหนึ่ง (48%) ระบุว่า "การมองเห็นข้อมูลทั้งหมด" คือประโยชน์หลักของการปรับปรุงฟังก์ชันหลังการขายให้ทันสมัย

งานวิจัยยังพบอีกว่า ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้องสามารถขัดขวางความสามารถขององค์กรในการวัดประสิทธิภาพได้อย่างแม่นยำ โดยองค์กรเก้าในสิบ (90%) ระบุว่า ข้อมูลคือความท้าทายในการติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) ทั้งในแง่ของคุณภาพ (49%) และปริมาณ (43%)

ความยั่งยืนและบทบาทที่เพิ่มมากขึ้น

ความยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นสำหรับการดำเนินงานหลังการขาย โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 95% ระบุว่ามีแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนภายใน 12-24 เดือนข้างหน้า ความตั้งใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นว่าการนำแบบจำลองเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้สามารถนำไปสู่การประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความต้องการผลักดันระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนจะเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณสามในสี่ (76%) เชื่อว่าวิธีที่องค์กรของตนติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพการหมุนเวียนและวัดปริมาณรอยเท้าคาร์บอนของห่วงโซ่อุปทาน (75%) จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงอย่างมาก

"ขณะที่ตลาดหลังการขายกำลังกลายเป็นเครื่องมือทางการค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ที่พร้อมลงทุนในรูปแบบธุรกิจที่สร้างสรรค์ เทคโนโลยี และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน จะสามารถยืนอยู่บนตำแหน่งที่ดีที่สุดในการเป็นผู้นำ" Sean O’Neill ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Syncron กล่าว "ผลการวิจัยเหล่านี้มอบข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับองค์กรที่ต้องการก้าวไปข้างหน้าในภูมิทัศน์ที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการนำแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมุ่งเน้นที่ลูกค้ามาใช้"

ระเบียบวิธีวิจัย

Syncron ได้มอบหมายให้บริษัทวิจัยอิสระ Vanson Bourne สำรวจผู้มีอำนาจตัดสินใจ 600 รายในบทบาทด้านบริการและห่วงโซ่อุปทานทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลางในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยผู้ตอบแบบสอบถามมาจากองค์กรที่มีรายได้ต่อปีทั่วโลกมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์

ดาวน์โหลดรายงาน Modernizing the Aftermarket เพื่อเข้าถึงผลการวิจัยฉบับเต็มและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่องค์กรต่าง ๆ ยกระดับการดำเนินงานหลังการขายให้ทันสมัย

เกี่ยวกับ Syncron
Syncron ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจการให้บริการแบบใหม่ ด้วยการปรับปรุงความสามารถการสร้างผลกำไรจากตลาดหลังการขายระดับสูงสุด เพิ่มความภักดีของลูกค้า และทำให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่บริการภิวัตน์ Syncron สนับสนุนบริการตลาดหลังการขายทั้งหมดโดยใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ Connected Service Experience (CSX) ที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งด้วยประสบการณ์หลังการขายที่เหนือกว่า ทั้งยังสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นได้อย่างสูง ด้วยความเชื่อมั่นที่ได้รับจากแบรนด์ยอดนิยมของโลกจึงทำให้ Syncron เป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน SaaS เพื่อจัดการบริการตลอดทั้งวงจรแบบอัจฉริยะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.syncron.com

รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2515665/Syncron_Research.jpg?p=medium600

โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1832423/Syncron_Logo.jpg?p=medium600

Source : ผลการวิจัยของ Syncron เผยความท้าทายสำคัญและการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่ออนาคตของบริการหลังการขาย

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles