เมื่อรุ่นเยาว์ตัดสินใจให้รุ่นใหญ่: เมื่อเจเนอเรชันอัลฟ่ากลายเป็นผู้นำในการวางแผนการเดินทางของครอบครัว

•  เจเนอเรชันอัลฟ่าและเจเนอเรชันซี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถึง ร้อยละ 87 มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแผนการเดินทางของครอบครัว ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ตัดสินใจหลักในการเดินทางท่องเที่ยว

•  ร้อยละ 78 ของนักเดินทางรุ่นใหม่เหล่านี้ คาดหวังว่าจะได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง โดยพวกเขามองว่าการเดินทางเป็นทั้งการให้รางวัลตัวเองและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตนเอง

•  กิจกรรมทางกีฬา การดูคอนเสิร์ต และกิจกรรมกลางแจ้งเป็นแรงจูงใจอันดับต้น ๆ ในการเดินทางสำหรับเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี พ.ศ. 2568

•  การเชื่อมต่อกับดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยพวกเขาใช้เวลากับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากถึงสี่ชั่วโมงต่อวันในระหว่างการเดินทาง

สิงคโปร์, 30 กันยายน พ.ศ. 2567 – การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคือเจเนอเรชันอายุน้อยที่สุดกำลังเป็นหัวแรงหลักในการวางแผนการเดินทางของครอบครัว ความต้องการเฉพาะตัวของพวกเขากำลังหล่อหลอมอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รายงานแนวโน้มปี พ.ศ. 2568 โดย ฮิลตัน  แสดงให้เห็นว่าเจเนอเรชันอัลฟ่าและเจนซีกำลังเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยว โดยเน้นประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความสนใจส่วนตัวและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของพวกเขา

เบน จอร์จ รองประธานอาวุโส และผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ฮิลตัน กล่าวว่า "อิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของเจเนอเรชันอัลฟ่าต่อการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งฮิลยินดีที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ เมื่อแนวโน้มเหล่านี้เริ่มเติบโตขึ้น เราจึงตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป โดย ฮิลตัน ตั้งเป้าที่จะขยายโรงแรมมากกว่า 1,000 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปี พ.ศ. 2568 และมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่และครอบครัวของพวกเขา"

นักเดินทางรุ่นใหม่: วิธีที่พวกเขากำหนดทิศทางการเดินทางของครอบครัว

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความชอบของเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี กลายเป็นตัวกำหนดทิศทางการเดินทางกับครอบครัวมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยร้อยละ  87 ของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ร่วมวางแผนการท่องเที่ยววันหยุดกับครอบครัวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน (ร้อยละ 98) และอินเดีย (ร้อยละ 93) ซึ่งเจนอัลฟ่า และเจนซี มากกว่าเก้าในสิบคนมีส่วนร่วมในการวางแผนการเดินทางอย่างน้อยก็ระดับหนึ่งหรือมาก นอกจากนี้ ร้อยละ 69 ของผู้ปกครองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวพักผ่อนตามความสนใจของบุตรหลาน

แม้ว่าข้อมูลของนักเดินทางรุ่นใหม่เหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการเลือกกิจกรรม และจุดหมายปลายทาง แต่การตัดสินใจด้านการจัดการ เช่น การรับประทานอาหาร (ร้อยละ 39) การเดินทางขนส่ง (ร้อยละ 38) ที่พัก (ร้อยละ 32) งบประมาณ ( ร้อยละ 20) และระยะเวลาการเดินทาง (ร้อยละ18) ยังคงเป็นผู้ปกครองที่จัดการเป็นหลัก การมีส่วนร่วมที่เพิ่มมากขึ้นนี้เน้นย้ำพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของการเดินทางเป็นครอบครัว โดยคนรุ่นใหม่จะเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำขณะที่ยังคงพึ่งพาครอบครัวในการวางแผนในทางปฏิบัติอยู่

ความภาคภูมิใจทางวัฒนธรรม: ครอบครัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พลิกการเดินทางเป็นประสบการณ์ในการเติบโต

สำหรับเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การท่องเที่ยวคือการได้เดินทางเพื่อค้นพบตัวเอง และเติบโตในฐานะปัจเจกบุคคล ความเชื่อมโยงอันแน่นแฟ้นกับมรดกทางวัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันให้นักเดินทางรุ่นเยาว์เหล่านี้ให้ออกเดินทาง โดย ร้อยละ  75 ภูมิใจในอิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับโลกของภูมิภาคนี้ และร้อยละ 73 กระตือรือร้นที่จะสำรวจ และเรียนรู้รากเหง้าของตนเองผ่านการเดินทาง

ครอบครัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ใช้การเดินทางเป็นวิธีเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเอง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ปกครองกว่า ร้อยละ 61 เลือกจุดหมายปลายทางที่สะท้อนถึงมรดกประเพณี และค่านิยมของตน

นอกเหนือจากการสำรวจเชิงวัฒนธรรมแล้ว ร้อยละ 68 ของนักเดินทางรุ่นเยาว์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มองว่าการเดินทางเป็นกุญแจสู่การเสริมสร้างการศึกษา และการพัฒนาตนเอง ผู้ปกครองในภูมิภาคแห่งนี้ ต่างก็เห็นด้วย โดยร้อยละ 60 เลือกจุดหมายปลายทางที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ และการเติบโตของบุตรหลานของตน

จากกีฬาสู่เคป็อป: แนวโน้มการเดินทางสำคัญสำหรับเจนอัลฟ่าและเจนซี ในปี พ.ศ. 2568

สำหรับนักเดินทางเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซีในภูมิภาคแห่งนี้ การท่องเที่ยวที่เน้นความบันเทิง กีฬา การผจญภัย และการได้อยู่กับคนรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

กิจกรรมทางกีฬา เช่น ODI World Cup for Women Table Tennis World Championships และ FIFA Club World Cup เป็นการเข้าชมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี พ.ศ. 2568 โดยนักเดินทางรุ่นเยาว์ในภูมิภาคนี้กว่าร้อยละ 35 วางแผนการเดินทางโดยมีกิจกรรมเหล่านี้เป็นหลัก ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการท่องเที่ยวเชิงกีฬายังสะท้อนให้เห็นในข้อมูลของ ฮิลตัน เองอีกด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ถึงปี พ.ศ. 2567 รายได้จากยอดขายด้านกีฬาทั่วโลกของฮิลตัน โตขึ้นสามเท่า โดยร้อยละ 80 ของการเติบโตนี้มาจากกีฬาเยาวชนหรือกีฬาสมัครเล่น สิ่งที่นักท่องเที่ยวเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นิยมในอันดับถัดมาคือ กลุ่มกิจกรรมเกี่ยวกับธรรมชาติและการค้างแรม (ร้อยละ 34) เช่น เทศกาลชมดอกซากุระ และทริปสกี รวมถึงคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี (ร้อยละ 26) โดยเฉพาะคอนเสิร์ตเคป็อป

รุ่นใหม่ออกเดินทาง: เจนอัลฟ่าและเจนซีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นิยมการเดินทางประจำปี

เจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นนักเดินทางตัวยง โดยร้อยละ 92 เดินทางอย่างน้อยหนึ่ง ครั้งในปีที่ผ่านมา เจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซีในประเทศจีน ประเทศอินเดีย และสิงคโปร์ ท่องเที่ยวเก่งเป็นพิเศษ ซึ่งนักเดินทางเหล่านี้เดินทางเฉลี่ยสองถึงสามครั้งในปีที่ผ่านมา

ความหลงใหลในการเดินทางนี้ปรากฏชัดในแผนอนาคตของพวกเขาเช่นกัน โดยเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถึงร้อยละ 88 มีแนวโน้มที่จะเดินทางท่องเที่ยวในปีหน้า นอกจากนี้ ร้อยละ 72 ยังภาคภูมิใจในความสามารถในการสำรวจจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ข้อค้นพบเหล่านี้เน้นให้เห็นความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่

Digital Nomads: บทบาทของเทคโนโลยีในการเดินทางของเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี

ในยุคดิจิทัลทุกวันนี้ เทคโนโลยีมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเดินทางท่องเที่ยวของเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พ่อแม่และลูก ๆ มักใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการออนไลน์ระหว่างการเดินทาง โดยเฉลี่ยถึงสี่ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะเจนเนอเรชันซีที่ใช้เวลามากกว่า ประมาณสามชั่วโมงต่อวัน เทียบกับเจนเนอเรชันอัลฟ่าที่ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง

สมาร์ทโฟน (ร้อยละ 64) แท็บเล็ตดิจิทัล (ร้อยละ 38) และสมาร์ทวอทช์ (ร้อยละ 33) ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางสำหรับนักผจญภัยรุ้นใหม่เหล่านี้ โดยส่วนใหญ่แล้วใช้เพื่อสตรีมวิดีโอ (ร้อยละ 55) เล่นเกม (ร้อยละ 45) และติดต่อกับคนที่รักผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความ (ร้อยละ 44) นอกจากนี้ มากกว่าหนึ่งในสาม (ร้อยละ 42) ใช้อุปกรณ์ของตัวเองเพื่อฟังเพลง และร้อยละ 30 ยังแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย

แนวโน้มเหล่านี้สอดคล้องกับผลการสำรวจของสมาชิกทีมฮิลตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีถูกจัดให้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกอันดับต้นสำหรับนักเดินทางเจนเนอเรชันอัลฟ่าและครอบครัว โดยที่ความบันเทิงและกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กก็จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการเช่นกัน

การเดินทางภายในประเทศเทียบกับการเดินทางไปต่างประเทศ : ความชอบในการเดินทางของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นักเดินทางกลุ่มเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ในภูมิภาคนี้ ต่างตื่นเต้นกับการสำรวจจุดหมายปลายทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยกเว้นสิงคโปร์ พวกเขานิยมท่องเที่ยวในประเทศกันอย่างมากทั่วตลาดของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

คนรุ่นใหม่มีความสนใจที่จะท่องเที่ยวนอกภูมิภาคเอเชียมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ตนเองได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในตลาดที่ทำการสำรวจ

อเล็กซานดรา จาริทซ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการจัดการแบรนด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ฮิลตัน กล่าวว่า "เมื่อเจนเนอเรชันอัลฟ่าและเจนเนอเรชันซี ก้าวเข้ามามีบทบาทเป็นผู้มีอิทธิพลสำคัญในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวกับครอบครัว เขากำลังสร้างภูมิทัศน์การท่องเที่ยวใหม่ ความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของพวกเขาผลักดันให้อุตสาหกรรมต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สร้างโอกาสสำหรับประสบการณ์ที่มีความหมาย จับใจ และเสริมสร้างวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับค่านิยม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่พวกเขาเลือก แต่เป็นวิธีที่พวกเขาโต้ตอบและสัมผัสโลก ที่ฮิลตัน เรามุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความคาดหวังเหล่านี้ โดยเสนอแบรนด์และประสบการณ์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและยกระดับการเดินทางของพวกเขา"

รายงานแนวโน้มปี พ.ศ. 2568 โดย ฮิลตัน: ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญสำหรับปี พ.ศ. 2568 และภายภาคหน้า

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ถูกจัดทำเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยสำหรับรายงานแนวโน้มปี พ.ศ. 2568 โดย ฮิลตัน ซึ่งเรียกกันว่า ‘Year of the Travel Maximizer’ โดยเผยให้เห็นวิธีที่นักท่องเที่ยวพยายามผสมผสานการพักผ่อนเข้ากับการผจญภัยที่สร้างความประทับใจ ในขณะที่กระแสการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 เริ่มฟื้นตัว การสำรวจเชิงลึกของฮิลตันกับนักเดินทางทั่วโลกกว่า 13,000 คนใน 13 ประเทศ ข้อมูลเชิงลึกจากสมาชิกทีมฮิลตัน กว่า 4,100 คน และการสัมภาษณ์เจาะลึกกับผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวของฮิลตัน ล้วนเน้นย้ำถึงแนวโน้มเพิ่มเติมหลายประการ ดังนี้:

•  การท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบได้รับความนิยมมากขึ้น: เนื่องจากชีวิตที่เร่งรีบ นักท่องเที่ยวจึงหันมานิยม "การท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ" เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง นักท่องเที่ยวทั่วโลกหนึ่งในสี่คนแสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และผู้ที่เดินทางกับเด็ก ๆ ร้อยละ 65 (ร้อยละ 60 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) มักจะสำรวจเรียนรู้ประเพณีสืบทอดของครอบครัวผ่านการเดินทาง

•  นักเดินทางผจญภัย "Go Getaways" หันมาพักผ่อน : นักเดินทางทั่วโลกเจ็ดในสิบคน (ร้อยละ 65 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างท่องเที่ยว โดยร้อยละ 20 วางแผนผจญภัยกลางแจ้งในปี พ.ศ. 2568 ทั้งนี้ ยังมีแนวโน้มในการท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกายที่เพิ่มขึ้น โดยนักเดินทางทั่วโลกหนึ่งในห้าคน (ร้อยละ 21 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ชื่นชอบศิลปะของการ "hurkle-durkling" ซึ่งเป็นสำนวนสก็อตติชที่หมายถึงการนอนตื่นสายระหว่างวันหยุดพักร้อน นอกจากนี้ คาดว่านักเดินทางมากกว่าหนึ่งในสี่จะจองสปาหรือทรีตเมนต์เพื่อสุขภาพที่เน้นปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยเฉพาะ

•  คนรุ่นใหม่เป็นผู้ตัดสินใจเลือกรับประทานอาหาร: ผู้ปกครอง ร้อยละ 63 ทั่วโลก (ร้อยละ 65 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ให้บุตรหลานเลือกร้านอาหารขณะท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ ของเจนเนอเรชันอัลฟ่าที่มีตั้งแต่พิซซ่าไปจนถึงซาซิมิ

•  การผจญภัยของนักชิมและการท่องเที่ยวเชิงกีฬากำลังมาแรง: นักท่องเที่ยวทั่วโลกเกือบหนึ่งในห้า กำลังมองหาประสบการณ์ด้านอาหาร โดยร้อยละ 50 (ร้อยละ 49 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) จองร้านอาหารก่อนจองตั๋วเครื่องบิน

เชิญทำแบบทดสอบบุคลิกภาพเจนเนอเรชันอัลฟ่าของฮิลตัน แล้วลองดูว่าคุณเป็นนักเดินทางแบบไหน. อ่านรายงานฉบับเต็มของฮิลตัน ได้ที่ stories.hilton.com/2025trends หรือไปที่ Hilton.com เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวปี พ.ศ. 2568

Source : เมื่อรุ่นเยาว์ตัดสินใจให้รุ่นใหญ่: เมื่อเจเนอเรชันอัลฟ่ากลายเป็นผู้นำในการวางแผนการเดินทางของครอบครัว

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network