จากจีนสู่โลกกว้าง: Botanee ได้นำนวัตกรรมมาสู่โครงการวิจัยและพัฒนาเวชสำอางระดับโลก

21 ตุลาคม 2024 กรุงปารีส /PRNewswire/ — Botanee Group แบรนด์เวชสำอางชั้นนำจากจีนกำลังสร้างชื่อบนเวทีระดับนานาชาติด้วยนวัตกรรมแห่งความงามที่ผลิตจากพืช โดยทางบริษัท Botanee มุ่งเน้นให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนรวมถึงสุขภาพผิวอย่างลึกซึ้ง และกำลังนำการวิจัยที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสารสกัดประสิทธิภาพสูงจากพันธุ์พืชของประเทศจีนออกไปสู่สายตาชาวโลก อันเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับในงาน COSMETIC 360 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงนวัตกรรมสินค้าในอุตสาหกรรมน้ำหอมและเครื่องสำอางชั้นนำของโลกที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

งาน COSMETIC 360 ของปีนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ณ พิพิธภัณฑ์ Carrousel du Louvre อันทรงเกียรติ ภายในงานมีการเปิดตัวการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกสำหรับความเป็นเลิศด้านเครื่องสำอางที่มีชื่อว่า COSMETOPIADS โดยมีการมอบรางวัลเพียง 7 รางวัลจากผู้จัดแสดงสินค้า 250 ราย และบริษัท Botanee ก็ได้รับรางวัล INPD AWARDS-Raw Materials ประจำปี 2024 กลับบ้านไป อีกทั้งยังได้ชนะรางวัล COSMETOPIADS-Public Research Excellence ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างสถาบันชั้นนำจาก 14 ประเทศอีกด้วย ทั้งสองรางวัลได้ตอกย้ำถึงความเป็นเลิศอันไม่เป็นรองใครในด้านนวัตกรรมสารสกัดและความเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอาง

"การได้รับรางวัลครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับระดับนานาชาติที่โดดเด่นสำหรับการวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรมในสาขานี้ของ Botanee ตลอดหลายปีมานี้เรากำลังลงทุนเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มเติมเพื่อนำนวัตกรรมของเราออกสู่สายตาผู้บริโภคทั่วโลกให้ได้มากยิ่งขึ้น" Zhong Wei ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Botanee Group กล่าว

นวัตกรรมการผลิตจากพืชมีต้นกำเนิดอยู่ที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน

Botanee หนึ่งในแบรนด์เวชสำอางระดับชั้นนำของจีนกำลังทำภารกิจเพื่อนำวัตถุดิบของจีนไปสู่เวทีระดับโลกผ่านเทคโนโลยีการผลิตจากพืชผ่านรูปแบบความร่วมมือใหม่ๆ

หัวใจสำคัญของความสำเร็จของ Botanee คือการวิจัยที่ล้ำสมัยที่ให้ความสำคัญไปที่สมุนไพรพื้นเมืองของมณฑลยูนนาน ซึ่งได้มีการสำรวจอย่างกว้างขวางมากกว่า 6,500 สายพันธุ์ และคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีสารออกฤทธิ์ที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลผิว ในปัจจุบัน Botanee ได้ก้าวขึ้นมาครองอันดับ 1 ในประเทศจีนในด้านการใช้สารสกัดจากพืชตามข้อมูลของ National Medical Products Administration (NMPA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลเครื่องสำอางของจีน ซึ่งได้รับการอนุมัติทั้งสิ้น 11 รายการ

ตัวอย่างเช่น Botanee ได้นำผลการวิจัยในพืชที่ชื่อว่า Prinsepia utilis Royle หรือที่รู้จักกันในชื่อ เชอร์รี่หิมาลัย มาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมเวชสำอางบำรุงผิวแพ้ง่ายรุ่นที่สองของแบรนด์ Winona ซึ่งมีสารสกัดสุดล้ำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร อีกทั้งเป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาและฟื้นบำรุงผิวแพ้ง่ายที่ออกฤทธิ์กับโปรตีน CLDN-5 อันเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศจีน และนั่นทำให้แบรนด์เวชสำอาง Winona ได้รับรางวัล "New Product of the Year" ในงาน Tmall Golden Makeup Awards ประจำปี 2024

จากจีนสู่ฝรั่งเศส และจากฝรั่งเศสสู่โลกกว้าง

Botanee ได้ดำเนินกลยุทธ์ขยายธุรกิจทั่วโลก โดยให้ความสำคัญไปที่การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา รวมถึงภาคส่วนการวิจัยและเภสัชกรรม โดยกลยุทธ์ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของโมเดลการเติบโตของบริษัทมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ดร. Guo Zhenyu ผู้ก่อตั้งบริษัท Botanee และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเภสัชกรรมมาเป็นเวลายาวนาน

บริษัทได้ขยายการดำเนินงานในปี 2022 โดยจัดตั้งห้องแล็ปสกัดพืชที่มีลักษณะเฉพาะของยูนนาน (Yunnan Characteristic Plant Extraction Laboratory: Yunke Laboratory) ในนครคุนหมิง มณฑลยูนนานขึ้น ต่อจากสถาบันวิจัยของ Botanee ที่นครเซี่ยงไฮ้ จากนั้นในปี 2023 บริษัท Botanee ได้ประกาศจัดตั้งศูนย์วิจัยระดับนานาชาติแห่งแรกขึ้นในนาม BTN French โดยได้พัฒนาร่วมกับศูนย์วิจัยผิวหนัง Hôpital Saint-Louis ในกรุงปารีส และต่อมาในช่วงปลายปี ก็ได้มีการก่อตั้งศูนย์วิจัยขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศูนย์ที่เน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหมวดป้องกันแสงแดดรวมถึงเครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย

ศูนย์วิจัยเหล่านี้กำลังวางรากฐานให้กับการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับโลกของ Botanee โดยประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นเป้าหมายต่อไปของการก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นในศาสตร์ด้านการชะลอวัยและสุขภาพผิว

สู่โลกใบใหม่ นำความยั่งยืนและความงามมาสู่ทุกคน

ในฐานะบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ ESG บริษัท Botanee มีความมุ่งมั่นในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในระยะยาว โดยที่ผ่านมา บริษัท Botanee ได้ดำเนินโครงการมากมายในมณฑลยุนนาน อาทิ โครงการ Haba Snow Mountain Biodiversity Science Popularization Base, Biodiversity Courtyard รวมถึงโครงการอื่นๆ ในด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และในปัจจุบัน กองทุนการกุศลของบริษัทหรือ Botanee Charity Fund ได้มีการลงทุนในโครงการ ESG ไปแล้วกว่า 50 ล้านหยวน

นอกจากนี้ห้องปฏิการวิจัยของบริษัทอย่าง Yunke Laboratory ได้มีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มณฑลยุนนาน โดยในปี 2023 ห้องปฏิการวิจัยของบริษัทได้ทำการจัดตั้งธนาคารพันธุ์พืชเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรพืชพื้นเมืองของมณฑลอย่างยั่งยืน

บริษัทยังคงยึดมั่นในภารกิจที่ต้องการให้ทุกคนมีผิวสวยสุขภาพดีท่ามกลางการขยายตัวของธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรม ความยั่งยืน และความร่วมมือระดับโลก ทำให้บริษัท Botanee พร้อมที่จะก้าวเข้ามาสู่แถวหน้าในวงการอุตสาหกรรมความงามระดับโลกอย่างมั่นคง

เกี่ยวกับ Botanee Group

Botanee Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 และได้สร้างปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมความงาม โดยมีแบรนด์เวชสำอาง Winona เป็นแบรนด์เรือธงหลักของริษัท ซึ่งปัจจุบันได้กลายแบรนด์เวชสำอางอันดับ 1 ของประเทศจีน ตามข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดในรายงานของ Euromonitor อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในหมวดผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่ายที่ผลิตขึ้นจากพืชพื้นเมืองของมณฑลยูนนาน นอกจากนี้ อาณาจักร Botanee Group ยังมีแบรนด์อื่นในเครือมากมาย ได้แก่ Winona Baby, AOXMED, Beforteen, Pure&Mild และ ZA

ในปี 2023 Botanee Group มีผลประกอบการรายปีอยู่ที่ 5.52 พันล้านหยวน มีการลงทุนในส่วนของการวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ 335 ล้านหยวน ซึ่งทำให้ Botanee Group ได้ทะยานขึ้นเป็นผู้นำระดับต้นๆ ด้านการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาภายในอุตสาหกรรมของจีน

Source : จากจีนสู่โลกกว้าง: Botanee ได้นำนวัตกรรมมาสู่โครงการวิจัยและพัฒนาเวชสำอางระดับโลก

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles