อะโซร์สกำหนดเครือข่ายเขตคุ้มครองทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในแอตแลนติกเหนือ

ปอนตา เดลกาดา, โปรตุเกส, 23 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ — ขณะที่โลกเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (UN Biodiversity Conference หรือ CBD COP16) เขตปกครองตนเองอะโซร์ส (Autonomous Region of the Azores) ได้ผ่านกฎหมายสำคัญที่กำหนดเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในแอตแลนติกเหนือ

การตัดสินใจครั้งใหญ่นี้คุ้มครอง 30% ของทะเลโดยรอบคาบสมุทรอะโซร์ส ครอบคลุมพื้นที่ 287,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งครึ่งหนึ่งได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่อนุญาตให้มีการสกัดนำทรัพยากรธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของเครือข่ายดังกล่าวนี้ได้รับการคุ้มครองในระดับสูง เช่นนี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญในการอนุรักษ์ทางทะเลระดับโลก และวางบรรทัดฐานที่ทรงพลังสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพที่จะเกิดขึ้นต่อไป

การตัดสินใจของอะโซร์ส เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกร่วมมือกันดำเนินการกรอบการทำงานว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลก คุนหมิง-มอนทรีอัล (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework) ซึ่ง 196 ประเทศเห็นพ้องกันว่าการปกป้องแผ่นดินและมหาสมุทรของโลก 30% ภายในปี 2573 หรือ ค.ศ. 2030 (เป้าหมาย 30×30) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพความสมบูรณ์ในอนาคตของโลก กฎหมายดังกล่าวนี้ปูทางสำหรับกลยุทธ์ความหลากหลายทางชีวภาพของสหภาพยุโรปสำหรับปี 2573 หรือ ค.ศ. 2030 และส่งเสริมเป้าหมายการอนุรักษ์มหาสมุทรระดับโลก

พื้นที่คุ้มครองทางทะเลได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิผลที่สุดในความพยายามระดับโลกที่จะย้อนกลับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างความสามารถในการตั้งรับปรับตัวของมหาสมุทรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การดำเนินบทบาทผู้นำของอะโซร์สสร้างแรงบันดาลใจ ในขณะที่ไม่ถึง 3% ของมหาสมุทรในโลกได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบหรือในระดับสูง

"อะโซร์สขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติมหาสมุทรที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นใดมาอย่างยาวนาน และด้วยการตัดสินใจครั้งนี้ เราขับเคลื่อนการเดินหน้าสู่มหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์และเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ทะเลเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ร่วมกันของเรา โดยมีความสำคัญทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ เรามุ่งมั่นทุ่มเทที่จะปกป้องและฟื้นฟูมหาสมุทรของเราเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงินที่มีคุณภาพ การตัดสินใจของเราผ่านกระบวนการที่อิงวิทยาศาสตร์และการมีส่วนร่วม ซึ่งนำไปสู่การคุ้มครองทะเลของเรา 30% ถือเป็นแบบอย่างที่ภูมิภาคอื่น ๆ ต้องปฏิบัติตามโดยเร็วเพื่อสุขภาพความสมบูรณ์ในอนาคตของโลก" คุณ José Manuel Bolieiro ประธานรัฐบาลประจำภูมิภาคอะโซร์ส กล่าว

อะโซร์สคือคาบสมุทรของโปรตุเกส ประกอบด้วยเกาะภูเขาไฟจำนวนเก้าเกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลอะโซร์ส ซึ่งกินพื้นที่ราว 1,000,000 ตารางกิโลเมตร มีสัดส่วนเป็น 55% ของน่านน้ำโปรตุเกสและราว 15% ของน่านน้ำยุโรป ประกอบด้วยสภาพแวดล้อมบริเวณเกาะ ทะเลเปิด และทะเลลึกที่สำคัญ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเปราะบางเป็นอันดับต้น ๆ ในแอตแลนติกเหนือ เครือข่ายเขตคุ้มครองทางทะเลที่ขณะนี้ได้รับการอนุมัติแล้วสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับธรรมชาติ อย่างเช่น ฉลาม ปลา วาฬ ปะการังทะเลลึก และระบบนิเวศปล่องน้ำพุร้อนใต้ทะเลที่ไม่เหมือนอื่นใด ส่งผลเป็นมหาสมุทรที่มีสุขภาพความสมบูรณ์ดี ซึ่งเศรษฐกิจสีน้ำเงินและชุมชนอะโซร์สต้องพึ่งพา

การสร้างเครือข่ายเขตคุ้มครองทางทะเลแห่งนี้ประสบความสำเร็จเนื่องจากกระบวนการมีส่วนร่วมที่ครอบคลุมกว้างขวาง รัฐบาลจัดการประชุมรวมทั้งหมด 40 ครั้งกับตัวแทนจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งจากภาคการประมง การขนส่งทางทะเล ผู้ให้บริการการท่องเที่ยวทางทะเล และองค์กรสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่ภาครัฐ ผลคือการทำงานร่วมกันในการออกแบบเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่สร้างประโยชน์แก่ผู้คน ธรรมชาติ และเศรษฐกิจ โดยมีพื้นฐานเป็นวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้

ชุดสื่อประกอบด้วย:

  • รูปถ่ายใต้น้ำและรูปถ่ายโดรนความละเอียดสูง
  • แผนที่เครือข่ายเขตคุ้มครองความละเอียดสูง
  • ฟุตเทจเสริมภาพชีวิตทางทะเลในอะโซร์ส
  • รายนามโฆษก

เขตคุ้มครองทางทะเล: เครื่องมือสำคัญสำหรับสุขภาพของมหาสมุทร

เขตคุ้มครองทางทะเล (MPA) คือพื้นที่ในมหาสมุทรที่มุ่งเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีการจำกัดกิจกรรมของมนุษย์ วิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าเขตคุ้มครองทางทะเลที่มีการคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบและในระดับสูงนำไปสู่ประโยชน์สูงสุดทั้งสำหรับธรรมชาติและมนุษย์ ทั้งนี้ คู่มือแนะแนวทางเกี่ยวกับเขตคุ้มครองทางทะเล MPA Guide ระบุนิยามการคุ้มครองประเภทต่าง ๆ ไว้ดังต่อไปนี้

  1. การคุ้มครองเต็มรูปแบบ: ไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมการสกัดนำไปใช้ประโยชน์หรือบ่อนทำลาย จำกัดผลกระทบทั้งหมดที่สามารถบรรเทาได้
  2. การคุ้มครองระดับสูง: อนุญาตเฉพาะกิจกรรมการสกัดนำไปใช้ประโยชน์ขนาดเล็กที่มีผลกระทบโดยรวมต่ำ และจำกัดผลกระทบอื่น ๆ ทั้งหมดที่สามารถบรรเทาได้
  3. การคุ้มครองระดับเบา: มีการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพอยู่บ้าง แต่อนุญาตให้มีการสกัดนำไปใช้ประโยชน์ระดับปานกลางถึงมากและผลกระทบอื่น ๆ
  4. การคุ้มครองจำกัด: อนุญาตให้มีการสกัดนำไปใช้ประโยชน์ในระดับสูงและผลกระทบอื่น ๆ แต่สถานที่ดำเนินงานยังก่อประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ในพื้นที่

มีข้อพิสูจน์แล้วว่าเขตคุ้มครองทางทะเลประสบความสำเร็จดังต่อไปนี้

  • ฟื้นฟูประชากรปลาและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งก่อประโยชน์แก่ชุมชนประมงท้องถิ่นผ่านผลกระทบแบบกระจายออก
  • ปกป้องถิ่นที่อยู่ที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์
  • เพิ่มความสามารถในการตั้งรับปรับตัวของระบบนิเวศต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลภาวะ
  • เพิ่มโอกาสการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน
  • สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนในชุมชนชายฝั่ง

เกี่ยวกับ Blue Azores

Blue Azores Program ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และการใช้ทะเลอะโซร์สอย่างยั่งยืน โดยอิงองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด และมีการมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำเนินบทบาทในการปกป้อง ส่งเสริม และยกระดับทุนธรรมชาติทางทะเลของคาบสมุทรแห่งนี้ ซึ่งสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ สำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของภูมิภาค โครงการดังกล่าวนี้จึงส่งเสริมการอนุรักษ์มหาสมุทร การยกระดับธรรมชาติและกิจกรรมที่พึ่งพาธรรมชาติ ตลอดจนการส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงินที่ยั่งยืน Blue Azoresเกิดจากความร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างรัฐบาลประจำภูมิภาคอะโซร์ส (Regional Government of the Azores), มูลนิธิ Oceano Azul Foundation และสถาบัน Waitt Institute อีกทั้งยังมีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งอะโซร์ส (University of the Azores)

ดูข้อมูลเพิ่มเติม:

BlueAzores.org
ข้อเท็จจริงและสถิติ

 

Source : อะโซร์สกำหนดเครือข่ายเขตคุ้มครองทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในแอตแลนติกเหนือ

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles