ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 29 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ — FII Institute ได้เพิ่มบริษัทระดับนานาชาติ 12 รายเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายใหม่ ซึ่งจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนผู้นำที่กำลังเติบโตจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งธุรกิจ เทคโนโลยี การบิน พลังงาน วงการศึกษา และนโยบายสาธารณะ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียม
Twelve New International Companies Join FII Institute Roster of Strategic Partners: Strategic Partners Support Its Mission to Drive a Positive Impact on Humanity Through Investment.
FII Institute ดำเนินโครงการตลอดทั้งปี ครอบคลุมการริเริ่มระดับโลก การประชุมสุดยอดนานาชาติ การพัฒนานโยบาย การสำรวจความคิดเห็นทั่วโลก และการจัดทำดัชนีชี้วัดต่าง ๆ โดยพันธมิตรเชิงกลยุทธ์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการเหล่านี้ ทั้งในด้านการเป็นผู้นำ การส่งผู้แทนเข้าร่วม และการมีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มต่าง ๆ
พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ใหม่ทั้ง 12 รายประกอบด้วย ACWA Power, ALAT, Claure Group, Franklin Templeton, King Salman International Airport, Minerva Foods, NBK, Premium Residency Center, Riyadh Air และ SCAI นอกจากนี้ FII Institute ยังมีความยินดีในการประกาศให้ General Atlantic และ Lakestar เป็นพันธมิตรโครงการร่วมทุนรายแรก ซึ่งพันธมิตรโครงการร่วมทุนเหล่านี้เป็นบริษัทชั้นนำที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญใน FII8 Investment Day ที่กำลังจะมาถึงด้วย โดยโครงการร่วมทุนของ FII Institute รวบรวมผู้ประกอบการและผู้นำที่โดดเด่นในด้านนวัตกรรม การลงทุน ธุรกิจ และการศึกษา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลกในด้าน AI และหุ่นยนต์ ความยั่งยืน สุขภาพ และการศึกษา
พันธมิตรใหม่ทั้ง 12 รายนี้จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายเดิม ซึ่งประกอบด้วยพันธมิตรผู้ก่อตั้งอย่างกองทุนการลงทุนสาธารณะ (PIF) แห่งซาอุดีอาระเบีย, พันธมิตรด้านวิสัยทัศน์อย่างกระทรวงการลงทุนแห่งซาอุดีอาระเบียและ Aramco ไปจนถึง Diriyah, Emaar, GFH, HSBC, KAFD, Ma’aden, NEOM, New Murabba, Red Sea Global, Riyad Bank, ROSHN, Royal Commission for AlUla, SABIC, Sanabil Investments, SNB, SoftBank Vision Fund, Standard Chartered, State Street, STC, THIQAH และ Vision Invest
สำหรับกิจกรรม FII8 ในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน เพื่อมุ่งอภิปรายเกี่ยวกับความท้าทายที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ พร้อมกิจกรรมเสริมตลอดทั้งสัปดาห์ โดยกำหนดจัดขึ้นที่กรุงริยาดระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม การประชุมประจำปีระดับโลกครั้งนี้จะมีผู้ร่วมบรรยายกว่า 600 คน และผู้เข้าร่วมงานกว่า 8,000 คน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำระดับโลก รัฐมนตรี ซีอีโอ นักลงทุน ผู้ก่อตั้งบริษัท และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะ
‘พันธมิตรผู้สนับสนุน FII8’ ประกอบด้วย BMW, Saudia, Dr. Sulaiman Alhabib และ Saudi Electricity Company
ข้อมูลเชิงลึก แนวคิด และการอภิปรายเฉพาะทางได้รับการสนับสนุนโดย ‘พันธมิตรด้านความรู้และวิชาการ’ จากบริษัทที่ปรึกษา มหาวิทยาลัย และสถาบันชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Accenture, ADL, Bain & Company, BCG, Columbia, Deloitte, EY, FPA2, EY, The Global Fund, Hevolution, Kearney, KPMG, McKinsey, Oliver Wyman, PWC, Strategy&, UNDP, UNHCR, UNICEF, World Bank, King Abdullah University of Science and Technology (KAUST) และ UM6P
Richard Attias ซีอีโอของ FII Institute กล่าวว่า "พันธมิตรของเราเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของ FII Institute ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เครือข่ายที่กำลังขยายตัวของเรากำลังรวมพลังกันในระดับโลก เพื่อการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและสร้างโครงการที่มีผลกระทบอย่างแท้จริง การร่วมมือกับพันธมิตรที่โดดเด่นกว่า 60 รายนั้นเปิดโอกาสให้เรารวมพลังเพื่อจัดการกับความท้าทายเร่งด่วนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นได้ เราทุกคนกำลังก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างโลกที่ดีกว่าไปด้วยกัน"
ช่องทางสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน
กรุณาส่งคำถามมาที่: [email protected]
เกี่ยวกับ FII Institute
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative Institute) หรือ FII Institute เป็นมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่มีหน่วยงานด้านการลงทุน และมีเป้าหมายหนึ่งเดียวในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เรามีวิสัยทัศน์ก้าวไกลในระดับโลก เสมอภาค และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อส่งเสริมผู้มีความคิดอันยอดเยี่ยมจากทั่วโลกและเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นทางออกและการลงมือทำที่เป็นรูปธรรมใน 4 ด้านสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2541340/FIII.jpg?p=medium600
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
