กว่างโจว, จีน, 30 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ — PingPong หนึ่งในแพลตฟอร์มชำระเงินข้ามพรมแดนสำหรับธุรกิจชั้นนำของโลก ประกาศอย่างเป็นทางการถึงบทบาทในฐานะพันธมิตรร่วมของ ‘Trade Bridge’ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมการค้าในงานแคนตันแฟร์ (Canton Fair) ครั้งที่ 136 โดยในงานซึ่งจัดเป็นเวลาหลายวันนี้ จะมีบริษัทกว่า 30,000 แห่งจากทั่วโลกเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า พร้อมกับผู้ซื้อกว่า 130,000 รายจากกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ในฐานะพันธมิตรร่วมของโครงการ "Trade Bridge" ของงานแคนตันแฟร์ PingPong ได้ใช้ระบบนิเวศระดับโลกของตนในการนำผู้ซื้อกว่า 300 รายจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน โดยเฉพาะจากประเทศไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ขายชั้นนำของจีนและคัดกรองซัพพลายเออร์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ PingPong ยังได้สร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ค้าชาวจีนสามารถพบปะกับผู้ซื้อระดับโลกที่มีคุณภาพสูงได้ โดยอำนวยความสะดวกให้มีการพบปะแบบตัวต่อตัว เพื่อส่งเสริมและตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรมจับคู่การจัดซื้อทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์สามครั้ง เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายตัวสู่ตลาดโลก
เมื่อต้นปีนี้ โครงการ Trade Bridge ของแคนตันแฟร์ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างครอบคลุมกับ PingPong เพื่อใช้ระบบนิเวศทั่วโลกของตนช่วยเหลือธุรกิจของจีนให้ขยายตัวไปสู่ตลาดต่างประเทศ
Jianqin Shu หุ้นส่วนและผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มธุรกิจ SMB ของ PingPong กล่าวว่า "ที่งานแคนตันแฟร์ในปีนี้ เราได้ระดมทีมงานในพื้นที่ พันธมิตร และผู้ซื้อจากทั่วโลก รวมถึงเวียดนาม เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และไทย โดยจัดตั้งกลุ่มคณะผู้แทนจำนวนหลายร้อยคนเพื่อพบปะกับบริษัทการค้าแบบตัวต่อตัว สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของ PingPong ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การชำระเงิน แต่ยังเป็นระบบนิเวศระดับโลกของผู้ซื้อและผู้ขายด้วย ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เรายังได้จัดการประชุมสุดยอดด้านอุตสาหกรรมในเวียดนาม โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 4,000 คน เพื่อช่วยธุรกิจต่าง ๆ ให้เข้าสู่ตลาดโลก ในอนาคตเราจะขยายเครือข่ายไปยังประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อมอบความสัมพันธ์ที่มีค่าและส่งเสริมให้กับผู้ค้าเติบโตบนแพลตฟอร์มของเรา"
หนึ่งในลูกค้าของ PingPong คือ Sumin Tunpeiroh ผู้ซื้อจากไทยที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมงานครั้งนี้ และต้องการจัดหาสินค้าเครื่องบดเหล็กรุ่นใหม่เพื่อจำหน่ายในปีหน้า เขาให้ความเห็นว่า "PingPong สร้างแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ที่ทำให้เราสามารถติดต่อกับบริษัทชั้นนำได้โดยตรงและค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด"
PingPong จะยังคงช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าต่อไปในระยะที่สองและสามของงานแคนตันแฟร์ครั้งที่ 136 โดยมุ่งเน้นที่การจับคู่ผู้ซื้อจากไทยและเกาหลีใต้เข้ากับซัพพลายเออร์ของจีนที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ PingPong ยังได้เชิญอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำจากเวียดนาม ZhuZhu และบล็อกเกอร์ด้านความงามชื่อดังชาวไทย PeePee มาไลฟ์สตรีมเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เยี่ยมชมงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ โดยจะช่วยสร้างโอกาสให้บริษัทธุรกิจการค้าจากต่างประเทศได้เชื่อมต่อกับอินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติ เปิดประตูสู่ตลาดและผู้บริโภคในต่างประเทศ และช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนท่ามกลางสู่ยุคการค้าดิจิทัล
เกี่ยวกับ PingPong
PingPong ก่อตั้งขึ้นในนิวยอร์กในปี 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาใหญ่ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลกให้กับองค์กร ปัจจุบัน PingPong ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชำระเงินข้ามพรมแดนชั้นนำของโลก โดยประมวลผลการทำธุรกรรมกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ แพลตฟอร์มชำระเงินข้ามพรมแดนที่ออกแบบโดยเน้นการใช้งาน API เป็นหลัก (API-first) ของเราช่วยให้ธุรกิจสามารถส่ง จัดการ และรับเงินได้อย่างรวดเร็วขึ้นในระดับสากล
ปัจจุบัน PingPong มีสำนักงาน 30 แห่งใน 11 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน การมีอยู่ของเราในระดับสากลช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถแก้ปัญหาความต้องการชำระเงินที่ซับซ้อนได้ในเขตเศรษฐกิจหลักทุกแห่งและทุกเขตเวลา
เกี่ยวกับงานแคนตันแฟร์
ในฐานะงานแสดงสินค้านานาชาติที่ครอบคลุม มีประวัติยาวนานที่สุด มีขนาดใหญ่ที่สุด มีประเภทสินค้าครบถ้วนที่สุด มีผู้ซื้อเข้าร่วมงานจำนวนมากที่สุด มีแหล่งที่มาของผู้ซื้อที่หลากหลายที่สุด และมีมูลค่าการหมุนเวียนธุรกิจสูงสุดในจีน งานแคนตันแฟร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานแสดงสินค้าอันดับ 1 ของจีนและเป็นตัวชี้วัดการค้าระหว่างประเทศของจีน
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2540631/PingPong_Canton_Fair_2024.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2540632/PingPong_Logo.jpg?p=medium600
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network