CGTN: เขตบริหารพิเศษมาเก๊าเริ่มต้นบทใหม่ของหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ"

ปักกิ่ง, 21 ธันวาคม 2567 /PRNewswire/ — ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรื่นเริง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า (SAR) ของจีน ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของการกลับคืนสู่มาตุภูมิ และพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของรัฐบาลชุดที่หกของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าเมื่อวันศุกร์

ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ได้กล่าวต่อผู้เข้าร่วมพิธีว่า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมาเก๊านับตั้งแต่กลับคืนสู่มาตุภูมิ ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่านโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" มีความแข็งแกร่งเชิงสถาบันอย่างโดดเด่นและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่

ประธานาธิบดีจีนยังกล่าวเสริมว่า คุณค่าของความสงบสุข การให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุม ความเปิดกว้าง และการแบ่งปัน ซึ่งถูกสะท้อนผ่านนโยบายนี้ เป็นสิ่งที่ทั้งจีนและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและสมควรร่วมกันให้การปกป้อง

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

ประธานาธิบดีสีชื่นชมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในมาเก๊านับตั้งแต่การกลับคืนสู่มาตุภูมิในปี 2542 โดยระบุว่าการดำเนินนโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" กับรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของมาเก๊านั้น ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

ในปี 2566 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของมาเก๊ามีมูลค่าประมาณ 379.5 พันล้านปาตากามาเก๊า (MOP) หรือประมาณ 4.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงเจ็ดเท่าเมื่อเทียบกับปี 2542 ขณะที่ GDP ต่อหัวเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าเป็นราว 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ มาเก๊ายังติดอันดับที่ 1 ในเอเชียและอันดับที่ 2 ของโลกในรายชื่อสถานที่ร่ำรวยที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Forbes ในปี 2567

อายุขัยเฉลี่ยของประชากรในมาเก๊าเพิ่มขึ้นจาก 77.9 ปีในปี 2542 เป็น 83.1 ปีในปี 2566 ซึ่งติดกลุ่มระดับสูงสุดของโลก อัตราการว่างงานของมาเก๊าโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% นับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งชี้ว่ามีการจ้างงานเกือบเต็มที่

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวก็เติบโตอย่างสูง โดยจำนวนผู้เดินทางมาเยี่ยมชมเพิ่มจาก 6.6 ล้านคนในปี 2542 เป็น 39.4 ล้านคนในปี 2562 และในปีนี้จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม มาเก๊าได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 32 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 33 ล้านคนภายในสิ้นปี

สู่ระยะใหม่

ประธานาธิบดีสีเน้นเมื่อวันศุกร์ว่าการดำเนินนโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ได้ก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ และเรียกร้องให้รัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าชุดใหม่ส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้มีความเหมาะสม ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงาน สร้างเวทีเพื่อส่งเสริมการเปิดกว้างในระดับสูงขึ้น และรักษาความสงบสุขและเสถียรภาพของสังคม

ภายใต้กรอบนโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" เขตบริหารพิเศษมาเก๊ามีข้อได้เปรียบที่โดดเด่น ได้แก่ การมีสถานะเป็นท่าเรือการค้าเสรี เขตศุลกากรอิสระ (separate customs territory) และแวดล้อมทางภาษีในอัตราที่ต่ำและเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ทั้งนี้ องค์การการค้าโลก (WTO) ยอมรับว่ามาเก๊าเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เปิดกว้างที่สุดในโลกสำหรับการค้าและการลงทุน

รัฐบาลกลางของจีนได้นำสถานะพิเศษของมาเก๊าไปพิจารณาอย่างรอบคอบ และสนับสนุนให้มาเก๊าบูรณาการเข้าสู่ยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับชาติ และมั่นใจได้ว่ารับบทบาทที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการเปิดประเทศ กลไกด้านการร่วมมือและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า และเขตความร่วมมือเชิงลึกกวางตุ้ง-มาเก๊าในเหิงฉิน ได้เปิดโอกาสให้กับการพัฒนา รวมทั้งโอกาสอีกมากมายให้กับมาเก๊า

ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง มาเก๊าได้ลงนามในข้อตกลงเกือบ 60 ฉบับกับประเทศต่าง ๆ และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งกับประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ กว่า 120 แห่ง จำนวนองค์กรและสถาบันระหว่างประเทศที่มาเก๊าเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 190 แห่ง และยังได้รับสิทธิพิเศษให้สามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าหรือขอวีซ่าเมื่อมาถึงใน 147 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ มาเก๊ายังมีเมืองพี่เมืองน้องอีก 13 แห่ง

ในขณะเดียวกัน การมีส่วนร่วมของมาเก๊าในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ได้ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเศรษฐกิจโลก ในปี 2566 การส่งออกสินค้าของมาเก๊าไปยังประเทศพันธมิตรในโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 770 ล้านปาตากามาเก๊า เพิ่มขึ้น 47.8% เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนการนำเข้าจากประเทศพันธมิตรในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีมูลค่า 30.92 พันล้านปาตากามาเก๊า เพิ่มขึ้น 18.0% เมื่อเทียบปีต่อปี

เมื่อปีที่แล้ว มาเก๊าและเหิงฉินได้จัดตั้งคณะผู้แทนร่วมกันโดยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุน มีการจัดงานพบปะเพื่อจับคู่ธุรกิจเกือบ 350 ครั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โปรตุเกส และสเปน และในอีกหลายประเทศ ทั้งยังมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ 17 ฉบับ

ในสุนทรพจน์ครั้งนี้ ประธานาธิบดีสีแสดงความมั่นใจว่าเขตบริหารพิเศษมาเก๊าจะเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ให้แก่การพัฒนา และสร้างความสำเร็จครั้งใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ถูกนำไปปฏิบัติอย่างครอบคลุม ถูกต้อง ด้วยความมั่นคงอย่างไม่สั่นคลอน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิก:
https://news.cgtn.com/news/2024-12-20/Xi-Jinping-delivers-speech-at-gathering-marking-Macao-s-return-anniversary-1ztOa4Tr3eU/p.html 

 

Source : CGTN: เขตบริหารพิเศษมาเก๊าเริ่มต้นบทใหม่ของหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ"

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles