บรัสเซลส์, 10 ต.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ไห่เก๋อ (Higer) หนึ่งในผู้ผลิตรถบัสรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่เส้นทางการปฏิรูปสีเขียวอย่างเต็มตัว ปัจจุบันไห่เก๋อมีการใช้งานยานยนต์พลังงานใหม่เกือบ 70,000 คันทั่วโลก ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 8 ล้านตันต่อปี โดยการนำโซลูชันผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีมาช่วยทำให้โลกเป็นสีเขียวมากขึ้น
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น ไห่เก๋อยังคงเดินหน้าแบกรับภารกิจและหน้าที่ในการขับเคลื่อนห่วงโซ่อุตสาหกรรมการขนส่งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เร็วขึ้น และเข้มแข็งขึ้น นั่นคือภารกิจของเฟนเซอร์ (FENCER)
คำนิยามของแบรนด์เฟนเซอร์:
เฟนเซอร์ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬาฟันดาบ ซึ่งเป็นตัวแทนของความหลงใหล ความกล้าหาญ ความกระตือรือร้น และความกล้าที่จะชนะ ดีไซน์ของเฟนเซอร์ได้รับอิทธิพลจากชุดอุปกรณ์ของนักกีฬาฟันดาบ โดยมีความคมชัด รูปทรงเพรียวลม พร้อมด้วยตัวอักษร F
กลุ่มผลิตภัณฑ์เฟนเซอร์:
เน้นการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์, BEV + ไฮโดรเจน โดยใช้ FMA (สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ของเฟนเซอร์)
ขอบเขตผลิตภัณฑ์ ได้แก่ รถโดยสารในเมือง รถโดยสารระหว่างเมือง รถโค้ช รถสองชั้น ตลอดจนบริการแบบครบวงจร
คุณสมบัติของเฟนเซอร์:
ดีไซน์แบบโมดูลาร์:
1. โครงสร้างตัวถังและแชสซีเป็นแบบโมดูลาร์ ทำให้สามารถใช้ส่วนประกอบร่วมกันในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูลเฟนเซอร์ทั้งหมด
2. ประโยชน์ของการผลิตแบบโมดูลาร์ คือ กระบวนการผลิตแบบขนาน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการผลิต และการใช้ส่วนประกอบร่วมกันแบบโมดูลาร์ช่วยลดต้นทุนได้ และแน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริการหลังการขาย
น้ำหนักเบา:
เฟนเซอร์มีโครงสร้างโมโนล็อกเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูง และใช้วัสดุคอมโพสิตสำหรับพื้นและแผงข้างรถ ซึ่งจะช่วยให้ลดน้ำหนักรถได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับวิธีการแบบเดิม และประหยัดพลังงานได้ประมาณ 15-20%
คาร์บอนต่ำ:
ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมรถบัส ไห่เก๋อตั้งเป้าที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงสุดภายในปี 2573 โดยการใช้กระบวนการผลิตที่มีการปล่อยมลพิษต่ำ เพิ่มการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นจากพลังงานสีเขียวและระบบการขนส่งสีเขียว รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรสีเขียวเจ้าต่าง ๆ ในการจัดหาวัสดุแบบรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network