ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–11 ตุลาคม 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
หัวเว่ย (Huawei) จัดการประชุมโกลบอล โมบายล์ บรอดแบนด์ (Global Mobile Broadband Forum) ครั้งที่ 14 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในโอกาสนี้ คุณหลี่ เผิง (Li Peng) รองประธานอาวุโสของบริษัท และประธานกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม (Carrier BG) ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยได้เรียกร้องให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกและพันธมิตรในอุตสาหกรรมคว้าโอกาส ตอบสนองความต้องการเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น และใช้แนวโน้มในอนาคตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"มาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้ ด้วยการสร้างเครือข่ายแห่งอนาคตเพื่อรองรับบริการในอนาคต พร้อมปลดปล่อยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ 5G เพื่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง" เขากล่าว
ในสุนทรพจน์ว่าด้วยการขับเคลื่อนวงจรธุรกิจ 5G เชิงบวกและการอ้าแขนรับ 5.5G (5G-A) คุณหลี่กล่าวว่า "เราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสู่ความสำเร็จของธุรกิจ 5G โดย 5G-Advanced ก็คือก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของ 5G"
เขาย้ำว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญทุกครั้งล้วนเป็นผลมาจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีอเนกประสงค์ (General Purpose Technology) "ตอนนี้เราอยู่ในยุคดิจิทัล ซึ่งอินเทอร์เน็ตเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล"
"5G เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหม่" คุณหลี่กล่าว "และทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีอเนกประสงค์ และสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลแล้ว 5G กำลังช่วยเปิดตลาดและโอกาสใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว"
คุณหลี่กล่าวเสริมว่า เครือข่ายมือถือในอนาคตจำเป็นต้องมีคุณสมบัติหลักหกประการ ได้แก่ ดาวน์ลิงก์ 10 Gbps, อัปลิงก์ 1 Gbps, เครือข่ายเชิงกำหนด (Deterministic Networking), รองรับการเชื่อมต่อ IoT นับแสนล้าน, เซนเซอร์และการสื่อสารแบบควบรวม (Integrated Sensing & Communications) และความสามารถด้านเนทีฟ เอไอ (native AI) เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้เล่นในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับปรุงความสามารถอย่างต่อเนื่องในสามส่วนหลัก ได้แก่ ความเร็วของการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เพิ่มขึ้น (Enhanced Mobile Broadband: eMBB) การรองรับการสื่อสารของอุปกรณ์จำนวนมาก (Massive Machine Type Communications: mMTC) รวมถึงการสื่อสารที่มีเสถียรภาพสูงและความหน่วงต่ำ (Ultra-Reliable Low-Latency Communication: URLLC) อีกทั้งยังต้องพัฒนาความสามารถใหม่สามประการ ได้แก่ การสื่อสารบรอดแบนด์ที่มุ่งเน้นการอัปลิงก์ (Uplink Centric Broadband Communication: UCBC) การสื่อสารบรอดแบนด์แบบเรียลไทม์ (Real-Time Broadband Communication: RTBC) รวมถึงเซนเซอร์และการสื่อสารแบบประสาน (Harmonized Communication and Sensing: HCS)
เมื่อพูดถึง 5G-Advanced ซึ่งเป็นวิวัฒนาการก้าวต่อไปของเทคโนโลยี 5G คุณหลี่กล่าวว่า อุตสาหกรรมจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศของอุปกรณ์และแอปพลิเคชัน ระบุกรณีการใช้งาน ตลอดจนเร่งดำเนินการเชิงพาณิชย์ในส่วนของโซลูชัน FWA Square, Passive IoT และ RedCap
ความพยายามเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทรนด์ใหม่ทั้งห้าที่จะกำหนดอนาคตดิจิทัลอัจฉริยะ ได้แก่
การดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่น
อุตสาหกรรมการดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงการเรนเดอร์บนคลาวด์และมนุษย์เสมือนจริง 3 มิติแบบเรียลไทม์ จะยกระดับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำสมจริงไปอีกขั้น และในอนาคต อุปกรณ์มากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือและทีวี จะรองรับการดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้การรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับวิดีโอ 2 มิติ
ยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ
ภายในปี 2568 จะมีรถยนต์อัจฉริยะมากกว่า 500 ล้านคันบนท้องถนน เครือข่ายที่มีแบนด์วิดท์สูงและความหน่วงต่ำจะช่วยให้ยานพาหนะอัจฉริยะสามารถแบ่งปันข้อมูลกับผู้ขับขี่ ยานพาหนะ ถนน และระบบคลาวด์ได้แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ ในโหมดช่วยขับ ยานพาหนะอัจฉริยะจะใช้ข้อมูลมากกว่า 300 กิกะไบต์ทุกเดือนเพื่อฝึกโมเดลบนคลาวด์และอัปเดตอัลกอริทึมรายสัปดาห์ ส่วนในโหมดขับขี่อัตโนมัติ ปริมาณการใช้ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า
การผลิตยุคใหม่
ด้วยความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การแบ่งเครือข่าย (Network Slicing) และการประมวลผลแบบเอดจ์ (Edge Computing) ทำให้จำนวนเครือข่ายส่วนตัว 5G สำหรับการใช้งานระดับองค์กรเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า และขนาดของตลาดก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสายการผลิตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พึ่งพาเครือข่ายไร้สายมากขึ้น และระบบการผลิตหลักถูกโยกไปอยู่บนคลาวด์มากขึ้น ดังนั้นเครือข่าย 5G จึงมีข้อกำหนดที่สูงขึ้น
หัวเว่ยทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสายการผลิตทดลอง 5G-Advanced เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม สำหรับสายการผลิตนี้ 5G-Advanced จะรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายเชิงกำหนดที่ใช้งานพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้เชื่อมพลังการประมวลผลระหว่างคลาวด์กับเอดจ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเชื่อมต่อ IoT อย่างง่ายดาย
มีการเชื่อมต่อ IoT บนมือถือมากกว่าสามพันล้านครั้งทั่วโลก และตอนนี้ 5G รับบทบาทในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ มากกว่าผู้คน ในอนาคตอันใกล้นี้ 5G จะรองรับเทคโนโลยี IoT ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น RedCap และ Passive IoT ซึ่งจะมอบตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับรูปแบบการใช้งาน IoT ที่แตกต่างกันไป ช่วยให้การไหลเวียนของข้อมูลและสารสนเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงพลังการประมวลผลเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน Passive IoT ช่วยให้มองเห็นห่วงโซ่การผลิตและการจัดจำหน่ายทั้งหมด และช่วยเพิ่มผลผลิตโดยรวมได้ถึง 30% ในการทดลองหลายครั้ง
รับประกันการประมวลผลอัจฉริยะทุกที่
ด้วยการพัฒนาใหม่ ๆ ในด้าน AI เช่น โมเดลพื้นฐาน ส่งผลให้ความต้องการพลังการประมวลผล AI เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในปี 2568 ความต้องการนี้คาดว่าจะมากกว่าระดับปัจจุบันถึง 100 เท่า ทั้งนี้ เพื่อปลดปล่อยพลังการประมวลผล AI อย่างเต็มศักยภาพ ความสามารถเพิ่มเติมของเครือข่ายขั้นสูงคือกุญแจสำคัญ โดยเครือข่ายจำเป็นต้องมีแบนด์วิดท์มากขึ้นและความหน่วงต่ำลงเพื่อสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เมื่อรูปแบบการรับส่งข้อมูลเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เครือข่ายในอนาคตจะต้องมีความเป็นอิสระและชาญฉลาดมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่เชื่อถือได้
ทั้งนี้ หัวเว่ยจัดการประชุมโกลบอล โมบายล์ บรอดแบนด์ ครั้งที่ 14 ในหัวข้อ "ผลักดัน 5.5G สู่ความเป็นจริง" (Bring 5.5G into Reality) ในระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมอย่าง จีเอสเอ็มเอ (GSMA), จีทีไอ (GTI) และสภาโทรคมนาคมซามีนา (SAMENA Telecommunications Council) เพื่อเจาะลึกเรื่องราวความสำเร็จของ 5G การเติบโตอย่างเต็มที่ของระบบนิเวศ การพัฒนา 5G-A/5.5G เชิงพาณิชย์อย่างรวดเร็ว และศักยภาพของเทคโนโลยีบรอดแบนด์มือถือในการกำหนดอนาคตและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนและอุตสาหกรรม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.huawei.com/en/events/mbbf2023
Source : หลี่ เผิง ผู้บริหารหัวเว่ย ประกาศสนับสนุนวงจรธุรกิจ 5G เชิงบวก พร้อมอ้าแขนรับ 5.5G (5G-A)
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network