- การออกแบบมุ่งเน้นความยั่งยืนโดยผสานเข้ากับภูมิทัศน์อันน่าทึ่งของอัลอูลาได้อย่างกลมกลืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทางด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราและพื้นที่ค้าปลีกกว้างขวาง ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารต่อปีจาก 400,000 คน เป็น 6 ล้านคน
- อาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติอัลอูลาเป็นผลงานการออกแบบที่ชนะการประกวดราคาจากทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับภูมิทัศน์อันโดดเด่นของอัลอูลาได้อย่างลงตัว
- การประกวดราคาการออกแบบอาคารผู้โดยสารเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสนามบินนานาชาติอัลอูลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมอัลอูลากับภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก
ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 31 ตุลาคม 2566 /PRNewswire/ — ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ประกาศผู้ชนะการออกแบบอาคารผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติอัลอูลาอย่างเป็นทางการ ในระหว่างการจัดงานโครงการการลงทุนแห่งอนาคต (Future Investment Initiative) ประจำปีครั้งที่ 7 ณ กรุงริยาด โดยเป็นผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจากการประกวดราคาทั่วโลก ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ผสมผสานความทันสมัย วัฒนธรรม และธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทำหน้าที่เป็นประตูบานพิเศษที่นำพาผู้มาเยือนเข้าสู่อัลอูลา ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
อาคารผู้โดยสารแห่งนี้นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ เช่น โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สปา และร้านค้าปลีกที่หลากหลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับประสบการณ์การใช้บริการสนามบินนานาชาติ อาคารผู้โดยสารแห่งนี้รวบรวมแก่นแท้ของอัลอูลา ตั้งแต่เครื่องแตะรันเวย์จนกระทั่งเครื่องเทคออฟ และจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการเดินทางของผู้มาเยือนทุกคน ทั้งนี้ ผลงานการออกแบบที่ชนะการประกวดราคาสามารถแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอาคารผู้โดยสารจะผสานรวมกับภูมิทัศน์ธรรมชาติของอัลอูลาได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ความทันสมัยและธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ด้วยเส้นทางบินใหม่ ๆ ที่เปิดให้บริการ และการคาดการณ์ว่าจะรองรับผู้โดยสารจาก 400,000 คนต่อปีทะยานขึ้นเป็น 6 ล้านคนในช่วงสุดท้ายของโครงการ อาคารผู้โดยสารแห่งนี้จึงถูกหมายมั่นว่าจะปฏิวัติการเชื่อมต่ออัลอูลากับเวทีโลก ทำให้อัลอูลากลายเป็นอัญมณีที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาชื่นชมได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว โครงการนี้ยังเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนอีกด้วย โดยโครงการจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่อัลอูลามากขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และสร้างงานจำนวนมากให้กับชาวเมืองอัลอูลา
แนวคิดในการสร้างสนามบินนานาชาติอัลอูลาเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วเพื่อรองรับการสัญจรภายในภูมิภาคของซาอุดีอาระเบีย แต่ปัจจุบันการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอัลอูลาในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก ทำให้ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินนั้นไม่เพียงพอ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนส่งผลให้สนามบินจำเป็นต้องขยายการลงทุนและการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ในทันที ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของราชกรรมาธิการอัลอูลาในการสนับสนุนการเติบโตของอัลอูลา พร้อมดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula
เกี่ยวกับราชกรรมาธิการอัลอูลา
ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย
รูปภาพ : https://mma.prnasia.com/media2/2260655/AlUla_Airport.jpg?p=medium600
รูปภาพ : https://mma.prnasia.com/media2/2260656/Expansion_of_AlUla_Airport.jpg?p=medium600
Airport terminal forms part of a wider plan for the expansion of AlUla International Airport
Source : ราชกรรมาธิการอัลอูลาเผยโฉมแบบอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของสนามบินนานาชาติอัลอูลา
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
