ฟอนเทียร่าแบ่งปันแนวทางเกษตรกรรมจากนิวซีแลนด์ มุ่งยกระดับทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย

ปากช่อง นครราชสีมา, ประเทศไทย 3 พ.ย. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

ฟอนเทียร่า (Fonterra) สหกรณ์โคนมรายใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ร่วมกับรัฐบาลไทย จัดกิจกรรมการอบรมเพื่อยกระดับทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและเสริมศักยภาพการจัดการฟาร์มโคนมในประเทศไทย

โครงการดังกล่าวเป็นโครงการเสริมศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม พัฒนาการจัดการฟาร์มและคุณภาพน้ำนม ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครราชสีมาเป็นเวลา 3 วัน โดยเป็นการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญด้านโคนม ตัวแทนเกษตรกรจากประเทศนิวซีแลนด์ นักวิชาการและเกษตรกรในท้องถิ่นของไทย

ความพยายามดังกล่าวกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 โดยได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (MFAT) และกระทรวงอุตสาหกรรมพื้นฐาน (MPI) ของนิวซีแลนด์ รวมถึงฟอนเทียร่าและกิจการในเครือ (ด้านการขายวัตถุดิบ NZMP – New Zealand Milk Products)

"เกษตรกรคือหัวใจสำคัญของสหกรณ์ของเรา และแนวทางการจัดการฟาร์มของเราก็ไม่เป็นรองใคร" แกรนต์ รัดแมน (Grant Rudman) ผู้จัดการประจำภูมิภาค ส่วนงานฟาร์ม (Farm Source) ของฟอนเทียร่า กล่าว "เราถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นในการส่งมอบสุดยอดโภชนาการด้วยวิธีการที่ใส่ใจต่อสัตว์ คน และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำคุณค่ามาสู่ชุมชนของเรา"

นับเป็นเวลาประจวบเหมาะในการดำเนินโครงการดังกล่าวให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทยที่กำลังเผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนการทำฟาร์มโคนม ซึ่งเป็นคล้ายกับสถานการณ์เกิดขึ้นกับเกษตรกรนิวซีแลนด์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมเติบโตขึ้นถึง 20% ซึ่งมีส่วนจากการนำเข้าวัตถุดิบจากนิวซีแลนด์สำหรับใช้ในการผลิตอาหารในประเทศไทยได้อย่างมีเสถียรภาพ ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์จากนมที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์นมชั้นนำในภูมิภาค

โจนาธาน คิงส์ (H.E. Jonathan Kings) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างเราที่มีมาอย่างยาวนานคือสูตรผสมสู่ความสำเร็จร่วมกัน นับเป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และสร้างความมั่นใจว่าจะมีการส่งมอบผลิตภัณฑ์นมคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคในประเทศไทยและทั่วโลกได้อย่างมีเสถียรภาพ" ทั้งนี้ เมื่อกว่า 120 ปีก่อน นิวซีแลนด์จัดส่งเนยมายังสยามประเทศเป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้ และในปี 2526 ได้จัดหาโคนมให้กับประเทศไทยมากถึง 50,000 ตัว

นมจากโคที่เลี้ยงด้วยหญ้าของนิวซีแลนด์มีคุณภาพและความปลอดภัย ในขณะที่ฟาร์มโคนมในประเทศไทยผลิตน้ำนมสดเพื่อการบริโภค จึงเป็นการเสริมสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทยด้วยการพัฒนาคุณภาพของสารอาหารในน้ำนม เพื่อนำไปสู่สุดยอดวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทย ทั้งสำหรับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและส่งออก

โครงการดังกล่าวเป็นโครงการในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ประกอบไปด้วยฝึกอบรมในชั้นเรียน สอดแทรกด้วยการฝึกอบรมภาคปฏิบัติในฟาร์มจริงหัวข้อต่าง ๆ เช่น คุณภาพนม การเลี้ยงสัตว์ และ โภชนาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงผลผลิตน้ำนม คุณภาพ การจัดการฟาร์ม และสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนเกษตรกรด้วยกันเอง

นอกจากนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความยั่งยืนในเกษตรกรรมฟาร์มโคนมของประเทศไทยต่อไป

ดาวน์โหลดรูปภาพที่นี่

เกี่ยวกับฟอนเทียร่า

ฟอนเทียร่า (Fonterra) เป็นสหกรณ์การเกษตรที่มีครอบครัวเกษตรกรนิวซีแลนด์เป็นทั้งเจ้าของและซัพพลายเออร์ เกษตรกรและพนักงานของเราจะบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ของน้ำนมของเราผ่านนวัตกรรม ทั้งในผลิตภัณฑ์เพื่อบริโภคในครัวเรือน ธุรกิจบริการอาหาร และวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต โดยมีความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่ดีขึ้นด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนชุมชนของเราผ่านคำขวัญ "Doing Good Together" (ทำดีไปด้วยกัน)

ฟอนเทียร่าประกอบกิจการในประเทศไทยมายาวนานถึง 30 ปี และเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย โดยยังมีแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคหลักคือแอนมัม (Anmum) และแอนลีน (Anlene) วางจำหน่ายในร้านค้ากว่า 120,000 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ธุรกิจบริการอาหารอย่างผลิตภัณฑ์แองเคอร์ ฟู้ด โปรเฟสชั่นแนล (Anchor Food Professionals) ได้จัดจำหน่ายให้กับร้านอาหารและเครื่องดื่มกว่า 9,000 แห่งทั่วประเทศไทย

Source : ฟอนเทียร่าแบ่งปันแนวทางเกษตรกรรมจากนิวซีแลนด์ มุ่งยกระดับทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles