ปักกิ่ง–9 พฤศจิกายน 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
นายโอเวน เมสซิก (Owen Messick) ผู้ประกอบการชาวอเมริกัน เล่าถึงประสบการณ์ที่ทำให้เขา "เซอร์ไพรส์" เป็นอย่างมาก เมื่อหวนระลึกถึงงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo หรือ CIIE) ครั้งแรก "ผมจำงาน CIIE ครั้งแรกได้เป็นอย่างดี เพราะส่งผลกระทบค่อนข้างมากทั้งต่อบริษัทของเราและต่อผมเป็นการส่วนตัว"
นายเมสซิกเล่าว่า บริษัทโดเทอร์ร่า (doTERRA) ได้จองบูธขนาด 9 ตารางเมตรในงาน CIIE ครั้งแรกเมื่อปี 2561 เพื่อลองดูกระแสตอบรับ แต่บูธเล็ก ๆ นั้นกลับทำให้แบรนด์น้ำมันหอมระเหยจากอเมริกาแบรนด์นี้ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 380 ล้านหยวน (ราว 55.48 ล้านดอลลาร์)
"ด้วยกำลังใจอันล้นหลามที่ได้รับ เราจึงจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในนครเซี่ยงไฮ้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนหลังจากงาน CIIE ครั้งแรก อีกทั้งยังเริ่มสร้างโรงงานและห้องปฏิบัติการในต่างประเทศแห่งแรกของเราขึ้นในประเทศจีนด้วย" นายเมสซิก ประธานบริษัทโดเทอร์ร่า กล่าว
บริษัทได้ขยายพื้นที่บูธเป็น 200 ตารางเมตรในงาน CIIE ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน ณ นครเซี่ยงไฮ้
เมื่อมองย้อนกลับไปที่งาน CIIE ครั้งแรก นายเมสซิกกล่าวว่า รู้สึกประทับใจกับสุนทรพจน์ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวในพิธีเปิด
"ผมคิดว่าใจความสำคัญที่ท่านต้องการสื่อก็คือ จีนเปิดรับทั่วโลก และเปิดกว้างให้ธุรกิจต่าง ๆ เข้ามาทำธุรกิจและประสบความสำเร็จในจีน ผมคิดว่าข้อความนั้นสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบริษัทต่าง ๆ อย่างมาก รวมทั้งพวกเราด้วย" นายเมสซิกกล่าว
ในจดหมายที่ส่งถึงมหกรรม CIIE ครั้งที่ 6 ประธานาธิบดีจีนก็ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของจีนในการเปิดประเทศในระดับสูง โดยให้คำมั่นว่าจีนจะแน่วแน่ในการเดินหน้าเปิดประเทศอย่างมีมาตรฐานสูง พร้อมทั้งขับเคลื่อนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในทิศทางที่เปิดกว้าง ครอบคลุม สมดุล และเป็นประโยชน์
ตลาดจีนคือตลาดสำหรับทุกคน
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดงาน CIIE ครั้งที่ 6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนมีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน โดยมีกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมากกว่า 400 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีศักยภาพมหาศาลในแง่ของอุปสงค์ในตลาด
นายหลี่คาดการณ์ว่า การนำเข้าสินค้าและบริการของจีนจะมีมูลค่าสะสมถึง 17 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ทุกประเทศไม่ว่าจะมีขนาดเท่าใดและความแข็งแกร่งเพียงใด ก็สามารถอาศัยงาน CIIE เป็นโอกาสในการเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ของจีนได้ โดยประเทศกินี-บิสเซา ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
ประเทศกินี-บิสเซา เป็นผู้ผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก โดยแรงงานมากกว่า 80% ของทั้งประเทศอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ทำรายได้เกิน 90% ของยอดส่งออกทั้งหมด ดังนั้น เม็ดมะม่วงหิมพานต์จึงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของคนในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
ในงาน CIIE ครั้งที่ 5 เมื่อปีที่แล้ว บริษัทหลายแห่งจากประเทศกินี-บิสเซา ได้รับโอกาสในการนำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงในบูธขนาด 18 ตารางเมตรโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดจีนได้
นายอันโตนิโอ เซริโฟ เอมบาโล (Antonio Serifo Embalo) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกินี-บิสเซาประจำประเทศจีน เปิดเผยว่า ในงาน CIIE เมื่อปีที่แล้ว หลายบริษัทแสดงความสนใจอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของกินี-บิสเซา และบางแห่งถึงกับวางแผนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ
สำหรับปีนี้ งาน CIIE ครั้งที่ 6 ยังคงมอบพื้นที่จัดบูธฟรีให้แก่ผู้แสดงสินค้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เช่น กินี-บิสเซา อีกเช่นเคย เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากประเทศเหล่านี้เข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น
แนวทางการจัดงาน CIIE เป็นเครื่องสนับสนุนคำกล่าวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เป็นอย่างดี โดยผู้นำจีนได้แสดงความหวังว่า งาน CIIE จะทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งเสริมการพัฒนารูปแบบใหม่ซึ่งสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับโลกผ่านการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของจีน และเป็นเวทีเปิดกว้างอย่างมีมาตรฐานสูง ซึ่งเปิดโอกาสให้โลกได้มีส่วนร่วมในตลาดอันกว้างใหญ่ไพศาลของจีน
ความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่ายทั่วโลก
ด้วยตระหนักว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังขาดแรงผลักดัน และจำเป็นต้องอาศัยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือจากทุกประเทศ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงแสดงความหวังว่างาน CIIE จะมีบทบาทมากขึ้นในการจัดหาสินค้าและบริการสาธารณะระหว่างประเทศร่วมกัน ซึ่งจะสนับสนุนเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง ซึ่งทั่วโลกจะได้ผลดีจากความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย
ในการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนก่อน ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวย้ำว่า ความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่ายเป็นหนทางสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน
งาน CIIE ได้กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้จัดแสดงสินค้าจากกลุ่มประเทศที่เข้าร่วมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง เพื่อเข้าสู่ตลาดจีนและบรรลุผลสำเร็จทุกฝ่าย
วิสาหกิจมากกว่า 1,500 แห่งจากประเทศที่เข้าร่วมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ได้เข้าร่วมงาน CIIE ครั้งที่ 6 บนพื้นที่จัดแสดงรวมเกือบ 80,000 ตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% จากงานปีที่แล้ว
"เรากำลังเห็นสัญญาณการชะลอตัวของกระบวนการโลกาภิวัตน์ อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อุปสรรคทางการค้า และปัจจัยอื่น ๆ ทำให้หลายประเทศหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น" นายเควิน โคเลวาร์ (Kevin Kolevar) รองประธานฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และนโยบายระดับโลก บริษัท ดาว (Dow) แสดงความคิดเห็น พร้อมกับเสริมว่า "ถึงกระนั้น จีนก็ส่งสัญญาณแสดงการเปิดกว้างมาโดยตลอด ในฐานะประเทศที่มีฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จีนจึงมีศักยภาพมหาศาล"
นายเควินกล่าวว่า งาน CIIE เป็นสัญลักษณ์ของความแน่วแน่และการสนับสนุนของจีนต่อโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงความร่วมมือและการเปิดกว้างระหว่างประเทศ พร้อมกับเสริมว่า งานนี้ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นเวทีความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเอื้อให้เกิดการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำจากภูมิภาคต่าง ๆ อีกด้วย
Source : CGTN: จีนเดินหน้าเปิดตลาดให้ทั่วโลกเข้ามาทำธุรกิจและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network