มิลาน, 13 พ.ย. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ตั้งแต่วันที่ 7-12 พฤศจิกายน บริษัทไถ่หลิง (TAILG) ได้จัดแสดงแบรนด์ใหม่ TLG สู่สายตาชาวโลกในงานนิทรรศการสำหรับรถจักรยานยนต์ชั้นนำ EICMA 2023 ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงนามข้อตกลงเปิดตัวร้านเรือธงแห่งแรกในยุโรป โดยมีคุณเกิ่ง เสียเวย์ (Geng Xiewei) ที่ปรึกษาสำนักงานเศรษฐกิจและการพาณิชย์ของสถานกงสุลจีน เข้าร่วมงานแถลงข่าวและกล่าวสุนทรพจน์
ในระหว่างงาน บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายอย่าง รวมถึง GTS, CTS และ TL6 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่มืออาชีพที่เข้าร่วมงาน ผลิตภัณฑ์ชุดแรกนี้จะเปิดให้ผู้คนได้ลองสัมผัสประสบการณ์ตรงที่ร้านเรือธงแห่งแรกของ TLG ในสวิตเซอร์แลนด์
คุณซุน มู่ไฉ (Sun Muchai) หัวหน้าระดับโลกของ TLG และรองประธานอาวุโสของไถ่หลิง อธิบายว่า TLG ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญกว่าสองทศวรรษของไถ่หลิงในภาคยานยนต์ไฟฟ้าสองและสามล้อ เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางในเมืองด้วยจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า แบรนด์ TLG คือการแสดงออกถึงแนวคิด Try · Love · Go (ลอง · เลิฟ · ลุย) โดยมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อกำหนดรูปแบบไลฟ์สไตล์การเดินทางในเมืองอย่างสมาร์ตและเหมาะกับแต่ละคน นอกเหนือจากการมอบโซลูชันการเดินทางระยะสั้นแบบสมาร์ตแก่ผู้ใช้แล้ว TLG ยังปรารถนาที่จะมอบประสบการณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ไฮเทค ยืดหยุ่น และยั่งยืน ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นอย่างมาก
TL6: มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 100% ความเร็วสูง
TL6 มาพร้อมกับมอเตอร์ที่ติดตั้งตรงกลางขนาด 6kW ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 กม./ชม. โดยมีเซนเซอร์ตำแหน่งโรทารี ATS เกรดเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ ทำให้มีความคล่องตัวที่เหนือกว่าในการบังคับควบคุม นอกจากนี้ยังมีโครงเบรกระดับรถแข่ง โดยมีก้ามปูเรเดียลเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่แบบสี่ลูกสูบที่มักพบในรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เชื้อเพลิงทั่วไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกของมอเตอร์ไซค์ ทำให้มั่นใจในประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัย ไว้ใจได้มากขึ้น
CTS: มอเตอร์ไซค์พลังงานใหม่พร้อมคันเหยียบ
CTS โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและสไตล์เพรียวบาง ตัวถังสีเงินและไฟหน้ารูปดาวที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้เสริมด้วยมอเตอร์กำลังแรง 5,000 วัตต์และแบตเตอรี่ลิเทียมแบบดูอัลแบงก์ขนาด 72V 34Ah ทั้งนี้ CTS สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. และเดินทางได้ไกลถึง 100 กม. ต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังรองรับระบบควบคุมความเร็วคงที่โดยไม่ต้องจับแฮนด์ให้แน่น ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างการขับขี่ระยะกลางถึงไกล CTS มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทั้งสิงห์นักบิดและคนที่ต้องการขี่กินลมชมวิว
GTS: สกู๊ตเตอร์ขับเล่นระดับไฮเอนด์
GTS เน้นไปที่ตลาดระดับไฮเอนด์ โดยมีตัวถังทรงเพชรเจียระไนเสริมด้วยพื้นผิวคาร์บอนไฟเบอร์ รุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร (PMSM) แบบ 3-in-1 ที่ติดตั้งตรงกลางขนาด 25kW ซึ่งสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 50 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 150 กม./ชม. นอกจากนี้ สกู๊ตเตอร์คันนี้ยังมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะสามารถชาร์จได้ผ่านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
TLG นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่สกู๊ตเตอร์ขับเล่นสุดหรูไปจนถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 100% ความเร็วสูงแบบนั่งคร่อม นอกจากทั้งสามรุ่นที่ว่ามาแล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวยังรวมถึง TY3 และ TY3 PRO อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ TLG พัฒนาขึ้นโดยทีมงานผู้ทุ่มเทให้กับการตอบสนองผู้ขับขี่ในยุโรปและอเมริกาเหนือที่มีสายตาแหลมคม ทีมงานใส่ใจกับการเลือกใช้วัสดุ กระบวนการผลิต และชุดผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความคาดหวังด้านโซลูชันการเดินทางแบบสมาร์ตที่ใช้งานง่าย TLG มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม ตลอดจนปรับปรุงดีไซน์และคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับไถ่หลิง TAILG
ไถ่หลิง (TAILG) ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยเป็นเครือบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ดำเนินการวิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิต จำหน่าย และจัดหาบริการต่าง ๆ สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าแบบครบวงจร ซึ่งรวมถึงบริการเช่ารถ ชาร์จแบตเตอรี่ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ตลอดจนบริการอื่น ๆ ตลอดทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม ไถ่หลิงมีศูนย์ R&D มาตรฐานสูงและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรระดับชาติมากกว่า 1,000 รายการ บริษัทมีฐานการผลิต 9 แห่งในจีน โดยมีกำลังการผลิตยานพาหนะต่อปีรวมกันมากกว่า 12 ล้านคัน นอกจากนี้ ไถ่หลิงยังมีร้านค้ามากกว่า 30,000 แห่ง และส่งออกยานพาหนะไปมากกว่า 90 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tailg.com/
Source : ไถ่หลิงเปิดตัวแบรนด์ TLG และผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน EICMA ขับเคลื่อนการขยายตัวทั่วโลก
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
