หางโจว, จีน–14 พฤศจิกายน 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
แอสโทรเนอร์จี (Astronergy) ผู้บุกเบิกโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอน (TOPCon) ชนิดเอ็นไทป์ (n-type) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มโมดูลท็อปคอนซีรีส์ แอสโทร เอ็น7 (ASTRO N7) นั่นคือ รุ่นเซลล์สี่เหลี่ยมผืนผ้า 66 เซลล์ ซึ่งพร้อมที่จะผลิตในปริมาณมาก นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกอันยอดเยี่ยมที่จะช่วยให้ลูกค้ามีต้นทุนลดลงและมีกำไรมากขึ้น
โมดูลท็อปคอนแบบ 66 เซลล์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในซีรีส์ แอสโทร เอ็น7 ยังคงผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเซลล์ท็อปคอน 3.0 (TOPCon 3.0) และเทคโนโลยีเอสเอ็มบีบี (SMBB) ขั้นสูงที่แอสโทรเนอร์จีพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้เซลล์มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยมากกว่า 25.7%
จุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็คือ แผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนสี่เหลี่ยมผืนผ้าชนิดเอ็นไทป์ขนาด 210 มม.ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นี้ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเวเฟอร์ M10 ทั่วไปในท้องตลาดแล้ว พบว่าพื้นที่ของเวเฟอร์ 182*210 มม. เพิ่มขึ้นกว่า 15.6% จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์และโมดูล รวมถึงลดต้นทุนต่อวัตต์ได้
เมื่อพิจารณาจากขนาดโมดูลตามมาตรฐานที่ก่อนหน้านี้กำหนดโดยแอสโทรเนอร์จีและบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่งในอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ คาดว่าเซลล์สี่เหลี่ยมผืนผ้า 66 เซลล์จะทำให้โมดูลแอสโทร เอ็น7 รุ่น 66 เซลล์ มีกำลังมากกว่า 615 วัตต์ และประสิทธิภาพการแปลงพลังงานมากกว่า 22.8% ซึ่งเป็นระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมทั้งคู่
สำหรับลูกค้าที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับสาธารณูปโภคนั้น โมดูลแอสโทร เอ็น7 รุ่น 66 เซลล์ มีต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโมดูลเวเฟอร์สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 182 มม. ขณะที่คุณสมบัติแรงดันไฟฟ้าต่ำยังเอื้อต่อการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน
ด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมให้แก่ลูกค้าทั่วโลก โมดูลรุ่น 66 เซลล์จึงใช้กระจกที่มีอัตราการส่องผ่านของแสงในระดับสูง เช่นเดียวกับโมดูลแอสโทร เอ็น7 รุ่นอื่น ๆ ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการส่องผ่านของแสงได้ 0.3% เพื่อปรับปรุงสมรรถนะของโมดูล นอกจากนั้นยังเพิ่มประสิทธิภาพการแยกไอน้ำ และเพิ่มความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
โมดูลรุ่น 66 เซลล์ยังมาพร้อมคุณสมบัติอีกมากมาย เช่น ฟิล์มเปลี่ยนทิศทางแสง, ค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิ -0.29% ต่อองศาเซลเซียส, ความสามารถในการต้านทานการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสง (LID) และการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสงและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง (LeTID) ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม, การแผ่รังสีต่ำ และประสิทธิภาพเชิงกลที่ยอดเยี่ยม จึงรับประกันการผลิตไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 30 ปี ด้วยอัตราการเสื่อมสภาพเพียง 0.4% ต่อปี (ระหว่างปีที่ 2 ถึงปีที่ 30)
ในฐานะซัพพลายเออร์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่มียอดส่งมอบทั่วโลกติดอันดับท็อป 6 ของโลก แอสโทรเนอร์จีได้ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเทคโนโลยีและเป็นผู้รู้ลึกรู้จริงในตลาด บริษัทจะเดินหน้าเจาะลึกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วโลกต่อไป
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network