ปักกิ่ง–22 พฤศจิกายน 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้นำของกลุ่มประเทศ BRICS ได้จัดการประชุมวิสามัญออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นปาเลสไตน์-อิสราเอล
ในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เรียกร้องให้หยุดยิงทันที โดยระบุว่าเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่สันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน
ป้องกันหายนะด้านมนุษยธรรม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจะต้องยุติความเป็นปรปักษ์และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที ตลอดจนยุติความรุนแรงทุกรูปแบบและการโจมตีพลเรือน รวมทั้งต้องปล่อยตัวพลเรือนที่ถูกจับเป็นตัวประกันด้วย
ผู้นำจีนกล่าวเสริมว่า ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมจะต้องได้รับการคุ้มครองและไร้อุปสรรคขัดขวาง และควรให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแก่ประชาชนในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ การลงโทษแบบเหมารวมในฉนวนกาซา ด้วยการบังคับให้ประชาชนย้ายถิ่น รวมถึงการตัดน้ำ ไฟฟ้า และเชื้อเพลิง ต้องยุติลงได้แล้ว
ขณะเดียวกัน เขาเรียกร้องให้ประชาคมโลกใช้มาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามและเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา จีนได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์ฉุกเฉินมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ผ่านทางองค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์และหน่วยงานต่าง ๆ ขององค์การสหประชาชาติ พร้อมจัดหาสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์ฉุกเฉินมูลค่า 15 ล้านหยวน (2.1 ล้านดอลลาร์) เช่น อาหารและยา ให้แก่ฉนวนกาซา โดยได้รับความช่วยเหลือจากอียิปต์
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะจัดหาสิ่งของจำเป็นและให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมตามความต้องการของประชาชนในฉนวนกาซาต่อไป
ความพยายามของจีนในการส่งเสริมสันติภาพ
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลครั้งล่าสุดปะทุขึ้นมา จีนก็ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการเจรจาสันติภาพและการหยุดยิงมาโดยตลอด
ในฐานะที่เป็นประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนนี้ จีนได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อสร้างฉันทามติและผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับสถานการณ์ในฉนวนกาซา
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับรองข้อมติ 2712 ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Pause) และการสร้างระเบียงทางมนุษยธรรม (Humanitarian Corridor) อย่างเร่งด่วนและขยายออกไปทั่วฉนวนกาซา "ในระยะเวลาที่เพียงพอต่อความต้องการ" โดยข้อมติดังกล่าวถือเป็นผลงานชิ้นแรกของคณะมนตรีความมั่นคงในประเด็นฉนวนกาซา หลังจากความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนอันประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอาหรับและอิสลาม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน อียิปต์ อินโดนีเซีย และปาเลสไตน์ ร่วมด้วยเลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม ได้เดินทางเยือนประเทศจีนเป็นเวลาสองวัน โดยเริ่มในวันที่ 20 พฤศจิกายน
คณะผู้แทนเลือกประเทศจีนเป็นจุดหมายแรกของการเดินสาย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติความเป็นปรปักษ์ระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอาหรับและอิสลามต่างชื่นชมจุดยืนที่ยุติธรรมของจีนในประเด็นปาเลสไตน์ และคาดหวังว่าจีนจะมีบทบาทมากขึ้นในการยุติความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบรรลุความเป็นธรรมและความยุติธรรม
"สันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืนในตะวันออกกลางไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากการแก้ปัญหาปาเลสไตน์อย่างยุติธรรม" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันอังคาร
Source : CGTN: จีนเรียกร้องสันติภาพและความยุติธรรมในประเด็นปาเลสไตน์-อิสราเอล ระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network