ฉางชา จีน 24 พ.ย. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
jwplayer(‘myplayer1’).setup({file: ‘https://mma.prnasia.com/media2/2284230/SANY_s_New_Energy_Action.mp4’, image: ‘https://mma.prnasia.com/media2/2284230/SANY_s_New_Energy_Action.mp4?p=medium’, autostart:’false’, stretching : ‘uniform’, width: ‘512’, height: ‘288’});
ซานี่ กรุ๊ป (SANY Group) หรือ ("ซานี่") บริษัทชั้นนำระดับโลกแห่งอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ ตอกย้ำการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก ก่อนการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (COP28 UAE) ซึ่งจะมีขึ้น ณ นครดูไบเป็นเวลา 13 วัน ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม ภายใต้แนวคิด "การลงมือทำ" (Actionism) เพื่อเรียกร้องให้คนทั่วไปลุกขึ้นมาเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับการประชุม COP28 จะมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์สำคัญ 4 ด้านด้วยกันคือ เร่งการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำความตกลงเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ให้ความสำคัญกับบทบาทของมนุษย์และธรรมชาติในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และสร้างความมั่นใจว่า ในการประชุมครั้งนี้จะมอบโอกาสที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง คนพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่น เยาวชน รวมถึงประเทศต่าง ๆ เป็นต้น
ซานี่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำโซลูชันที่ยั่งยืนเข้ามาสู่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การก่อสร้าง พลังงานลม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อวาระการประชุมทั้งในเชิงรุกและเชิงบวก
มาตรการสีเขียวเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ซานี่กำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อเพิ่มการใช้พลังงานสีเขียว (พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม) ในกระบวนการผลิต เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานเดิม ๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และสนับสนุนการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทฯ ริเริ่มโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งการวิจัยและพัฒนาและการใช้โซลูชั่นพลังงานลม ไฮโดรเจน และการจัดการพลังงานไฟฟ้า จนประสบผลสำเร็จที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ซานี่ รีนิวเอเบิล เอเนอร์จี (SANY Renewable Energy) ในเครือซานี่ ได้ลงทุนก่อสร้างทุ่งกังหันลมเพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานลมในโครงสร้างพลังงาน ผ่านการปรับปรุงอัจฉริยะในด้านการผลิตและการสร้างสรรค์กิจกรรมการฝึกอบรมอัจฉริยะ ส่งผลให้ในภาพรวมนั้น ซานี่ รีนิวเอเบิล เอเนอร์จี สามารถลดการใช้พลังงานต่อหน่วยและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการปรับปรุง
ในปี 2565 ซานี่ได้เพิ่มการเชื่อมต่อมาตรวัดพลังงานอีกกว่า 3,000 จุด นอกจากนี้ยังได้สร้างนิคมสถานีผสมผสานอัจฉริยะแห่งแรกของจีน (mixing station park) และลงทุนอีก 3.22 ล้านหยวนในการก่อสร้างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 900,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งนิคมสถานีผสมผสานอัจฉริยะแห่งนี้จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 887 ต้น ลดฝุ่นได้ 242 ตัน ลดซัลไฟด์ได้ 26.7 ตัน และลดไนตริกออกไซด์ได้ 13.4 ตัน เพื่อความสำเร็จในการพัฒนาร่วมกันระหว่างการผลิตอัจฉริยะและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
บริษัทในเครือซานี่ได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง โดยมีการใช้พลังงานสะอาด 16.013 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
นอกจากนี้ ซานี่ยังมีส่วนร่วมในเชิงรุกในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและการจัดเก็บ พร้อมกับเพิ่มการใช้พลังงานไฮโดรเจนไปในเวลาเดียวกัน
มาตรการรับมือสภาพอากาศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ช่วยแก้ปัญหาคอขวดในอุตสาหกรรม
ซานี่จะจัดตั้งซัพพลายเชนสีเขียว โดยจะใช้วัสดุหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร และพัฒนาความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน
ซานี่ยังคงปรับปรุงกลไกระยะยาวอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษ เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการควบคุมการปล่อยของเสีย ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ก๊าซ และสารอันตรายอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงดำเนินการทางธุรกิจและการดำเนินงานที่อาจสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาอย่างระมัดระวัง ในปี 2565 ซานี่ กรุ๊ป ควบคุมการปล่อยน้ำเสียและก๊าซได้ตามอัตรามาตรฐาน 100% และมีอัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการกำจัดของเสียอันตรายได้ 100% เช่นกัน
นอกจากนี้ ซานี่ กรุ๊ป ยังผลักดันการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมมลพิษให้อยู่ในระดับต่ำสุด เพื่อให้การลดคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์นั้นครอบคลุมถึงการเลือกใช้วัสดุด้วย ในปี 2565 ซานี่ กรุ๊ปมีความหนาแน่นของการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (VOC) ในระดับ 0.0011 ตันต่อรายได้ 1 ล้าน ลดลงจากปีฐาน 39.71%
ขณะเดียวกัน การปรับปรุงเทคนิคและกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งเสริมเทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงานและความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ไม่เพียงแต่จะมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (carbon footprint) โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย "คาร์บอนคู่ขนาน" (Dual Carbon)
เรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ซานี่จัดโครงการฝึกอบรมและดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้กับพนักงานโดยให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมคาร์บอนต่ำ นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับชุมชน และนวัตกรรมการศึกษา โดยในปี 2565 พนักงานของบริษัทฯ ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาครบ 687.4 ชั่วโมง ขณะที่ซานี่ให้การสนับสนุนโครงการเพื่อสวัสดิภาพสาธารณะ 15 โครงการ คิดเป็นจำนวนเงินปีละ 9.75 ล้านหยวน
ขณะเดียวกัน ซานี่ คอนสตรักชัน อินดัสทรี (SANY Construction Industry) คือผู้นำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสีเขียวในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเมือง เพื่อเร่งการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและการสร้างเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนระบบการคมนาคมขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสถาปัตยกรรมที่มีการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน ยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเมือง และความเป็นอยู่ของผู้คน
ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ซานี่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ดิน มหาสมุทร พืชผล และสัตว์ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร
ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นนั้น ซานี่ ในฐานะผู้นำแห่งอุตสาหกรรมสีเขียว มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมในเชิงรุกในความพยายามทั่วโลกที่จะรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผ่านการริเริ่มโครงการครอบคลุมด้านต่าง ๆ ในวงกว้าง เช่น ซัพพลายเชนสีเขียว พลังงานสีเขียว และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซานี่ กรุ๊ป สามารถติดตามได้ทาง www.sanyglobal.com หรือติดตามซานี่ กรุ๊ป ทางเฟซบุ๊กหรือยูทูบ
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network