กรุงเทพฯ ประเทศไทย – Media OutReach – 27 พฤศจิกายน 2566 – ขณะที่ Black Friday กำลังใกล้เข้ามาถึง โบรกเกอร์ระดับโลก FBS จะเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเทศกาลลดราคาที่ใหญ่ที่สุดของปีและผลกระทบที่มีต่อตลาดการเงิน โดยนักวิเคราะห์ของ FBS จะศึกษาถึงความเป็นไปของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเฉพาะอเมริกา พวกเขาจะวิเคราะห์ปฏิกิริยาของสินทรัพย์และสภาวะเศรษฐกิจมหภาคเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบในช่วง Black Friday ได้ดีขึ้น
สิ่งที่ส่งผลต่อตัวเลขการใช้จ่ายในช่วง Black Friday
นักวิเคราะห์ของ FBS เน้นย้ำตัวบ่งชี้ที่สำคัญ 3 ประการในการวัดผลกระทบของ Black Friday ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ จำนวนผู้ซื้อ จำนวนเงินที่ใช้โดยเฉลี่ย และการใช้จ่ายทั้งหมด
ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา การใช้จ่ายโดยรวมที่ประสบผลสำเร็จได้แก่ในปี 2555, 2560, 2562, 2563 และ 2565 ซึ่งการใช้จ่ายรวมของผู้บริโภคชาวอเมริกันเกินกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์โดยเฉลี่ย
ในส่วนของจำนวนผู้ซื้อนั้น ช่วงหลังวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ระหว่างปี 2553 ถึง 2557 ถือเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด โดยจำนวนผู้ซื้อชาวอเมริกันในวัน Black Friday ทะลุ 200 ล้านรายมาโดยตลอดนักวิเคราะห์ FBS ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีความสำคัญ โดยดอกเบี้ยนโยบายได้แตะระดับต่ำสุดที่ 0.25% ในปี 2553 และกระตุ้นให้ชาวอเมริกันจับจ่ายใช้สอยในวัน Black Friday การใช้จ่ายกลับมาได้รับความนิยมสูงสุดอีกครั้งหลังจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เนื่องจาก Fed ได้ผ่อนคลายดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง ส่งผลให้ตัวเลขการใช้จ่าย Black Friday เพิ่มขึ้นเป็น 190 และ 186 ล้านคนในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากสภาพคล่องในระบบที่เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2565 ที่แนวโน้มจะแตกต่างไปจากปีก่อนหน้า แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 4% แต่ชาวอเมริกันประมาณ 197.6 ล้านคนก็ช้อปปิ้งในวัน Black Friday และยอดการใช้จ่ายรวมกันมากกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินของ FBS เชื่อว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากสภาพคล่องในตลาดที่สูงและความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
ตลาดการเงินตอบสนองต่อ Black Friday อย่างไร
เพื่อทำความเข้าใจว่าตลาดการเงินตอบสนองต่อ Black Friday อย่างไร FBS จึงได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 และดัชนีภาคการบริโภค S&P ที่แยกรายปีตั้งแต่ปี 2548 ถึง 2565 และพบว่าสิ่งที่น่าตกใจคือการที่ตลาดตอบสนองต่อรายงานยอดขายมากกว่าการชอปปิ้งวัน Black Friday โดยส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจ (66%) ที่พบในดัชนี S&P 500 หลังจากเผยแพร่รายงาน
นักวิเคราะห์ของ FBS สังเกตเป็นพิเศษว่าบริษัทแต่ละแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคการบริโภค ไม่พึงพึงพอใจต่อยอดขายวัน Black Friday ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ได้แก่ Amazon, Nike และ Home Depot
การคาดการณ์ของตลาด
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบัน นักวิเคราะห์ FBS คาดการณ์ว่าโมเมนตัมการขายจะลดลงในช่วง Black Friday นี้ ซึ่งอาจทำให้ภาคการค้าปลีกไม่ค่อยพอใจ อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของ Black Friday ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะภาคการค้าปลีกเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปยังตลาดหุ้นในวงกว้างอีกด้วย FBS แนะนำให้จับตาตัวเลขล่าสุดสำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดโลกที่ครอบคลุม การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
คำชี้แจงที่สำคัญ: เนื้อหานี้ไม่ก่อให้เกิดการเรียกร้องให้ซื้อขาย คำแนะนำในการซื้อขาย หรือคำแนะนำ และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
Hashtag: #FBS #stocks #blackfirday
https://twitter.com/FBS_broker
https://www.facebook.com/FBSThailand
https://www.youtube.com/@FBSAnalytics
The issuer is solely responsible for the content of this announcement.
เกี่ยวกับ FBS
FBS เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับใบอนุญาตและมีประสบการณ์มากกว่า 14 ปี โดยได้รับรางวัลระดับโลกมากกว่า 75 รายการ FBS กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในฐานะหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในตลาด โดยมีเทรดเดอร์จำนวนมากกว่า 27 ล้านรายและพันธมิตรมากกว่า 5 แสนรายทั่วโลก ปริมาณการซื้อขายต่อปีของลูกค้า FBS มีมูลค่ามากกว่า 8.9 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ FBS ยังเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้อีกด้วย
This content was prepared by Media OutReach. The opinions expressed in this article are the author's own and do not reflect the view of Siam News Network.