สิงคโปร์, 28 พฤศจิกายน 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป (H&M Group) ดำเนินบทบาทผู้นำในการสร้างโซลูชันการจัดหาเงินทุนเชิงร่วมมือ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอนในซัพพลายเชนแฟชั่น และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทางเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป จึงจับมือกับธนาคารรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างดีบีเอส (DBS) ริเริ่มเครื่องมือการเงินเชิงร่วมมือ ซึ่งเป็นโครงการสินเชื่อสีเขียวโครงการแรกที่ส่งเสริมการลดคาร์บอนในซัพพลายเชนอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม
การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties of the UNFCCC) ครั้งที่ 28 หรือ COP28 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตัดสินใจด้านประเด็นปัญหาสภาพภูมิอากาศระดับสูงสุดของโลก จะเปิดพื้นที่ให้ประมุขแห่งรัฐ ผู้เชี่ยวชาญสภาพภูมิอากาศ ผู้นำทางการเมือง ตัวแทนคนรุ่นใหม่ และภาคประชาสังคม ได้มารวมตัวกันในดูไบสัปดาห์นี้ การประชุมครั้งนี้มุ่งที่จะสานต่อความสำเร็จก่อนหน้าและปูทางสำหรับความมุ่งหมายในอนาคต เพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกด้านภาวะโลกรวนอย่างมีประสิทธิผล ในการนี้ ตัวแทนของเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป และดีบีเอส จะเข้าร่วมประชุมเพื่อมีส่วนร่วมในนโยบายใหม่ ๆ ตลอดจนเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศและโซลูชันเชิงนวัตกรรม
คุณอัลริกา เลเวอเรนซ์ (Ulrika Leverenz) หัวหน้าฝ่ายการลงทุนสีเขียวของเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป กล่าวว่า "เอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป มีส่วนร่วมในการบรรเทาปัญหาสภาพภูมิอากาศมาหลายปี เราผลักดันตนเองอยู่เสมอเพื่อแสดงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของเรา เราเห็นว่าอุตสาหกรรมของเรามุ่งมั่นที่จะจัดการกับผลกระทบเชิงลบด้านสภาพภูมิอากาศ แต่ในขณะเดียวกัน เรายังเล็งเห็นด้วยว่าการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศที่มีความหมายจำเป็นต้องใช้การจัดหาเงินทุนเชิงร่วมมือ สำหรับเราแล้ว การลงทุนด้านความยั่งยืนมิเพียงเป็นแนวทางที่มีความรับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังเป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์เพื่อความสำเร็จในอนาคตด้วย"
เพื่อให้สอดรับกับความมุ่งหมายของเครือฯ ในการบรรลุการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าที่จะทำให้มีเงินทุนสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทั้งซัพพลายเชนของเครือฯ และนอกเหนือจากนั้น ในแง่นี้ โครงการริเริ่มแฟชั่นสีเขียว (Green Fashion Initiative) ของเครือฯ เอื้อให้โรงงานผู้ผลิตต่าง ๆ ลงทุนในเทคโนโลยีและกระบวนการที่จำเป็น เพื่อลดความต้องการพลังงานและการใช้พลังงานทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในทั่วทั้งอุตสาหกรรมแฟชั่นได้
เพื่อช่วยเร่งการเริ่มดำเนินโครงการริเริ่มสีเขียวในทั้งซัพพลายเชน ได้มีการพัฒนาเครื่องมือการเงินเชิงร่วมมือขึ้น เปิดโอกาสให้ซัพพลายเออร์เข้าถึงเงินทุนจากดีบีเอส และเข้าถึงการสนับสนุนเชิงเทคนิคจากที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนอย่างไกด์เฮาส์ (Guidehouse) ได้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินการปรับปรุงโรงงานเพื่อลดการก่อผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ โครงการนี้ต่างจากโซลูชันการธนาคารแบบดั้งเดิมซึ่งมุ่งส่งเสริมกิจกรรมสีเขียวในทางอ้อม เนื่องจากโครงการนี้มอบเงินทุนพร้อมเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยอย่างมากแก่ซัพพลายเออร์โดยตรง สำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะ ตามที่อนุมัติโดยเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป
คุณตัน ซู่ ซาน (Tan Su Shan) หัวหน้าฝ่ายการธนาคารภาคสถาบันของดีบีเอส กล่าวว่า "การเร่งการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในซัพพลายเชนจำเป็นต้องยกระดับเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำอย่างรวดเร็ว ประกอบกับต้องมีโมเดลการจัดหาเงินทุนเชิงนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเริ่มใช้งาน เครื่องมือการเงินเชิงร่วมมือนี้เป็นตัวอย่างชั้นยอดของวิธีการสร้างผลกระทบสำหรับซัพพลายเออร์ ดีบีเอสตื่นเต้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่ครอบคลุมกว้างขวางของเราในเอเชีย ในการร่วมมือกับเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป เพื่อมอบการเข้าถึงการจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนในแบบที่ปฏิบัติได้จริง ด้วยการมอบเงินทุนสำหรับการปรับปรุงโรงงานโดยตรง เพื่อช่วยให้ซัพพลายเออร์เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดคาร์บอนได้"
เมื่อต้นปีนี้ เครื่องมือการเงินเชิงร่วมมือดังกล่าวนี้ได้ดำเนินธุรกรรมสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นรายการแรกกับผู้ผลิตรายหนึ่งในอินเดีย เพื่อมอบเงินทุนรองรับค่าใช้จ่ายการลงทุนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบข่ายที่ 3 สินเชื่อดังกล่าวนี้ช่วยให้ซัพพลายเออร์อย่างราจ วูลเลน (Raj Woollen) ได้ลงทุนเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน และเทคโนโลยีการอนุรักษ์น้ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรและลดการปล่อยคาร์บอน
คุณซูมีต นาธ (Sumeet Nath) หุ้นส่วนผู้จัดการของราจ วูลเลน อินดัสตรีส์ (Raj Woollen Industries) กล่าวว่า "ราจ วูลเลน ยึดมั่นในโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม โดยมีหนึ่งเป้าหมายหลักคือการลดผลกระทบของกระบวนการผลิตของเราต่อสิ่งแวดล้อม โครงการร่วมกันระหว่างเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป ไกด์เฮาส์ และดีบีเอสนี้ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการประเมินด้านพลังงานด้วยความเชี่ยวชาญ การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดในการเลือกโซลูชันเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด และโมเดลการจัดหาเงินทุนที่น่าดึงดูด เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะเอื้อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้สูงสุดในเส้นทางการลดคาร์บอนของเรา และเรารู้สึกขอบคุณสำหรับความร่วมมือครั้งนี้"
เอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป ตระหนักถึงความซับซ้อนและขอบเขตของความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศ โดยพบว่าการทำงานร่วมกันเป็นฐานหลักของกรอบการทำงานด้านสภาพภูมิอากาศของเครือฯ ประกอบกับการจัดหาเงินทุนเชิงร่วมมือ เป็นหนทางเดียวที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับใหญ่อย่างรวดเร็ว โมเดลการจัดหาเงินทุนเชิงร่วมมือที่มีอยู่แล้วและที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้ล้วนมีศักยภาพที่จะสร้างระบบนิเวศโซลูชัน อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีความทุ่มเทมากขึ้นจากแบรนด์และนักลงทุน ในการลงทุนร่วมกันและร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบทางการเงินของโครงการ ตลอดจนมอบทางเลือกมากขึ้นในการสนับสนุนซัพพลายเออร์ในเส้นทางการลดคาร์บอน เอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป ขอเชิญชวนให้แบรนด์และสถาบันการเงินแห่งอื่น ๆ เข้าร่วมโครงการริเริ่มของเครือฯ ทั้งนี้ ตัวแทนของเครือฯ ในการประชุม COP28 ตั้งตารอที่จะได้พบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในการประชุมครั้งนี้เพื่อหารือกันต่อไป
เกี่ยวกับเอชแอนด์เอ็ม กรุ๊ป
เอชแอนด์เอ็ม แฮนเนส แอนด์ มอริทส์ เอบี (มหาชน) (H & M Hennes & Mauritz AB (publ)) ก่อตั้งขึ้นในสวีเดนเมื่อปี 2490 และจดทะเบียนอยู่ในแนสแด็ก สต็อกโฮล์ม (Nasdaq Stockholm) แนวคิดทางธุรกิจของเอชแอนด์เอ็มคือการเสนอแฟชั่นและคุณภาพในราคาที่ดีที่สุดอย่างยั่งยืน นอกจากเอชแอนด์เอ็ม (H&M) แล้ว ทางเครือยังประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ ได้แก่ ซีโอเอส (COS), มงกิ (Monki), วีคเดย์ (Weekday), แอนด์ อาเธอร์ สตอรีส์ (& Other Stories), เอชแอนด์เอ็ม โฮม (H&M HOME), อาร์เก็ต (ARKET) และอะฟาวด์ (Afound) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ hmgroup.com
เกี่ยวกับดีบีเอส
ดีบีเอส (DBS) เป็นเครือบริการการเงินชั้นนำในเอเชีย ดำเนินงานในตลาด 19 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนอยู่ในสิงคโปร์ ดีบีเอสอยู่ในตลาดหลักที่มีการเติบโตสูงสามแห่ง ประกอบด้วย จีนแผ่นดินใหญ่และเขตปกครองทั้งหมด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ ทั้งนี้ ดีบีเอสได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "AA-" และ "Aa1" นับว่าติดกลุ่มธนาคารที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดในโลก
ดีบีเอสได้รับการยกย่องด้านความเป็นผู้นำระดับโลก โดยได้รับขนานนามว่าเป็น "ธนาคารที่ดีที่สุดในโลก" โดยโกลบอล ไฟแนนซ์ (Global Finance) "ธนาคารที่ดีที่สุดในโลก" โดยยูโรมันนี (Euromoney) และ "ธนาคารแห่งปีระดับโลก" โดยเดอะแบงเกอร์ (The Banker) ธนาคารดีบีเอสยังอยู่ในแนวหน้าของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างอนาคตของการธนาคาร โดยได้รับการเชิดชูเป็น "ธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุดในโลก" โดยยูโรมันนี และเป็น "ระบบธนาคารดิจิทัลที่มีความเป็นนวัตกรรมสูงสุด" ในโลกโดยเดอะแบงเกอร์ นอกจากนี้ ดีบีเอสยังได้รับรางวัล "ธนาคารที่ปลอดภัยที่สุดในเอเชีย" โดยโกลบอล ไฟแนนซ์ ต่อเนื่องกัน 15 สมัยตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2566
ดีบีเอสให้บริการครอบคลุมทุกด้านทั้งลูกค้าทั่วไป ธุรกิจเอสเอ็มอี และลูกค้าบรรษัท ในฐานะธนาคารที่ถือกำเนิดและเติบโตในเอเชีย ดีบีเอสจึงเข้าใจรายละเอียดที่ซับซ้อนของการทำธุรกิจในตลาดที่มีพลวัตสูงสุดทั่วภูมิภาค
ดีบีเอสมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับลูกค้า โดยดำเนินงานธนาคารในวิถีแบบเอเชีย ดีบีเอสยังสร้างผลกระทบนอกเหนือจากด้านการธนาคารผ่านมูลนิธิดีบีเอส (DBS Foundation) ด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลลัพธ์การดำเนินงานควบคู่กันในสองแง่ ทั้งในด้านกำไรและผลกระทบทางสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อม มูลนิธิดีบีเอสยังคืนกำไรให้สังคมในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งการส่งเสริมทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตให้แก่ชุมชนและการสร้างความมั่นคงยืดหยุ่นทางอาหาร
ดีบีเอสมีเครือข่ายการดำเนินงานที่ครอบคลุมกว้างขวางในเอเชีย และมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมและมอบพลังให้แก่พนักงานของธนาคาร โดยพร้อมมอบความก้าวหน้าในหน้าที่การงานให้แก่พนักงานทุกคน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dbs.com
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network