ฟาราซิส เอเนอร์จี เผยโฉมซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน สะท้อนบทบาทผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่

กานโจว จีน, 12 ธ.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

ในยุคที่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความต้องการแบตเตอรี่พลังงานซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม 2566 แบตเตอรี่พลังงานมีการติดตั้งสูงถึง 225GWh ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 116.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพื่อให้สอดรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเรื่องสมรรถนะของแบตเตอรี่ รวมถึงแง่มุมต่าง ๆ เช่น การชาร์จเร็ว ความคุ้มทุน ระยะไกล โซลูชันน้ำหนักเบา และความปลอดภัย ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำหลายรายจึงคิดค้นและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ฟาราซิส เอเนอร์จี (Farasis Energy) ยืนอยู่แถวหน้าในเรื่องข้อกำหนดของยานยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ในฐานะผู้นำระดับโลกในด้านแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่และระบบกักเก็บพลังงาน โดยขอนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมายที่พัฒนาเอาไว้ รวมถึงซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน (Super Pouch Solution) หรือเอสพีเอส (SPS) เทคโนโลยีแบตเตอรี่ eVTOL โซลูชันระบบแบตเตอรี่สมรรถนะสูงสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าแบบพกพา ที่มหกรรมซัพพลายเชนนานาชาติจีน (China International Supply Chain Expo หรือ CISCE) ประจำปี 2566


The Super Pouch Solution (SPS)

เอสพีเอสออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จ ลดต้นทุน ปรับปรุงสมรรถนะ และปรับให้เข้ากับยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ โซลูชันที่ก้าวล้ำนี้ผสานรวม 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ เพาช์เซลล์ (pouch cell) ขนาดใหญ่ ระบบแบตเตอรี่แบบบูรณาการ กระบวนการผลิตที่ล้ำสมัย และการรีไซเคิลโดยตรงที่มีประสิทธิภาพ

ไฮไลต์เด่นของเอสพีเอส

  • ความหนาแน่นของพลังงานสูง: ระบบเอสพีเอสให้ความหนาแน่นของพลังงานกว่า 220Wh/kg ความหนาแน่นอันยอดเยี่ยมนี้ทำให้ขับขี่ได้ไกลกว่า 1,000 กม. ขณะที่โครงแนวนอนแบบไม่ใช่โมดูลาร์อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับระบบโมดูลาร์ทั่วไปที่มีปริมาตรเท่ากัน
  • เทคโนโลยีเซลล์ล้ำสมัย: เซลล์เอสพีเอสใช้การห่อหุ้มฟิล์มพลาสติกอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและกระบวนการซ้อนขั้นสูง ทำให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแบตเตอรี่ทรงแท่งปริซึมและทรงกระบอกแบบดั้งเดิมในแง่ความหนาแน่นของพลังงานมากกว่า 10% สำหรับเซลล์ขนาดเดียวกัน
  • วามสามารถในการชาร์จและการคายประจุอย่างรวดเร็ว: เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 800VTC ของฟาราซิส เอเนอร์จี ทำให้เอสพีเอสรองรับอัตราการชาร์จและการคายประจุได้ตั้งแต่ 2C ถึง 6C และสูงกว่า คุณสมบัตินี้ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว โดยชาร์จให้มีระยะวิ่งถึง 400 กม. ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ขณะเดียวกันก็ยังทำให้ปล่อยพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงด้วย
  • นวัตกรรมการออกแบบน้ำหนักเบา: เอสพีเอสนำเพาช์เซลล์ขนาดใหญ่รูปแบบกึ่งแข็งมารวมเข้ากับแชสซีของระบบโดยตรง ควบคู่ไปกับแผ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวสมรรถนะสูง ส่งผลให้ใช้ประโยชน์จากปริมาณได้ถึง 75% และลดจำนวนส่วนประกอบลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ระบบมีน้ำหนักเบากว่าระบบแบตเตอรี่แบบเดิมถึง 20-30 กก. มอบความน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
  • ปลอดภัยกว่าเดิม: เอสพีเอสมาพร้อมระบบเคมีที่ปลอดภัย ออกแบบเพาช์เซลล์ให้ซ้อนกันได้อย่างปลอดภัย ใช้วัสดุการเปลี่ยนเฟสที่เป็นกรรมสิทธิ์ การจัดการระบายความร้อนที่เหนือกว่า และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ เพื่อให้จัดการความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม นวัตกรรมเหล่านี้เพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความร้อนได้ถึงสี่เท่า และยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้เป็นมากกว่า 3,000 รอบ แม้ในเซลล์ที่มีปริมาณนิกเกิลสูง เอสพีเอสก็ยังป้องกันการแพร่กระจายของความร้อนในกรณีที่เกิดปฏิกิริยาที่มีการคายความร้อนสูงในแต่ละเซลล์ด้วย
  • ความคุ้มค่า: การออกแบบของเอสพีเอสลดความต้องการวัสดุเสริมได้อย่างมาก และทำให้ไม่ต้องแยกส่วน ช่วยลดต้นทุนวัสดุได้ถึง 33% สายการผลิตนี้ทำงานร่วมกับระบบเคมีต่าง ๆ ได้ ทั้งแบตเตอรี่เหลว กึ่งแข็ง และโซลิดสเตต ซึ่งตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและระยะยาวของผู้ผลิตยานยนต์ได้ นอกจากนี้ ตัวระบบยังปรับแต่งขนาดได้ โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับความหนาของเพาช์เซลล์แนวนอนตั้งแต่ 85 มม. ถึง 145 มม. ความสามารถในการปรับตัวนี้ช่วยให้ระบบแบตเตอรี่มีความจุได้ตั้งแต่ 80kWh ถึง 150kWh ทำให้เอสพีเอสเหมาะกับยานพาหนะทุกประเภทบนแชสซีเดียว จึงช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ย่นวงจรการวิจัยและพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ ลดต้นทุนการจัดซื้อ และหาซัพพลายได้อย่างมั่นคง
  • การผลิตอัจฉริยะและปล่อยคาร์บอนต่ำ: เอสพีเอสนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ นวัตกรรมดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และความยั่งยืนมาใช้ จึงซ้อนอิเล็กโทรดได้เร็วถึง 0.125 วินาทีต่ออิเล็กโทรด โดยใช้หุ่นยนต์มากกว่า 1,200 ตัว ทำให้มีอัตราระบบอัตโนมัติอยู่ที่ 98.5% ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะตรงตามมาตรฐานคุณภาพ PPB อย่างสม่ำเสมอ

ระบบเอสพีเอสของฟาราซิส เอเนอร์จี สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานระดับโลก นับตั้งแต่เปิดตัวนั้น โซลูชันดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ทุกวันนี้ ภาคส่วนแบตเตอรี่มีแนวทางทางเทคนิคและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่มากมาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างต้นทุน ความปลอดภัย และสมรรถนะ เพื่อรองรับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ และเมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) มีความเสถียร และผู้ผลิตรถยนต์มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จ โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างเอสพีเอสก็กำลังกรุยทางสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาส

Source : ฟาราซิส เอเนอร์จี เผยโฉมซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน สะท้อนบทบาทผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles