กรุงเทพฯ , 29 ธ.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ (APX Solutions) สตาร์ตอัปโลจิสติกส์เทคโนโลยี (LogTech) ของไทย ประกาศคว้าเงินทุนก้อนใหม่จากเอดีบี เวนเจอร์ส (ADB Ventures) เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและขยายธุรกิจในสิงคโปร์และมาเลเซีย พร้อมให้บริการไตรมาสแรกในปี 2567
Powering Ahead: APX’s leadership steering the company’s technological advancements and strategic growth across Southeast Asia.
นอกจากนี้ เงินทุนดังกล่าวจะเข้ามาช่วยยกระดับแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ของเอพีเอ็กซ์ โดยนำ AI ไปผสานเข้ากับความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง การระดมทุนรอบนี้มี ORZON Ventures และ WV Fund II ร่วมด้วย และคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะแล้วเสร็จในต้นปี 2567
ธุรกิจระดับประเทศ สู่ธุรกิจแห่งอาเซียน
เอพีเอ็กซ์ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางปี 2565 และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้หลักจากบริการขนส่งภายในประเทศไทยซึ่งเพิ่มขึ้นสี่ถึงห้าเท่าเมื่อเทียบกับการดำเนินธุรกิจในช่วงแรก คิดเป็นรายได้กว่า 460,000 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 เอพีเอ็กซ์ประสบความสำเร็จในการจัดการพาเลทเกือบ 27,000 พาเลท หรือเทียบเท่าน้ำหนักสินค้ากว่า 18,900 ตัน ผ่านเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าแบบ hub-and-spoke ทั่วไทย ซึ่งมีศูนย์กระจายสินค้าหลักอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ณ ปัจจุบัน เอพีเอ็กซ์ให้บริการลูกค้ากว่า 90 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ
แผนธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการมากกว่าการขนส่งสินค้า
"ผมรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนจาก ADBVentures และเราพร้อมสานต่อภารกิจในการพลิกโฉมวงการรถบรรทุกให้เกิดการแชร์พื้นที่บนรถบรรทุกร่วมกันหรือที่เรียกว่าLTL Network (เครือข่ายการขนส่งแบบไม่เต็มคัน)" คุณ Uwe Dettmann CEO ของ APX กล่าว "ADB ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากและโมเดลการวิ่งรถของAPX ยังสามารถคำนวณได้ว่าในการวิ่งรถแต่ละเที่ยวช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้เท่าไรซึ่ง LTL เป็นโมเดลการวิ่งรถที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่บนรถบรรทุกอย่างแท้จริง โดยเราตั้งใจจะขยายธุรกิจเครือข่าย LTL ไปสู่ภูมิภาคอาเซียน
ขยายเส้นทางการค้าทั่วภูมิภาค SEA
APX ตั้งเป้าขยายธุรกิจไปยังสิงคโปร์และมาเลเซียในปี 2567 โดยใช้ประโยชน์จากการที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่โดดเด่นในเอเชียแปซิฟิก เพื่อเร่งพัฒนาฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง รองรับบริการการขนส่งแบบไม่เต็มคัน (LTL) ทั้งในประเทศ (Domestic) และข้ามพรมแดน (Cross-border) ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (door-to-door) ซึ่งเชื่อมโยงไทยเข้ากับสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์เป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่ APX ตัดสินใจขยายตลาด
ส่วนในของมาเลเซียนั้น APX เตรียมให้บริการการขนส่งทั้งแบบไม่เต็มคัน(LTL) และแบบเหมาคัน (FTL) ครอบคลุมทั่วประเทศมาเลเซียและข้ามพรมแดน (Cross-border) ในไตรมาส 1 ปี 2567โดยมีศูนย์กลางการดำเนินงานระดับภูมิภาคในปีนัง ยะโฮร์บาห์รู ปะหัง และสำนักงานใหญ่ในชะฮ์อาลัม การเปิดตัวธุรกิจในมาเลเซียจะช่วยให้ APX ให้บริการลูกค้ารายหลัก ๆ ที่มีการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียได้ และในระยะยาวนั้น APX ก็มุ่งสร้างเครือข่ายรถบรรทุกแบบไม่เต็มคันในรูปแบบที่มีความยั่งยืนทั่วไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นกับผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงที่ APX นำมาสู่แวดวงโลจิสติกส์ มีการนำโมเดลการใช้พาเลทมาพัฒนาอีกทั้งจัดสรรที่ว่างบนรถบรรทุกเพื่อลดการวิ่งรถเที่ยวเปล่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ และส่งเสริมซัพพลายเชนให้ยั่งยืนกว่าเดิม" คุณฐิติรัตน์ สิทธัครเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก ADB Ventures กล่าว "ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในอุตสหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดคือการขนส่ง ซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากนัก โมเดลการขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบเดิม ๆ ทำให้ 80% ของรถบรรทุกต้องตีรถเปล่ากลับต้นทาง เมื่อส่งของเสร็จ APX จึงแก้ปัญหาด้วยโมเดลการวิ่งรถแบบของเรา ผนวกกับเทคโนโลยีในการจัดการสินค้า อย่างการนำสินค้าของลูกค้าหลาย ๆ เจ้ามารวมกัน หรือที่เรียกว่า Consolidation และแบ่งการจัดส่งเป็นพาเลท ที่สามารถลดทั้งการใช้แรงงานและย่นระยะเวลาขนส่ง
พัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเชิงกลยุทธ์
นอกเหนือจากการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคแล้ว เงินทุนก้อนใหม่นี้ยังจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ APX รวมถึงการผนวกรวมกับระบบซอฟต์แวร์ภายนอก ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ และปรับปรุงแพลตฟอร์มที่ลูกค้าและพันธมิตรต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุด ทำให้การจัดส่งสินค้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การตรวจสอบสถานะการขนส่งแบบ real-time จัดเก็บ สรุป และวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่งสินค้า และระบบการจัดการคลังสินค้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
อนาคตวงการโลจิสติกส์
APX มีวิสัยทัศน์สูงสุดในการสร้างเครือข่ายการขนส่งทางรถบรรทุกแบบไม่เต็มคัน (LTL) ที่ยั่งยืนให้ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนให้ทั้งลูกค้า ผู้ประกอบการบริษัทรถบรรทุกและโลกใบนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ APX หรือดูรายละเอียดเพื่อความร่วมมือในอนาคตได้ที่ https://apx.group/หรือติดตามบนโซเชียลมีเดีย @APXSolutions
เกี่ยวกับ APX
เอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ (APX Solutions) เป็นผู้บุกเบิก ที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมรถบรรทุกทางบกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ยังไม่มีบริษัทใดสร้างเครือข่าย LTL ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งหลายครั้งปริมาณสินค้าไม่ได้มากพอสำหรับการเหมารถทั้งคัน นอกจากนี้ เรามีเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่ฝังวิธีการวิ่งรถแบบ hub-and-spoke รวมถึงจัดการการขนส่งเต็มรูปแบบให้ลูกค้าและพาร์ตเนอร์บริษัทรถบรรทุกของเรา โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีกด้วย
แนวทางที่ว่านี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการรถบรรทุกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกระดับระบบการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น เอพีเอ็กซ์ยังช่วยให้เจ้าของรถบรรทุกในแต่ละท้องถิ่น (สมาชิกเอพีเอ็กซ์) สามารถขยายธุรกิจของตนไปทั่วประเทศและทั่วเอเชียได้ ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ เครือข่ายเอพีเอ็กซ์ยังมีบทบาทสำคัญในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์สำหรับประเทศในแถบอาเซียน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เอพีเอ็กซ์พัฒนาการจัดส่งสินค้าแบบไม่เต็มคัน (LTL) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถของการแข่งขันในตลาด นับว่าเอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ อยู่ในระดับแนวหน้าในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพลิกโฉมวงการรถบรรทุกทางบก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจอาเซียนให้เติบโตอีกด้วย
APX makes LTL logistics accessible for every business with its efficient and flexible palletized shipment model, online tracking system, transparent pricing, and simplified booking process.
Source : เอพีเอ็กซ์คว้าเงินทุนจาก ADB Ventures ขยายธุรกิจไปสิงคโปร์-มาเลเซียพร้อมให้บริการไตรมาสแรกในปี 2567
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network