CGTN: ตีแผ่เรื่องราวความทันสมัยของจีน ในการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งโลก

ปักกิ่ง, 1 ม.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — การยกระดับจีนให้ทันสมัยเป็นสิ่งที่คนจีนมุ่งแสวงหามาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น

ปี 2566 เป็นปีแรกที่จีนได้เริ่มดำเนินการตามหลักการชี้นำจากการประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) แห่งชาติ ครั้งที่ 20 ซึ่งเข้ามากำหนดทิศทางในการยกระดับจีนให้ทันสมัยก้าวหน้า

CGTN ได้เปิดตัวเพจอินเทอร์แอคทีฟพิเศษอย่าง "Chinese Modernization, Global Opportunities" (ความทันสมัยของจีน โอกาสในระดับโลก) เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าของจีน และบทบาทของจีนในระดับสากลตลอดปี 2566 ผ่านวิชวลเอฟเฟกต์และเรื่องราวเชิงลึก

มุ่งยกระดับความทันสมัยของจีน

ในปี 2566 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ออกดูงานในจีนรวม 14 ครั้ง ทั้งยังได้ออกแผนและให้คำแนะนำโดยละเอียดในระหว่างการเยือนแต่ละครั้ง และเรียกร้องให้ทุ่มเทความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาความทันสมัยของจีนให้สอดรับกับลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น

การพัฒนาเป็นคำสำคัญที่ปธน.สีกล่าวถึงบ่อยที่สุดในระหว่างการดูงาน สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งนี้เป็นเป้าหมายในการยกระดับความทันสมัยของจีน

ปธน.สีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในพื้นที่ที่เขาไปเยือน เพื่อนำแนวคิดการพัฒนาแบบใหม่ไปใช้อย่างเต็มที่ พร้อมแสดงให้เห็นความสำคัญในการมุ่งส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงและสร้างรูปแบบการพัฒนาขึ้นใหม่

นอกเหนือไปจากการพัฒนาแล้ว นวัตกรรม เทคโนโลยี ความทันสมัย นิเวศวิทยา วัฒนธรรม ผู้คน เศรษฐกิจ คุณภาพ และความมั่นคงปลอดภัย ก็ยังเป็นคำและวลีที่ปธน.สีกล่าวอยู่บ่อย ๆ ในระหว่างการดูงาน ตามผลการวิเคราะห์ของ CGTN

จีนดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนา โดยในปี 2566 นั้น จีนยังคงเป็นกลไกสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะโต 5.4% ในปี 2566 สอดคล้องกับการคาดการณ์ทั่วโลก

คืนกำไรให้โลกของเรา

ในปี 2566 จีนได้ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง เสถียรภาพ และสันติภาพในระดับโลก โดยแบ่งปันผลลัพธ์จากการพัฒนาที่จีนได้รับอันเป็นผลจากความทันสมัยให้กับทั้งโลก

ปธน.สี กล่าวในสุนทรพจน์ปีใหม่รับปี 2567 ว่า "เราจะทำงานร่วมกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติ สร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ และทำให้โลกเป็นที่ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน"

ในการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง (China-Central Asia Summit) ครั้งแรกนั้น จีนและ 5 ประเทศในเอเชียกลางได้ลงนามในเอกสารระดับทวิภาคีและพหุภาคีรวม 7 ฉบับ และข้อตกลงความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ มากกว่า 100 ฉบับ

การประชุมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (Belt and Road Forum for International Cooperation) ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญที่สุดเนื่องในวาระครบรอบ 10 ปีของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ให้ผลลัพธ์มากถึง 458 รายการ โดยมีข้อตกลงความร่วมมือมูลค่ามากถึง 9.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ร่วมกันร่างแผนแม่บทเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้แน่นแฟ้น ในระหว่างการเจรจาที่ "ตรงไปตรงมาและประสบผลสำเร็จ" ในกรุงมอสโก ส่วนการพบปะระหว่างปธน.สีกับปธน.ไบเดนที่หลายคนตั้งตารอคอยในซานฟรานซิสโก ก็มีบทบาทสำคัญในการปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนกับสหรัฐ

จีนได้เข้ามามีส่วนสนับสนุนการเติบโตของประเทศแถบซีกโลกใต้ในปี 2566 โดยได้สนับสนุนการขยายตัวขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้และกลุ่มบริกส์ (BRICS) นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มแผนต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แอฟริกาทันสมัยมากขึ้น และลงนามในเอกสารความร่วมมือในโครงการ BRI กับชาติอาหรับและสันนิบาตอาหรับทั้ง 22 ประเทศ

เมื่อเดือนมีนาคม จีนได้เข้ามาช่วยเป็นตัวกลาง เพื่อให้ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตและเปิดสถานทูตของตนอีกครั้ง

จีนได้พิสูจน์ตนเองด้วยคำพูดและการกระทำว่าตนสนับสนุนสันติภาพโลกมาโดยตลอด และยังคงมีบทบาทในการพัฒนาโลกและเป็นผู้ปกป้องระเบียบระหว่างประเทศด้วย

https://news.cgtn.com/news/2023-12-31/How-Chinese-modernization-brings-new-opportunities-to-world-1pZoMDZdlSg/p.html

Source : CGTN: ตีแผ่เรื่องราวความทันสมัยของจีน ในการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งโลก

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles