กรุงเทพฯ, 29 ม.ค. 2567/พีอาร์นิวส์ไวร์/ — เมื่อไม่นานมานี้ อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ประกาศขยายความร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ด้วยการขยายโปรแกรม Eco Deals ของอโกด้าเพื่อสนับสนุน 8 โครงการอนุรักษ์ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการประชุมด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ATF) ทั้งนี้อโกด้าได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน และเลขาธิการอาเซียน โดยมีคุณออมรี มอร์เกนสเติร์น, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร, อโกด้า และคุณเอลิซาเบธ คลาร์ก, ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์, องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสิงคโปร์ (WWF-สิงคโปร์) กล่าวสรุปวิสัยทัศน์ และเป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้ให้ผู้แทนจากองค์การท่องเที่ยวแห่งอาเซียน สํานักงานเลขาธิการอาเซียน และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน โปรแกรม Eco Deals ของอโกด้าเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนธีมของ ATF: "การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพอย่างมีความรับผิดชอบ – อนาคตของอาเซียนที่ยั่งยืน"
สำหรับโปรแกรม Eco Deals ในปี 2024 นี้ อโกด้าจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้ WWF สิงคโปร์ 4 เท่า เป็น 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (จาก 250,000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2023) เพื่อสนับสนุนความพยายามในการอนุรักษ์ของสำนักงาน WWF 8 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยสำนักงานในประเทศลาว (เจ้าภาพ ATF ปีนี้) กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เช่นเดียวกับโปรแกรม Eco Deals ในปี 2023 อโกด้าจะบริจาคเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการจองห้องพักของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการแต่ละครั้ง กองทุนนี้จะถูกแบ่งไปสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ต่าง ๆ ของ WWF เช่น โครงการอนุรักษ์สัตว์ทะเล ป่าไม้ และสัตว์ป่า โครงการคุ้มครองเสือโคร่งในมาเลเซีย โครงการคุ้มครองฉลามวาฬในฟิลิปปินส์ และโครงการคุ้มครองช้างในประเทศไทย รวมไปถึงโครงการอื่น ๆ เช่น โครงการอนุรักษ์ซาวลาในเวียดนาม โครงการฟื้นฟูระบบนิเวศในอินโดนีเซีย โครงการสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในกัมพูชา และโครงการปรับปรุงพื้นที่ชุ่มน้ำในเขตเมืองในลาว ขณะนี้โปรแกรม Eco Deals กำลังเปิดรับสมัครพาร์ทเนอร์ที่พักของอโกด้าเข้าร่วมโปรแกรม และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปจองห้องพักได้ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567 จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567
คุณออมรี มอร์เกนสเติร์น, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร, อโกด้า กล่าวที่ ATF เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมาว่า "อโกด้า ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นตั้งใจทำให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้คนมากขึ้น ตระหนักดีว่าเรามีหน้าที่ช่วยอนุรักษ์จุดหมายปลายทางต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ จากการร่วมมือกับ WWF ภายใต้โปรแกรม Eco Deals และจากการส่งเสริมของพาร์ทเนอร์โรงแรมของเราที่ผ่านมา เรายังคงตั้งใจจะสนับสนุนโครงการริเริ่มเชิงรุกต่าง ๆ ที่จะช่วยอนุรักษ์ และปกป้องโลกต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าโลกนี้จะยังคงมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการท่องเที่ยวการสำรวจสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคต"
ฯพณฯ นางสวนสวรรค์ วิยะเกต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน กล่าวว่า "เรายินดีต้อนรับภาคเอกชน และภาครัฐที่มีส่วนร่วมส่งเสริม และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับทรัพยากรการท่องเที่ยวในอาเซียน ตามกรอบอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในยุคหลัง COVID-19 ยกตัวอย่างเช่น การร่วมมือกันของอโกด้าและ WWF ซึ่งช่วยเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบ และอาเซียนในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวชั้นดี"
คุณวิเวก กุมาร์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, WWF สิงคโปร์ กล่าวว่า "รายงาน Living Planet ล่าสุดของ WWF แสดงให้เห็นว่าจำนวนสัตว์ป่าลดลงอย่างน่าตกใจถึง 69% โดยเฉลี่ย ในเวลาไม่ถึงหนึ่งช่วงชีวิต ในฐานะศูนย์กลางระหว่างประเทศ WWF สิงคโปร์อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป โครงการอนุรักษ์ที่เราดำเนินการในช่วงสองปีที่ผ่านมา สร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน และในปีนี้ที่เราร่วมมือกับอโกด้าเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน เราก็ตั้งใจจะขยายโครงการอนุรักษ์สัตว์ทะเล ป่าไม้ และสัตว์ป่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้ได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา"
โครงการอนุรักษ์ต่าง ๆ ของ WWF ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากโปรแกรม Eco Deals ครั้งที่ 2 ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง:
- ในสิงคโปร์ มีการจัดฝึกอบรมอาสาสมัคร 5 ครั้ง สำหรับโปรแกรม Cyber Spotters เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทั้ง 156 คน มีทักษะในการระบุรายชื่อการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายกว่า 6,000 รายการ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และโซเชียล
- ในกัมพูชา เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของรัฐบาล 41 คน และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจากชุมชน 42 คน ได้รับการฝึกอบรม และปฏิบัติการลาดตระเวน 299 ครั้ง ครอบคลุมระยะทางกว่า 17,000 กิโลเมตร ในพื้นที่คุ้มครองของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเซรย์ปกและพนมพริช ซึ่งนำไปสู่การค้นพบแหล่งตัดไม้ และลักลอบล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย 13 แห่ง
- ในอินโดนีเซีย พื้นที่ทั้งหมด 1.42 ตารางกิโลเมตร ได้รับการฟื้นฟูด้วยกิจกรรมปลูกป่าที่คนในชุมชนร่วมทำกับบุคลากรของ WWF มีการใช้กล้องดักถ่าย 28 ตัว เพื่อติดตามกิจกรรมของสัตว์ป่า จับภาพเสือโคร่งสุมาตรา และลูก 2 ตัว ที่หายากได้
- ในมาเลเซีย มีผู้เข้าร่วม 116 คน แบ่งเป็น 20 ทีม ออกลาดตระเวนพื้นที่ป่าเบลุม-เตเมงกอร์เป็นเวลากว่า 2,849 วัน และเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ไม่พบบ่วงดักสัตว์ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้องดักถ่าย 282 ตัว ใน 141 จุด ในพื้นที่เพื่อติดตามกิจกรรมของสัตว์ป่า
- ในเวียดนาม มีการวางแผนจัดซื้อ GPS และสมาร์ทโฟน โดยใช้ SMART Connect และ SMART Mobile สำหรับการลาดตระเวน มีการกำหนดหลักสูตรฝึกอบรมวิธีการใช้เทคโนโลยี SMART ในระหว่างการลาดตระเวน เพื่อการจัดการ และปกป้องสัตว์ป่า รวมไปถึงถิ่นที่อยู่ของสัตว์ที่ดีขึ้น ให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคจำนวน 90 คน ที่อุทยานแห่งชาติยกดอน และศูนย์อนุรักษ์ช้างดั๊กลัก
–จบ–
เกี่ยวกับอโกด้า
อโกด้าเป็นแพลตฟอร์มด้านการเดินทางที่ช่วยให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวไปได้ในทุก ๆ ที่ พร้อมมอบข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับการจองบริการต่าง ๆ นับแต่ โรงแรมและที่พักส่วนตัวกว่า 4 ล้านแห่งทั่วโลก ตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย เว็บไซต์ Agoda.com และแอปพลิเคชั่นอโกด้าให้บริการในภาษาต่าง ๆ ถึง 39 ภาษา และมีฝ่ายบริการลูกค้าคอยให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
อโกด้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NASDAQ:BKNG) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย และมีพนักงานมากกว่า 6,900 คนใน 26 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมดต่างทำงานด้วยความมุ่งมั่นพร้อมเทคโนโลยีชั้นนำที่จะช่วยให้การเดินทางของทุกคนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ WWF-สิงคโปร์: องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) เป็นหนึ่งในองค์กรอนุรักษ์อิสระที่ใหญ่ที่สุด และได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ภารกิจของ WWF คือการหยุดความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของโลก และสร้างอนาคตที่มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
ในฐานะศูนย์กลางระหว่างประเทศแห่งหนึ่งของ WWF WWF สิงคโปร์ส่งเสริมเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ WWF สิงคโปร์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างสิงคโปร์ รวมไปถึงภูมิภาครอบตัวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนมากขึ้น WWF สิงคโปร์ทำงานเพื่อจัดการกับประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเงินที่ยั่งยืน การตัดไม้ทำลายป่า การค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย การอนุรักษ์สัตว์ทะเล รวมไปถึงการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือ การศึกษา และความพยายามในการสร้างการตระหนักรู้กับชุมชน ธุรกิจ และรัฐบาลต่าง ๆ
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network