การประชุมสุดยอดวัฒนธรรมแห่งอนาคตเมืองอัลอูลาครั้งแรก ชูแนวคิดที่เป็นนวัตกรรม ความสำเร็จทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมแก่ผู้ร่วมงานทั่วโลก

อัลอูลา, ซาอุดีอาระเบีย, 22 กุมภาพันธ์ 2567 /PRNewswire/ — ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ในความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมซาอุดีอาระเบีย พร้อมเชิญผู้นำทางวัฒนธรรม ผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี และศิลปินจากทั่วโลกกว่า 150 คนมารวมตัวกัน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดทางวัฒนธรรมครั้งแรกของซาอุดีอาระเบีย ณ เมืองอัลอูลา ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกล่าวถึงประเด็นทางวัฒนธรรมที่เร่งด่วนที่สุด

Daimumah
Daimumah

การประชุมสุดยอดวัฒนธรรมแห่งอนาคตเมืองอัลอูลา (AlUla Future Culture Summit) ครั้งแรกจะจัดขึ้นที่ดาอีมูมะห์ (Daimumah) ที่ซึ่งศิลปะร่วมสมัย ธรรมชาติ และมรดกมารวมตัวกันในใจกลางอันงดงามของโอเอซิสทางวัฒนธรรม (Cultural Oasis) งานประชุมตลอด 3 วันจะมีการอภิปรายแบบคณะ การแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ เวิร์กชอป และการเดินทางสำรวจแบบมีไกด์เพื่อเรียนรู้ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมและทางกายภาพอันน่าทึ่งของเมืองอัลอูลา โดยจะขยายผลของอิทธิพลทางวัฒนธรรมในฐานะเป็นแรงผลักดันสำหรับความก้าวหน้าทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระยะยาว

การประชุมสุดยอดนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม "ภูมิทัศน์วัฒนธรรม" (Cultural Landscapes) โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับศิลปะและวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรม รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการสนทนาข้ามวัฒนธรรมและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

การประชุมสุดยอดประกอบด้วยประเด็นที่เป็นเสาหลัก 3 ประการ ดังต่อไปนี้:

ภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์:

การปลูกฝังนวัตกรรมและการฟื้นฟูวัฒนธรรม

โครงสร้างพื้นฐานทางวัฒนธรรมใหม่กำลังได้รับการพัฒนาทั่วราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์และงานเทศกาล ไปจนถึงงานศิลปะสาธารณะ กลุ่มผู้สนใจมีมากขึ้นทั่วโลกซึ่งต้องการสัมผัสประสบการณ์ศิลปะในภูมิประเทศที่ห่างไกลและเป็นธรรมชาติ การอภิปรายภายใต้เสาหลักนี้จะพิจารณาว่าชุมชนสามารถตอบสนองและกำหนดรูปแบบวัฒนธรรมได้อย่างไร ผลประโยชน์ของมนุษย์และสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์จะได้รับการปกป้องจากผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร และสภาพแวดล้อมในเมือง ชนบท และธรรมชาติควรได้รับการฟื้นฟูอย่างไรเพื่อผลลัพธ์ทางสังคมเชิงบวก การอภิปรายจะกล่าวถึงวิธีที่นักสร้างสรรค์สามารถนำเสนอความเข้าใจทางศิลปะแบบใหม่ที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์เกี่ยวกับธรรมชาติและความต้องการของธรรมชาติได้อย่างไร และวัฒนธรรมสามารถทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่กลมกลืนมากขึ้นระหว่างมนุษย์กับโลกธรรมชาติได้อย่างไร

พื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์:

ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกและการสนทนาข้ามวัฒนธรรม

การเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจแห่งความรู้ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคนี้เป็นความปรารถนาที่สะท้อนไปทั่วโลก จากประเทศอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมไปจนถึงเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ทางตอนใต้ของโลก การอภิปรายภายใต้เสาหลักนี้จะสำรวจวิธีการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์ ใช้ศิลปะเพื่อพัฒนาทักษะในภาควัฒนธรรม และตัดสินใจว่าทักษะดั้งเดิมใดควรเก็บไว้หรือฟื้นฟู และทักษะใหม่ใดควรได้รับการสอนเมื่อมีความก้าวหน้าทางสังคม เซสชันนี้จะกล่าวถึงนโยบายที่จำเป็นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์

การเก็บเกี่ยวผลลัพธ์:

วัฒนธรรมแบบมีส่วนร่วมและการเสริมพลังชุมชน

การผลิตทางวัฒนธรรมแผ่ขยายไปทั่วโลกโดยสื่อดิจิทัลเป็นตัวช่วย โดยได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ทำให้วัฒนธรรมท้องถิ่นเจือจางลงด้วย การสื่อสารทางวัฒนธรรมและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมใหม่ ๆ อาทิ เขตศิลปะและการริเริ่มด้านศิลปะสาธารณะ สามารถเสริมสร้างเอกลักษณ์และความเป็นเจ้าของของชุมชนได้ ในทางตรงกันข้าม ศิลปินและผู้ปฏิบัติงานบางคนต่อต้านการใช้วัฒนธรรมเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมหรือเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยตั้งคำถามว่าศิลปะควรมีไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ มีโอกาสที่จะจัดเตรียมเนื้อหาใหม่สำหรับแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือไม่ หรือเพื่อจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการเชื่อมโยงชุมชนหรือไม่ เซสชันนี้จะสำรวจประเด็นดังกล่าว ทั้งดูว่าความคิดริเริ่มฐานรากและการเป็นผู้ประกอบการจะเป็นอนาคตของการพัฒนาทางวัฒนธรรมหรือไม่ หรือรัฐบาลกลางจะยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่หรือไม่

ผู้มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมและองค์กรชั้นนำของโลกจะเข้าร่วมการเสวนา การอภิปรายแบบคณะ และการประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงการกล่าวปาฐกถาพิเศษจาก ฯพณฯ ราคัน อัลทูค (Rakan AlTouq) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย วิทยากรที่มีชื่อเสียงท่านอื่น ๆ ได้แก่ เคลาส์ บีเซนบาค (Klaus Biesenbach) ภัณฑารักษ์ชาวเยอรมันและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์, โรนัลด์ ราเอล (Ronald Rael) ศาสตราจารย์ สถาปนิก และศิลปิน, โลรองต์ เลอ บง (Laurent Le Bon) ประธานศูนย์ปงปีดู, นิโกลาส์ บูริโยด์ (Nicolas Bourriaud) ภัณฑารักษ์และนักวิจารณ์ศิลปะ, โบส กฤษณะมาชารี (Bose Krishnamachari) จิตรกรและภัณฑารักษ์ชาวอินเดีย, อากิโกะ มิกิ (Akiko Miki) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์นานาชาติและภัณฑรักษ์, สถาปนิกลีนา เอล ก๊อตเมห์ (Lina El Ghotmeh) และศาสตราจารย์เอ็มมานูเอล ค็อกเซีย (Emanuele Coccia), ฟาติมา อัลบานาวี (Fatima Albanawi) ผู้สร้างภาพยนตร์และนักแสดง, ศิลปินโมฮัมหมัด อัลฟาราจ (Mohammad AlFaraj) พร้อมด้วยผู้สนับสนุนจากพันธมิตรการประชุมสุดยอด ได้แก่ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลลาห์ (KAUST), สถาบันศิลปะมิสก์ (Misk Art Institute), ศูนย์วัฒนธรรมโลกคิงอับดุลอาซิซ หรือ อิทรา (King Abdulaziz Centre for World Culture หรือ Ithra), ศูนย์ปงปีดู (Centre Pompidou) และโรงเรียนศิลปะการสร้างสรรค์จิวเวลรีลีโคล (L’ÉCOLE School of Jewelry Arts)

นอกเหนือจากการอภิปรายดังกล่าวแล้ว ยังมีการแสดงและการนำเสนอโดยบัลคิส อัลราเชด (Balqis Alrashed) ศิลปินสหสาขาวิชาชีพและการแสดงชาวซาอุดีอาระเบีย และอินัว เอลลัมส์ (Inua Ellams) กวีและนักเขียนบทละครชาวไนจีเรีย-อังกฤษ 

นอกจากนี้ยังมีการเที่ยวชมเมืองโดยรอบ รวมถึงประสบการณ์เสมือนจริง (Immersive Experience) ที่วาดี อัลฟานน์ (Wadi AlFann) ในชื่อว่า นิทานแคมป์ไฟ: จุดบรรจบแห่งความคิดสร้างสรรค์ (Campfire Tales: Crossroads of Creativity) ซึ่งเป็นการเดินทางที่คัดสรรผ่านการเล่าเรื่องด้วยการแสดงพิเศษ รวมถึงทัศนศิลป์และศิลปะการทำอาหาร งานนี้จะจัดขึ้นที่วาดี อัลฟานน์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางทางวัฒนธรรมระดับโลกแห่งใหม่สำหรับภูมิศิลป์ในปี 2569 โดยงานนี้จะเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสกับภูมิทัศน์ทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ของเมืองอัลอูลา

ทัวร์ชมนิทรรศการ มากกว่าที่ตาเห็น (More than Meets the Eye) ซึ่งเป็นนิทรรศการผลงานร่วมสมัยของศิลปินชาวซาอุดีอาระเบียที่ขอยืมมาจากนักสะสมในซาอุดีอาระเบียและจัดขึ้นที่มารายา (Maraya) ก็จะรวมอยู่ในแผนการเดินทางด้วย นิทรรศการนี้ได้รับการออกแบบโดยดร.เอฟฟัต อับดุลลาห์ ฟาดัก (Effat Abdullah Fadag) นำเสนอประวัติศาสตร์ของขบวนการศิลปะร่วมสมัยในซาอุดีอาระเบียใหม่อีกครั้ง ด้วยบันทึกเรื่องราวของศิลปินและบทบาทของนักสะสมในการพัฒนาแวดวงศิลปะ

คุณนอร่า อัลดาบัล (Nora Aldabal) กรรมการบริหารงานศิลปะและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า "การประชุมสุดยอดวัฒนธรรมแห่งอนาคตเมืองอัลอูลาซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและการสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ในการประชุมสุดยอดนี้ เราจะสำรวจบทบาทของภูมิทัศน์ในการกำหนดวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมและอิทธิพลจากธรรมชาติต่อสถานที่ที่เราอาศัยอยู่"

"วัฒนธรรมทำหน้าที่เป็นพลังของการรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยสร้างแรงบันดาลใจในการแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลก และส่งเสริมความก้าวหน้าทางสังคมผ่านการแบ่งปันความรู้และความเข้าใจ การประชุมสุดยอดดังกล่าวประสานผู้นำให้เป็นหนึ่งเดียวในวาทกรรมระดับโลกที่เกี่ยวกับการแสดงออก การขยาย และการอนุรักษ์วัฒนธรรม"

"ในฐานะที่เป็นจุดบรรจบแห่งอารยธรรมโบราณ เมืองอัลอูลามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งรวมวัฒนธรรมและแนวความคิดที่หลากหลาย การประชุมสุดยอดวัฒนธรรมแห่งอนาคตเมืองอัลอูลาสร้างขึ้นจากประเพณีที่หยั่งรากลึกเหล่านี้ พร้อมเฉลิมฉลองการเริ่มต้นบทใหม่ ดิฉันหวังว่าจะได้ต้อนรับผู้แทนและผู้เข้าร่วมงานเพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ ๆ อภิปรายถึงโซลูชันใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ในงานที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้"

การเข้าร่วมงานสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดาวน์โหลดแอป AlUla Future Culture Summit จากแอปสโตร์ของแอนดรอยด์ (Android) และแอปเปิ้ล (Apple)

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2344290/Daimumah.jpg?p=medium600 

Source : การประชุมสุดยอดวัฒนธรรมแห่งอนาคตเมืองอัลอูลาครั้งแรก ชูแนวคิดที่เป็นนวัตกรรม ความสำเร็จทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมแก่ผู้ร่วมงานทั่วโลก

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles