บาร์เซโลนา, สเปน, 8 มีนาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — ในวันแรกของงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส บาร์เซโลนา (MWC Barcelona) ประจำปี 2567 ซึ่งเพิ่งมีขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ลีโอ หม่า (Leo Ma) รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์เครือข่ายคลาวด์ของหัวเว่ย (Huawei) ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญที่น่าสนใจในการประชุมสุดยอด 5.5G Core Summit โดยคุณลีโอได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเครือข่ายหลักอัจฉริยะ 5.5G และอิทธิพลอันมากมายที่เครือข่ายดังกล่าวมีต่อเทคโนโลยีการสื่อสารยุคอนาคต พร้อมยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของบริการ เครือข่าย และระบบอัจฉริยะในการบำรุงรักษา เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการสื่อสารให้ก้าวหน้า คุณลีโอกล่าวว่า "เครือข่ายหลัก 5.5G อัจฉริยะนั้นนำบริการ เครือข่าย และเทคโนโลยีบำรุงรักษาแบบอัจฉริยะมารวมเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้ บริการ โมเดลการสื่อสาร และเครือข่ายได้ ทั้งยังช่วยสร้างช่องทางใหม่ในการเข้าถึงบริการ พลิกโฉมรูปแบบธุรกิจ และปรับเปลี่ยนแนวทางในบำรุงรักษาบนระบบคลาวด์"
เทคโนโลยีส่งเสริมการให้บริการเพื่อช่วยผู้ให้บริการเครือข่ายสร้างช่องทางใหม่ในการเข้าถึงบริการ
เมื่อเทคโนโลยีอัจฉริยะมีความก้าวหน้า และอุปกรณ์ XR แพร่หลายมากขึ้น การสื่อสารแบบโหมดเดียวได้พัฒนาไปสู่การสื่อสารหลายรูปแบบ โดยหัวเว่ยใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการให้บริการในการบุกเบิกบริการใหม่อย่าง New Calling และนำไปใช้แล้วใน 31 มณฑลทั่วประเทศจีน หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และปัจจุบันให้บริการผู้ใช้มากถึง 50 ล้านคน นอกจากนี้ยังให้บริการที่มีความก้าวล้ำอีกมากมายในเชิงพาณิชย์ เช่น การโทรด้วยเสียงแบบใช้ภาพ การแปลแบบเรียลไทม์ และการโทรที่ให้ความเพลิดเพลิน บริการเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแปลงคำพูดเป็นข้อความ คำพูดเป็นรูปภาพ และท่าทางเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งนอกเหนือจากประสบการณ์ใหม่ ๆ เหล่านี้แล้ว เทคโนโลยีที่ว่านี้ยังช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายได้สร้างช่องทางใหม่ในการเข้าถึงบริการ พลิกโฉมการดำเนินการด้วยเสียงเพียงอย่างเดียวเป็นการดำเนินการด้านคอนเทนต์ และเปลี่ยนการโทรด้วยเสียงและวิดีโอเป็นการสื่อสารหลายรูปแบบเพื่อรองรับการนำเทคโนโลยี XR มาใช้ประกอบกัน หัวเว่ยยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัวอวาตาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเสียง ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งอวาตาร์ของตนเองตามการเรนเดอร์แบบเรียลไทม์ได้ และในอนาคตอันใกล้นี้ องค์กรต่าง ๆ ยังสามารถปรับแต่งแบรนด์แอมบาสเดอร์เสมือนจริงเพื่อโปรโมตแบรนด์ของตนได้ด้วย
เทคโนโลยีเครือข่ายอัจฉริยะกำหนดนิยามใหม่ให้กับโมเดลธุรกิจ
ทุกวันนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายเผชิญกับอุปสรรคในการนำเครือข่าย MBB ไปสร้างรายได้จากประสบการณ์ โดยมีช่องว่างทางเทคนิคอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ ประเมินประสบการณ์บริการไม่ได้ เพิ่มประสิทธิภาพบริการแบบไดนามิกไม่ได้ และการดำเนินงานไม่ใช่แบบวงปิด เพื่อลดช่องว่างดังกล่าว หัวเว่ยขอนำเสนอคอนเซปต์ในการประเมิน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างรายได้ (Assessment, Optimization, and Monetization หรือ A.O.M) และนำแนวคิดดังกล่าวไปใช้ผ่านโซลูชันประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Intelligent Personalized Experience หรือ IPE) ซึ่งในส่วนของการประเมินนั้น จะเปิดโอกาสให้ประเมินประสบการณ์การบริการได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างรายได้จากประสบการณ์ ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพ ก็ช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ในการบริการได้แบบไดนามิก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายให้ถึงขีดสุด สำหรับการสร้างรายได้นั้น เมื่อรับประกันเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ใช้ก็จะได้รับรายงานประสบการณ์ทันที เพื่อให้ทราบผลลัพธ์จากการรับประกันได้ทันที โดยเทคโนโลยีเครือข่ายอัจฉริยะนี้มีแนวคิด A.O.M อยู่เบื้องหลัง ช่วยให้บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายสร้างรายได้จากประสบการณ์ที่แตกต่างได้ สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี แต่เป็นการยกระดับแนวคิดและรูปแบบธุรกิจของผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างครอบคลุม พร้อมปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ด้วย
เทคโนโลยีบำรุงรักษาอัจฉริยะพลิกโฉมแนวทางในการบำรุงรักษาบนคลาวด์
เทคโนโลยีบำรุงรักษาอัจฉริยะได้กลายเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อให้ดูแลเครือข่ายโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนวิวัฒนาการจากการปรับใช้อัตโนมัติไปเป็นการส่งมอบอัตโนมัติแบบครบวงจร จากนั้นก็พัฒนาไปเป็นระบบบำรุงรักษาที่ขับเคลื่อนด้วยกฎและใช้โมเดลขนาดใหญ่ โดยผู้ช่วยดิจิทัลและผู้เชี่ยวชาญดิจิทัล (Digital Assistant & Digital Expert หรือ DAE) อาศัยแนวทางบำรุงรักษาที่ล้ำหน้าและชาญฉลาดเช่นนี้ โซลูชัน DAE นี้รองรับการแสดงโทโพโลยีบน GUI และงัดใช้จุดแข็งในโมเดลขนาดใหญ่หลายรูปแบบ ทำให้เจาะลึกเวิร์กโฟลว์ในการบำรุงรักษาส่วนหลัก ๆ ได้ เช่น การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครือข่ายอย่างลิงก์ ทรัพยากรระบบคลาวด์ หรือข้อบกพร่องของใบอนุญาต และเมื่อผู้ช่วยดิจิทัลตรวจพบข้อผิดพลาดแล้ว ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลก็จะวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเหล่านี้ ซึ่งในอนาคตนั้น การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ น่าจะทำงานได้อัตโนมัติกว่าเดิม ซึ่งที่ไซต์ FOA (สำหรับการทำ POC) ของผู้ให้บริการเครือข่ายรายหนึ่งในจีนนั้น โซลูชัน DAE ช่วยจัดการคำร้องขอต่าง ๆ จนสำเร็จถึง 80% ช่วยลดวันทำงานต่อคนได้ถึง 750 วันต่อเดือน
การเปิดตัวเครือข่ายหลัก 5.5G ที่ชาญฉลาดเช่นนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในแง่ความสามารถทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งอุตสาหกรรมการสื่อสาร ในการเปลี่ยนไปให้บริการอย่างชาญฉลาด มีประสิทธิภาพ และเฉพาะบุคคลมากขึ้น และเมื่อเครือข่ายหลัก 5.5G พัฒนาก้าวหน้าและรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น สิ่งนี้ก็จะเสริมศักยภาพเครือข่ายการสื่อสารให้มีความชาญฉลาด เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมอบประสบการณ์การสื่อสารยุคใหม่ให้แก่ผู้ใช้ พร้อมเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ และโอกาสในการเติบโตให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย
ติดต่อ: [email protected]
Source : หัวเว่ยชูความล้ำหน้าของเครือข่ายหลักอัจฉริยะ 5.5G เปิดรับอนาคตใหม่ในการสื่อสารอย่างชาญฉลาด
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network