นครโฮจิมินห์ เวียดนาม, 22 มี.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/
ไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน (Saigon Newport Corporation หรือ SNP) ฉลองวาระสำคัญเนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี อีกทั้งยังได้รับรางวัลเชิดชูอันทรงเกียรติ Labour Hero (วีรบุรุษกรรมกร) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 งานอีเวนท์ดังกล่าวนี้เฉลิมฉลองเส้นทางที่สร้างการเปลี่ยนแปลงของ SNP ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมท่าเรือและโลจิสติกส์ของเวียดนาม
35 ปีแห่งเส้นทางสร้างการเปลี่ยนแปลง
SNP ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2532 โดยเติบโตจากท่าเรือเก่าบริเวณแม่น้ำไซง่อน ซึ่งมีจุดจอดเรืออยู่ 4 จุด ท่าเทียบเรือความยาว 1.2 กิโลเมตร และโกดังสินค้าทรุดโทรม หลังจากระยะเวลา 35 ปีที่มีการบูรณะอย่างสม่ำเสมอ SNP ได้ก้าวเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินเรือของประเทศ โดยมีท่าเรือ 28 แห่งและเครือข่ายโลจิสติกส์ทั่วประเทศ
"ในระยะเวลา 35 ปี เส้นทางของ SNP ชูความสามารถในการตั้งรับปรับตัว ซึ่งกำหนดสร้างวัฒนธรรมและเติมเต็มภารกิจของเรา" คุณโหง่ว มินห์ ถวน (Ngo Minh Thuan) ซีอีโอของไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน กล่าว "เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งแก่ลูกค้าของเราและสายการเดินเรือทั้งในและระหว่างประเทศ สำหรับการสนับสนุนและความร่วมมืออันประเมินค่ามิได้ ความเป็นพันธมิตรของพวกเขามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในความสำเร็จของเรา โดยตราไว้ซึ่งมิตรภาพและการทำงานร่วมกันอย่างยืนยาว"
ในปี 2535 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระดับโลกในด้านการดำเนินงานท่าเรือ SNP ได้มีการเปลี่ยนผ่านเชิงกลยุทธ์เพื่อเป็นผู้ดำเนินงานด้านเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าโดยที่ยังคงยึดมั่นในคุณค่าแกนหลักของบริษัทฯ การดำเนินการเชิงกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ทำให้ SNP พร้อมสำหรับการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยวางรากฐานสำหรับสถานะการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของบริษัทฯ
ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา SNP ได้พัฒนานวัตกรรมด้วยศูนย์จัดการระบบดำเนินงานโลจิสติกส์ โมเดลแบบบริษัทแม่และบริษัทลูก และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า อย่างเช่น ท็อปเอ็กซ์ (TOPX), ทีโอพีโอ (TOPO), ท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Port) และระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) จึงทำให้มั่นใจได้ในบริการคุณภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังมีสโลแกนอันเป็นหลักคิดนำทาง ได้แก่ "มายังไซง่อน นิวพอร์ท – มารับบริการคุณภาพยอดเยี่ยม" ("Come to Saigon Newport – Come to the best quality service") สะท้อนการยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในความเป็นเลิศและความพึงพอใจของลูกค้า
เส้นทางสู่ความยั่งยืนของ SNP
ที่ผ่านมาการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินงานของ SNP ดังที่แสดงให้เห็นโดยความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (German Agency for International Cooperation หรือ GIZ) ในโครงการ "การพัฒนาท่าเรือยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน" เมื่อปี 2558 นอกจากนี้ ในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา โดยควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการริเริ่มด้านดิจิทัลและสีเขียวที่ครอบคลุม SNP ได้รับรางวัลยกย่องหลายรายการ อย่างเช่น รางวัลท่าเรือสีเขียว (Green Port Award) สำหรับท่าเรือตันก๋าง – กัตลาย (Tan Cang – Cat Lai Port) และท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตันก๋าง – ก๋ายแม็บ (Tan Cang – Cai Mep International Terminal หรือ TCIT) อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (รางวัล I4.0 หรือ I4.0 Awards) และเป็นหนึ่งใน 10 บริษัทสีเขียวและยั่งยืนระดับท็อป
"SNP ให้คำมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นเลิศอย่างไม่ลดละ โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจการเดินเรือทะเลที่ยั่งยืนของเวียดนามจนถึงปี 2573" คุณโหง่ว มินห์ ถวนกล่าวต่อว่า "ในการสานต่อประวัติผลงานที่น่าภาคภูมิใจของเราในการเป็นผู้ได้รับรางวัลเกียรติยศ Labour Hero สองครั้ง SNP ทุ่มเทเพื่อโอบรับความทันสมัย คาดการณ์เทรนด์แนวโน้ม และมุ่งลงทุนในการค้นพบที่บุกเบิกความก้าวหน้า"
ตลอดหลายปี ศูนย์วิจัยและพัฒนาของ SNP ได้มอบคำแนะนำอันประเมินค่ามิได้ แนะแนวทางกลยุทธ์แบบมุ่งเป้า และเสริมสร้างความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรที่เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บริหารระดับสูงของ SNP ยังดำรงตำแหน่งสำคัญในสมาคมอันทรงเกียรติทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ อาทิ สมาคมโลจิสติกส์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Logistics Association), สมาคมโลจิสติกส์เวียดนาม (Vietnam Logistics Association), สมาคมท่าเรือแห่งอาเซียน (ASEAN Port Association) และสภาระบบบริการท่าเรือเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Port Service Systems Council หรือ APSN) บทบาทการยังประโยชน์ของ SNP ในสมาคมเหล่านี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะโซลูชันของบริษัทฯ ที่มุ่งยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การเชื่อมต่อ การพัฒนาสู่ดิจิทัล และการส่งเสริมโลจิสติกส์สีเขียว
เข้าถึงทั่วโลก เชื่อมต่อทั่วโลก
การบุกเบิกความพยายามในการพัฒนานวัตกรรมและพัฒนาสู่ดิจิทัลของ SNP ได้ขับเคลื่อนให้บริษัทฯ อยู่ในแนวหน้าของอุตสาหกรรม ในแง่นี้ SNP หมั่นปรับปรุงการดำเนินงานให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดรับกับมาตรฐานระดับโลก ซึ่งพาให้บริษัทฯ เข้าใกล้เป้าหมายการเชื่อมต่อถึงกันทั่วโลกมากขึ้น บรรดาองค์กรวิจัยท่าเรือต่างชื่นชมประสิทธิภาพท่าเทียบเรือของตันก๋าง – กัตลาย โดยจัดให้อยู่ในกลุ่มท่าเทียบเรือระดับเทียร์สูงสุดของโลก เทียบเท่าหรือเหนือกว่าระดับประสิทธิภาพของท่าเรือที่มีชื่อเสียง อย่างเช่นเซี่ยงไฮ้และสิงคโปร์
ในช่วงหลายปีมานี้ SNP ทำงานเชิงรุกร่วมกับสมาคมธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งจุดประกายให้เกิดโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมทั้งในงานอีเวนท์ระดับภูมิภาคและระดับโลก บทบาทของ SNP ในการพัฒนาด้านผลิตภาพ การเชื่อมต่อถึงกัน ดิจิทัล และโลจิสติกส์ยั่งยืนได้รับการเล็งเห็นคุณค่าในวงกว้าง เพียงเฉพาะในปี 2566 SNP ได้เข้าร่วมในงานประชุม งานจัดแสดงสินค้า และงานส่งเสริมการค้าเกือบ 30 งานใน 21 ประเทศ โดยส่งเสริมการพบปะกับผู้นำระดับสูงของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในสิงคโปร์ ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และยุโรป
"เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดหย่อน ตลอดจนสรรค์สร้างสู่ความสมบูรณ์แบบและความทันสมัย เพื่อก้าวนำหน้าเทรนใหม่ ๆ" คุณโหง่ว มินห์ ถวนกล่าว "เราตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงให้ SNP เป็นแบรนด์ใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมุ่งที่จะเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำในเศรษฐกิจการเดินเรือทะเลและภาคโลจิสติกส์ของเวียดนาม"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน โปรดเยี่ยมชม https://saigonnewport.com.vn/en
เกี่ยวกับไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน (SNP)
ด้วยการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงพลิกวงการตลอดระยะเวลา 35 ปี ไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน (Saigon Newport Corporation หรือ SNP) ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำของเวียดนามในด้านการดำเนินงานท่าเรือ โลจิสติกส์ และเศรษฐกิจการเดินเรือทะเล โดยสร้างแบรนด์ระดับระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ SNP ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนานวัตกรรม ความยั่งยืน และบริการที่เป็นเลิศ ตลอดจนดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนการเชื่อมต่อถึงกันระดับโลก
Source : ไซง่อน นิวพอร์ท คอร์ปอเรชัน ฉลองครบรอบ 35 ปีเส้นทางแห่งความสามารถตั้งรับปรับตัวและความสำเร็จ
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network