 |
- รายได้รวมสูงถึง 273.2 ล้านยูโร (+6.5%) รายได้ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 41.7 ล้านยูโร (+24.5%) รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) สูงถึง 13.4 ล้านยูโรและกำไรสุทธิสูงถึง 6.2 ล้านยูโร
- ยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มอัลตราซาวด์ (+9.7%) MRI (เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่สองติดต่อกัน (+3.3%)
- ระยะการขยายตัวต่อเนื่อง: การเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.6% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
- อีเซาเต้ (Esaote) เป็นบริษัทผู้ผลิตภาพทางการแพทย์ชั้นนำของโลก โดยมีกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรม คุณภาพ ผู้คน และการสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์
- ยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดต่างประเทศคิดเป็น 64.5% ของรายได้ทั้งหมด ลงทุน 32.9 ล้านยูโรในการวิจัยและพัฒนา มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน
เจนัว, อิตาลี, 24 เมษายน 2567 /PRNewswire/ — ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทอีเซาเต้ (Esaote S.p.A.) ที่ได้ประชุมกันในวันนี้ที่เมืองเจนัว ได้อนุมัติงบการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
Franco Fontana Esaote CEO and Eugenio Biglieri Esaote COO
ตัวเลขรวมหลักทั้งหมดของกลุ่มบริษัทสำหรับปีงบประมาณ 2566 เพิ่มสูงขึ้น: รายได้จากการขายสุทธิอยู่ที่ 273.2 ล้านยูโร (+6.5% จากปี 2565) EBITDA อยู่ที่ 41.7 ล้านยูโร (+24.5% ในปี 2565) รายได้จากการดำเนินงานของกลุ่มอยู่ที่ 13.4 ล้านยูโร (+43% ในปี 2565) กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 6.2 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นสี่เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 (1.2 ล้านยูโร)
"ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2566 เป็นเครื่องยืนยันว่ากลุ่มบริษัทได้ก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิม โดยกลุ่มยังคงขยายตัวต่อไป เห็นได้จากการเติบโตเฉลี่ย 7.6% ต่อปีที่เราทำได้ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา" คุณฟรังโก ฟอนตานา (Franco Fontana) ซีอีโอของอีเซาเต้ ให้ความเห็น "ธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้แก่การเติบโตในทุกสายผลิตภัณฑ์ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน และการมุ่งเน้นที่กระบวนการผลิต การลงทุนต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาเพื่อการแนะนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้อีเซาเต้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำของโลกในด้านการภาพทางการแพทย์ แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะซับซ้อนก็ตาม เราก็ยังมองไปสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ ยืนยันกลยุทธ์ของเราที่มุ่งเน้นนวัตกรรม คุณภาพ ผู้คน การสร้างความแตกต่างของกลุ่มผลิตภัณฑ์ และการเติบโตในตลาดที่มีศักยภาพสูง"
ในปี 2566 กลุ่มบริษัทอีเซาเต้ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอีก 9.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 32.9 ล้านยูโร หรือ 12% ของผลประกอบการ
ผลประกอบการโดดเด่นมาจากระบบอัลตราซาวด์ ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 9.7% ทำให้กลุ่มบริษัทคว้าส่วนแบ่งการตลาดชิ้นใหญ่ในพื้นที่เชิงกลยุทธ์และกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ได้สำเร็จ การเติบโตของรายได้ได้รับแรงหนุนจากระบบอัลตราซาวด์แบบรถเข็นระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะ MyLabTMX90 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้กลุ่มบริษัทเข้าสู่กลุ่มตลาดที่มีการแข่งขันทางเทคโนโลยีได้สำเร็จ
ปี 2566 เป็นปีขาขึ้นครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มธุรกิจ MRI ทั้งแบบเฉพาะจุดและแบบเปิด ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.3% และทำสถิติยอดขายใหม่ในประวัติศาสตร์ของอีเซาเต้: ระบบแม่เหล็กแบบเปิด "ทั้งตัว" ของรุ่น Magnifico Open ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ด้วยการดึงดูดความสนใจจากทุกตลาดเนื่องจากมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ความสำเร็จนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครบครันของอีเซาเต้ ซึ่งผสมผสานคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยมในการใช้งานด้านกล้ามเนื้อและกระดูก ทั้งยังติดตั้งง่าย ผู้ป่วยรู้สึกสบายไม่อึดอัด และใช้พลังงานต่ำ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ – การพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการกระบวนการวินิจฉัยและซอฟต์แวร์การวิเคราะห์เชิงปริมาณสำหรับการใช้งานด้านหัวใจและหลอดเลือด ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 3.2% อิงจากความสามารถในการสร้างความต้องการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในการดูแลสุขภาพ
สำหรับอีเซาเต้ ตลาดต่างประเทศคิดเป็น 64.5% ของรายได้ทั้งหมด ได้แก่ ยุโรปตะวันตก (17.7%) อเมริกาเหนือ (13.1%) และจีน (8.5%) ยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในละตินอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก
ณ สิ้นปี 2566 กลุ่มบริษัทมีพนักงานประมาณ 1,250 คน โดยพนักงานเกินครึ่งอยู่ในอิตาลี กระบวนการปรับปรุงทรัพยากรภายในยังคงดำเนินต่อไปด้วยการสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยเครื่องมือสนับสนุนด้านสวัสดิการ ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนยังคงดำเนินต่อไปใน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) ทุกด้าน
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2394206/Esaote_Biglieri_Fontana.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2327879/Esaote_Logo.jpg?p=medium600
Source : กลุ่มบริษัทอีเซาเต้: ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติงบการเงินงวด 31 ธันวาคม 2566
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
