คานส์, ฝรั่งเศส, 3 พฤษภาคม 2567 /PRNewswire/ — Campari แบรนด์เครื่องดื่มสีโกเมนรสเข้มขมอันเลื่องชื่อยังคงบทบาทพันธมิตรอย่างเป็นทางการของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival de Cannes) เป็นปีที่สามติดต่อกัน และจะหวนคืนสู่พรมแดงอีกครั้งในวันที่ 14-25 พฤษภาคม 2567
Festival de Cannes เป็นหนึ่งในเทศกาลภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจ ตั้งตารอ และเปี่ยมเสน่ห์มากที่สุดในโลก ด้าน Campari เองก็มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับโลกแห่งภาพยนตร์ โดยให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมและความสามารถในรังสรรค์สร้างภาพยนตร์มาตลอด 40 ปี
ดังนั้น การที่ Campari เลือกเผยแคมเปญ We Are Cinema ในการเปิดเทศกาลครั้งที่ 77 จึงเป็นช่วงเวลาอันเหมาะเจาะที่จะได้แสดงถึงการยอมรับว่าเรื่องราวของมนุษย์เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหลาย ๆ เรื่อง ด้วยบทบาทในฐานะผู้ดูแลเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย Campari เฉลิมฉลองช่วงเวลาในชีวิตจริงซึ่งกลายเป็นเรื่องราวอันน่าทึ่ง ผู้ชมแคมเปญใหม่จะหลงใหลไปกับท่วงทำนองแห่งช่วงเวลาในภาพยนตร์ที่ปลุกชีวิตชีวาอย่างมีศิลปะ และบอกเล่าผ่านเลนส์สีแดงอันสดใสจากความคิดสร้างสรรค์ของ Campari
หลังเสร็จสิ้นจากเทศกาลดังกล่าว Campari จะเป็นเจ้าภาพและโปรโมตกิจกรรมต่าง ๆ อีกครั้ง ณ Campari Lounge ใน Palais de Festival อันโด่งดัง ปีนี้ทางแบรนด์จะเปิดตัว Hyde Beach by Campari ซึ่งเป็นพื้นที่สัญลักษณ์แห่งใหม่บนถนน Boulevard de Croisette อันพร้อมต้อนรับดาราและแขกผู้ร่วมงาน และมีกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นตลอดเทศกาล
ท่ามกลางกิจกรรมน่าตื่นเต้นต่าง ๆ Campari รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่และสานต่อความร่วมแรงร่วมใจอีกครั้ง:
Cole Walliser จะประจำอยู่ที่ Campari Lounge เพื่อสัมภาษณ์บรรดาแขกรับเชิญและเหล่าเซเลบ ผู้กำกับและพิธีกรชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักจากคลิปเบื้องหลังของ GlamBOT จะคอยตามติดกิจกรรมบนพรมแดงเพื่อนำเสนอในรายการบันเทิงของเขาอย่างไม่ให้คลาดสายตา
นอกจากนี้ Campari ยังกลับมาร่วมงานกับ The Hollywood Reporter เพื่อบันทึกพอดแคสต์ Awards Chatter ฉบับเทศกาลพิเศษร่วมกับ Kevin Costner ผู้กำกับ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ และดาราจาก Horizon: An American Saga โดย Costner จะทำงานร่วมกับ Scott Feinberg บรรณาธิการบริหารฝ่ายรางวัลของ THR เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการกลับมาสู่จอภาพยนตร์แนวตะวันตกของเขาอีกครั้ง โดยจะฉายรอบปฐมทัศน์ ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปีนี้
หนึ่งในงานซึ่งทุกคนตั้งตารอมากที่สุดคือ Official Cannes After Party for Furiosa: A Mad Max Saga ซึ่ง Campari จะจัดงานสังสรรค์สุดบรรเจิด ณ Hyde Beach by Campari เพื่อเฉลิมฉลองภาคล่าสุดของสิทธิพิเศษอันเป็นเกียรติประวัติ
ทั้งนี้ Campari จะจับมือกับ Breaking Through The Lens องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ส่งเสริมสตรีในภาพยนตร์ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเงินทุนที่สำคัญเป็นปีที่ 3 พร้อมจัดงานกาล่า ‘Crossing Borders’ ร่วมกัน เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้หญิงที่ก้าวข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรม โดยช่วงเย็นจะมีการเสวนาร่วมกับ Diane Kruger นักแสดงหญิงชื่อดังระดับโลกพร้อมบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรม อาทิ Julka Villa หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Campari Group เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สุดพิเศษ
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 77 ยังถือเป็นการเปิดตัวความร่วมมือระหว่าง Campari และ Soho House ในการจัดงานแข่งขันภาพยนตร์สร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อสนับสนุนและให้เกียรติผู้มีความสามารถด้านภาพยนตร์หน้าใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบของชีวิตซึ่งเปลี่ยนความธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษ เช่นเดียวกับศาสตร์แห่งการผสมเครื่องดื่มของ Campari
Campari เป็นมากกว่าเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ด้วยคุณลักษณะซึ่งไม่ผิดเพี้ยนดังกล่าว แบรนด์จึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจอันน่าหลงใหลอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ก่อตั้ง Campari อยู่ในแถวหน้าของวัฒนธรรมค็อกเทลมาโดยตลอด โดยจุดประกายความคลั่งไคล้ให้กับบาร์เทนเดอร์ทั่วโลก บรรดาปรมาจารย์ด้านการผสมเครื่องดื่มที่เสิร์ฟค็อกเทลอันเลื่องชื่อ ทั้ง Negroni และ Campari Spritz ณ Camparino in Galleria, Campari Lounge และ Hyde Beach by Campari การันตีความเป็นสถานที่อันเหมาะสมสำหรับการจิบเครื่องดื่มเพื่อส่งต่อเรื่องราวเปี่ยมแรงบันดาลใจและพรสวรรค์เบื้องหลังความสำเร็จ
"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาเยือนเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อีกครั้ง โดยในปีนี้เราได้นำความหลงใหลของโลกภาพยนตร์และเรื่องราวต่าง ๆ มาสู่บรรยากาศของเทศกาลอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านแคมเปญ We Are Cinema ระดับโลก ด้วยมรดกอันแข็งแกร่งและยั่งยืนในโลกของภาพยนตร์ ความคิดสร้างสรรค์และความหลงใหลยังคงเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ เราตั้งตารอที่จะส่งต่อสิ่งนี้ให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมอันน่าทึ่งตลอดเทศกาลในปีนี้" Julka Villa หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Campari Group ทิ้งท้าย
โปรดติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ Campari สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม @campariofficial
#CampariCinema #WeAreCinema #Cannes2024 #FestivalDeCannes #DrinkResponsibly
www.campari.com
https://www.youtube.com/EnjoyCampari
https://www.facebook.com/Campari
https://instagram.com/campariofficial
เกี่ยวกับ CAMPARI Campari หนึ่งในค็อกเทลสีโกเมนอันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ถือกำเนิดขึ้น ณ เมืองมิลานเมื่อปี พ.ศ. 2403 โดย Gaspare Campari และมี Davide Campari บุตรชายมาบุกเบิกต่อ เขารังสรรค์เครื่องดื่มสุดโดดเด่นและปฏิวัติวงการตามสูตรลับดั้งเดิมนับจากวันนั้น สีแดงสดใสของ Campari รวมถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมอบสัมผัสอันซับซ้อนได้มาจากการหมักบ่มสมุนไพร พืชที่มีกลิ่นหอม รวมถึงผลไม้ในแอลกอฮอล์และน้ำ นอกจากความพิเศษและโดดเด่นแล้ว Campari ยังมอบความหลากหลายถึงขีดสุด พร้อมเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ที่ไร้ขอบเขตและคาดไม่ถึง Campari ถือเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจอันแรงกล้านับตั้งแต่ที่แบรนด์ก่อตั้งขึ้น ดังเห็นได้จากความเป็นอัจฉริยะด้านความคิดสร้างสรรค์ของผู้ก่อตั้ง ศิลปินในสาขาต่าง ๆ และบาร์เทนเดอร์ยอดฝีมือของโลก Campari กระตุ้นสัญชาตญาณแห่งการปลดปล่อยความหลงใหลในตัวคุณ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด
เกี่ยวกับ CAMPARI GROUP
Campari Group เป็นผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก โดยมีแบรนด์ระดับพรีเมียมและระดับซูเปอร์พรีเมียมกว่า 50 แบรนด์กระจายอยู่ในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นทั่วโลก สำหรับแบรนด์ระดับโลกซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลุ่มบริษัท ได้แก่ Aperol, Appleton Estate, Campari, SKYY, Wild Turkey และ Grand Marnier กลุ่มบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2403 และปัจจุบันเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับ 6 ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียมของโลก มีการส่งออกไปจำหน่ายในกว่า 190 ประเทศทั่วโลกโดยเป็นผู้นำตลาดในยุโรปและทวีปอเมริกา Campari Group ดำเนินกลยุทธ์การเติบโตโดยมีเป้าหมายที่จะผสมผสานการเติบโตภายในผ่านการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการเติบโตภายนอกผ่านการเลือกซื้อแบรนด์และธุรกิจอย่างพิถีพิถัน Campari Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี มีโรงงาน 22 แห่งทั่วโลก มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายของตัวเองใน 26 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 4,700 คน หุ้นของบริษัทแม่ Davide Campari-Milano N.V. (ชื่อย่อหุ้นบนรอยเตอร์ CPRI.MI – บลูมเบิร์ก CPR IM) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อิตาลีตั้งแต่ปี 2544
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.camparigroup.com/en
โปรดสนุกอย่างมีสติ
เกี่ยวกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival de Cannes) เป็นงานที่รวบรวมคนในแวดวงภาพยนตร์ทั่วโลกเพื่อส่งผลงานเข้าประกวดและเป็นตลาดภาพยนตร์ระดับนานาชาติซึ่งเน้นสื่อเป็นหลัก ทำให้เทศกาลดังกล่าวเป็นงานระดับนานาชาติประจำปีงานแรก ๆ ที่มีส่วนสร้างอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ทั่วโลก
เกี่ยวกับ CAMPARINO
Camparino in Galleria เป็นบาร์ระดับตำนานของเมืองมิลาน Davide Campari เปิดบาร์แห่งนี้ขึ้นใน Galleria Vittorio Emanuele II เมื่อปี 2458 โดยตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Caffè Campari ซึ่ง Gaspare Campari บิดาของ Davide และผู้คิดค้นเหล้าหวานรสเข้มขม ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2410 บาร์แห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวมิลานในทันทีและกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงวัฒนธรรมการดื่มเครื่องดื่มก่อนอาหารของเมืองมิลาน โดยมีการฉลองครบรอบศตวรรษไปเมื่อปี 2558 หลังจากปิดปรับปรุงและกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงปี 2562 ภายใต้อัตลักษณ์อันสดใหม่และการนำเสนออาหารพร้อมเครื่องดื่มซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมสถานะความเป็นสถานที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผสมเครื่องดื่มและความล้ำหน้าเชิงวิทยาการทำอาหาร
วิดีโอ – https://www.youtube.com/watch?v=CvXtxwfBNcQ
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2403838/Campari_bottle.jpg?p=medium600
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2403837/Campari_Lounge.jpg?p=medium600
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2403839/We_are_Cinema.jpg?p=medium600
Campari returns to the 77th Festival de Cannes, with Camparino in Galleria, master mixologists, serving up famed cocktails – including the Negroni during aperitivo hour
Campari opens its doors once again to the Campari Lounge, located in the Palais des Festival during the 77th Festival de Cannes to host a series of exclusive events
Campari launches its brand campaign ‘We Are Cinema’ at the 77th Festival de Cannes, which celebrates real-life moments that become the remarkable stories that make it to the screen
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network