กลุ่มนักศึกษาของ Knight-Hennessy Scholars ประจำปี 2567 มาจาก 30 ประเทศ และศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาใน 45 หลักสูตรของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย, 7 พฤษภาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — โครงการ Knight-Hennessy Scholars ณ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดประกาศมอบทุนประจำปี 2567 ให้กับนักศึกษาใหม่ 90 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดจวบจนปัจจุบัน นักศึกษากลุ่มที่ 7 ประกอบไปด้วยนักศึกษาจาก 30 ประเทศ ซึ่งจะศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาใน 45 หลักสูตรของบัณฑิตวิทยาลัยทั้งเจ็ดแห่งที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยเป็นครั้งแรกที่มีนักศึกษาที่มีสัญชาติออสเตรีย บาห์เรน เบลารุส โบลิเวีย บัลแกเรีย ฝรั่งเศส และศรีลังกา
โครงการ Knight-Hennessy Scholars เป็นโครงการมอบทุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาแบบสหสาขาวิชาและหลากหลายวัฒนธรรม โดยครอบคลุมบัณฑิตวิทยาลัยทั้ง 7 แห่งของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นักศึกษาในโครงการ Knight-Hennessy Scholars จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินสูงสุด 3 ปี เพื่อศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาที่สแตนฟอร์ด ตลอดจนเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายเพื่อเตรียมพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ กล้าหาญ และสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ พร้อมรับมือกับความท้าทายอันซับซ้อนที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ทั้งนี้ นักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระทางความคิด ความเป็นผู้นำที่มีจุดมุ่งหมาย และแนวคิดของการเป็นพลเมืองที่ดี
"ยิ่งผมได้เห็นกลุ่มนักศึกษาใหม่ ผมยิ่งมีความหวังเกี่ยวกับอนาคตมากยิ่งขึ้น" คุณ John L. Hennessy อธิการบดีกิตติคุณของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และผู้อำนวยการ Shriram Family ของโครงการ Knight-Hennessy Scholars กล่าว "ความซับซ้อนที่โลกของเราเผชิญมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้ยืนยันถึงความสำคัญของภารกิจของเราที่นี่"
โครงการ Knight-Hennessy Scholars มีบทบาทในการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าและเครื่องมือที่จำเป็นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย โดยองค์ประกอบสำคัญของโครงการ Knight-Hennessy Scholars ก็คือ King Global Leadership Program ซึ่งนำเสนอเวิร์กช็อป การบรรยาย โครงการ และประสบการณ์มากมายที่ช่วยสนับสนุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อผลักดันให้นักศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ของการเป็นผู้นำในท้ายที่สุด
ในจำนวนผู้รับทุนการศึกษาปี 2567 นั้น มี 47% ที่ถือหนังสือเดินทางของต่างประเทศ ขณะที่ 49% ของผู้ได้รับทุนจากสหรัฐอเมริกาเป็นคนผิวสี และ 11% เคยทำงานรับใช้กองทัพสหรัฐอเมริกา โดยผู้ได้รับทุนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันต่างๆ ถึง 60 แห่ง รวมถึงสถาบันนานาชาติ 12 แห่ง ยิ่งไปกว่านั้น 22% ยังเป็นคนแรกในครอบครัวที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ การมอบทุนให้นักศึกษากลุ่มที่ 7 ส่งผลให้จำนวนนักศึกษาที่ได้รับทุนจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 514 คน นับตั้งแต่มอบทุนให้นักศึกษากลุ่มแรกในปี 2561
"นักศึกษาแต่ละคนได้นำมุมมองที่มีความพิเศษมาสู่ชุมชนที่กำลังขยับขยายของเรา" Tina Seelig ผู้อำนวยการบริหารของโครงการ Knight-Hennessy Scholars กล่าว "ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจที่ได้เห็นพวกเขาสร้างความสัมพันธ์และได้รับความรู้ในสาขาวิชา วัฒนธรรม และอุดมการณ์ต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้พวกเขามีขีดความสามารถในการจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก"
นักศึกษาที่สนใจสามารถสมัครขอรับทุนการศึกษาจากโครงการ Knight-Hennessy Scholars ประจำปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยนักศึกษาสามารถเข้าร่วมการประชุมให้ข้อมูล เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนนักศึกษา โครงการพัฒนาความเป็นผู้นำ และขั้นตอนการรับสมัคร ทั้งนี้ โครงการ Knight-Hennessy Scholars ไม่มีโควต้าหรือข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาค วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย สาขาวิชา หรือความใฝ่ฝันด้านวิชาชีพ
โครงการ Knight-Hennessy Scholars ริเริ่มขึ้นในปี 2559 โดยตั้งชื่อตามคุณ Phil Knight ศิษย์เก่าหลักสูตรปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) รุ่น 62 ผู้เป็นนักการกุศลและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไนกี้ อิงค์ (Nike Inc.) และคุณ John Hennessy ประธานบริษัท อัลฟาเบท อิงค์ (Alphabet Inc.) และอธิการบดีกิตติคุณของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (พ.ศ. 2543-2559) โดย Knight-Hennessy Scholars ถือเป็นโครงการมอบทุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาแบบเต็มจำนวนทั่วทั้งมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ kh.stanford.edu
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2406161/DenningHouse.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1502473/Knight_Hennessy_Logo.jpg?p=medium600
Source : โครงการ Knight-Hennessy Scholars ประกาศมอบทุนการศึกษามากเป็นประวัติการณ์แก่ นักศึกษาใหม่ 90 คน
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network