การขาดความภักดีต่อแบรนด์ชี้ให้เห็นถึงโอกาสมากมายสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางของไทย

กรุงเทพฯ, 8 พฤษภาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — ผู้บริโภคชาวไทยแสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบในการทดลองผลิตภัณฑ์ด้านความงามและการดูแลส่วนบุคคล จากผลการวิจัยของ Mintel พบว่าผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) คมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่แบรนด์ต่างๆ จะต้องปรับกลยุทธ์การดึงดูดลูกค้าให้ตรงกับกลุ่มประชากรในตลาดต่างๆ ที่หลากหลาย

"ตลาดเครื่องสำอางแต่งสีผิวมีความผันผวนเป็นพิเศษ โดยมีการพัฒนาเทรนด์อย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ด้วยเหตุนี้เอง ความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มเครื่องสำอางแต่งสีผิวจึงมีจำกัด ผู้บริโภคกระตือรือร้นที่จะติดตามเทรนด์ รวมถึงเปิดรับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ยอดนิยมที่กำลังมาแรง ซึ่งมักได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย" คุณชยาภัสร์ รัชตวิภาสนันท์ (Chayapat Ratchatawipasanan) นักวิเคราะห์หลักด้านผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคลของบริษัท Mintel Reports Thailand ได้กล่าวไว้

ไม่มีอะไรที่เหมาะกับทุกคน: จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตามข้อมูลประชากร 

แม้จะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่พึ่งหัดแต่งหน้า แต่กลุ่มลูกค้าเจน ซี ที่มีอายุระหว่าง 18-26 ปีก็เริ่มใช้เครื่องสำอางในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดย 21% บอกว่าพวกเขาแต่งหน้าไปมหาวิทยาลัย รายงานของ Mintel ชี้ให้เห็นว่าคนเจน ซี ต้องการเสริมบุคลิกและเพิ่มความมั่นใจผ่านเครื่องสำอาง โดยมี 34% ต้องการให้แบรนด์ต่างๆ สื่อสารข้อความในเชิงบวก

ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มมิลเลเนียล หรือเจน วาย ที่มีอายุระหว่าง 27-42 ปี กว่าหนึ่งในสาม (35%) ชอบซื้อผลิตภัณฑ์ที่กำลังติดเทรนด์บนโลกโซเชียลมีเดีย การมีส่วนร่วมของพวกเขาขยายไปไกลกว่าแค่การบริโภคคอนเทนต์ด้านความงาม โดย 26% มีส่วนร่วมในการรีวิวผลิตภัณฑ์ และ 23% มีส่วนร่วมในชุมชนความงามออนไลน์ จากข้อมูลของคุณชยาภัสร์ แบรนด์ต่างๆ ที่มีเป้าหมายที่จะรักษาความภักดีของกลุ่มประชากรนี้สามารถมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมชุมชนออนไลน์และสนับสนุนเหล่าอินฟลูเอนเซอร์

ส่วนลูกค้ากลุ่มเจน เอ็กซ์ ที่มีอายุระหว่าง 43-58 ปี กว่าสองในสาม (67%) ยังคงเพลิดเพลินกับการบริโภคคอนเทนต์ด้านความงาม (เช่น วิดีโอหรือคลิปสั้น) แต่ความสนใจในการแต่งหน้าลดลง โดย 28% บอกว่าพวกเขามีความมั่นใจในตัวเองขณะอยู่นอกบ้านแม้ไม่ได้แต่งหน้า ยิ่งไปกว่านั้น เกือบครึ่ง (48%) ให้ความสำคัญกับเครื่องสำอางแต่งสีผิวที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงแบรนด์ต่างๆ ให้ปรับตัวสอดคล้องกับความต้องการของประชากรกลุ่มนี้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาผิว และข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับการชะลอวัย

เครื่องสำอางแบบไฮบริดยังคงติดเทรนด์

หลังจากการระบาดใหญ่ กลุ่มเครื่องสำอางแต่งสีผิวได้หันมาเน้นผลิตภัณฑ์แบบไฮบริด เพื่อช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาแต่งหน้าอีกครั้ง ข้อมูลจากระบบ Mintel Global New Products Database (GNPD) เปิดเผยว่าการเปิดตัวเครื่องสำอางแต่งสีผิวที่มีการกล่าวถึง "การดูแลผิว" บนเวทีโลกเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 26% ระหว่างเดือนตุลาคม 2561 ถึงกันยายน 2566

นอกจากนี้ คุณชยาภัสร์ยังกล่าวเสริมอีกว่า "ความปรารถนาที่จะมีผิวที่ดูสุขภาพดีควบคู่ไปกับเทรนด์ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยม จะยังคงผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวให้เพิ่มสูงขึ้น" "ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยมอบลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนเจน ซี ไปพร้อมกับตอบสนองความต้องการด้านการดูแลผิวของลูกค้าที่สูงวัย"

จากข้อมูลของ Mintel GNPD พบว่าในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ถึงกันยายน 2566 รองพื้น (42%) เครื่องสำอางสำหรับทาริมฝีปาก (20%) และคอนซีลเลอร์ (15%) กลายเป็นหมวดหมู่ยอดนิยมสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีคุณสมบัติในการดูแลผิว

 "ในขณะที่งบประมาณมีจำกัดมากขึ้น เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของลูกค้าที่อยากจะใช้เงินลงทุนด้านความงามอย่างคุ้มค่า พร้อมเพลิดเพลินไปกับคุณประโยชน์เพิ่มเติมด้านการดูแลผิว" เขากล่าว

 

Source : การขาดความภักดีต่อแบรนด์ชี้ให้เห็นถึงโอกาสมากมายสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางของไทย

This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network

Share

Latest Updates

Most Viewed

Related Articles