การแข่งขันมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ระยะเวลาสี่ปีเร่งผลักดันอุตสาหกรรมสู่โซลูชันพลิกโลกด้านการปล่อยคาร์บอนเป็นลบ
ลอสแอนเจลิส, 9 พ.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — XPRIZE ผู้นำของโลกด้านการออกแบบและจัดการแข่งขันพร้อมรางวัลจูงใจในระดับใหญ่เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายใหญ่หลวงของมนุษยชาติ ในวันนี้ได้ประกาศรายชื่อ 20 ทีมผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมในระยะสุดท้ายของการแข่งขันกำจัดคาร์บอน XPRIZE Carbon Removal การแข่งขันระดับโลกระยะเวลาสี่ปีนี้ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกรวนด้วยการปรับสมดุลวงจรคาร์บอนของโลก โดยเสนอมอบเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่นักนวัตกรรมที่สามารถสร้างและสาธิตโซลูชันซึ่งขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกจากชั้นบรรยากาศหรือมหาสมุทรโดยตรง และแยกเก็บได้อย่างคงทนและยั่งยืน รางวัลดังกล่าวนี้ช่วยเร่งส่งเสริมการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรมใหม่ โดยผลักดันกว่า 1,300 ทีมให้พัฒนาไอเดียใหม่ ๆ สำหรับการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ (CDR) ในการนี้ ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 20 รายนี้เป็นตัวแทนของโซลูชัน CDR ระดับแนวหน้าที่มีศักยภาพจะสร้างคุณประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับความพยายามหลากหลายวิธีในระดับโลกที่จะขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณระดับกิกะตันอย่างยั่งยืน
คาร์บอนไดออกไซด์ล้นเกินในชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรของโลกเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกรวน โดยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์มีสัดส่วนราวสองในสาม (71%) ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด นอกเหนือจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างจริงจัง ยังจะจำเป็นต้องมีโซลูชันกำจัดคาร์บอนเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการเกิดภาวะร้อนสุดขั้ว รูปแบบสภาพอากาศผิดปกติ และความตึงเครียดด้านการผลิตอาหารและการเข้าถึงน้ำ ตลอดจนปัญหาความท้าทายอื่น ๆ ในแง่นี้ หากไม่มีการแทรกแซงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยสำคัญ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสามารถเพิ่มขึ้น 6 องศาเซลเซียสภายในศตวรรษนี้
"เพื่อให้ทั้งโลกจัดการปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิผล การกำจัดคาร์บอนเป็นองค์ประกอบสำคัญของเส้นทางสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ไม่มีหนทางใดที่จะย้อนบรรเทาผลกระทบของมนุษยชาติต่อสภาพภูมิอากาศได้โดยไม่ดึงคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรของเรา" คุณ Anousheh Ansari ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ XPRIZE กล่าว "เราต้องการหลากหลายนวัตกรรมโซลูชัน CDR ที่แหวกแนว เพื่อจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลที่ปล่อยสู่สภาพแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อโลกของเรา บรรดาทีมที่เข้าร่วมแข่งขันชิงรางวัลนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชุดโซลูชันที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิผล ส่วน 20 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ XPRIZE Carbon Removal จะมีโอกาสได้แสดงศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยสำคัญ"
ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศได้รับคัดเลือกจากสมรรถภาพในสามด้านหลัก ประกอบด้วย ปฏิบัติการ ความยั่งยืน และต้นทุน โดยผู้เข้ารอบชิงเหล่านี้ได้แสดงความสามารถที่จะดำเนินการสาธิตครั้งสำคัญซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของการแข่งขันที่จะกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 1,000 ตันในปีสุดท้ายของการแข่งขัน และเป็นหนทางที่ปฏิบัติได้จริงสู่การบรรลุปริมาณระดับเมกะตันในหลายปีข้างหน้าและไปถึงระดับกิกะตันในที่สุด ตลอดจนแสดงความเข้าใจในผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
20 ทีมผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศตามรายนามด้านล่างนี้ แบ่งเป็นสี่กลุ่มการแข่งขันตามแหล่งวิธีกำจัดคาร์บอน ประกอบด้วย อากาศ หิน มหาสมุทร แผ่นดิน
อากาศ หรือการดักจับในอากาศโดยตรง (DAC)
1. Airhive – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหราชอาณาจักร ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: แคนาดา
เทคโนโลยีของ Airhive มอบการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์อย่างรวดเร็ว ด้วยวัสดุดูดซับทำจากโลหะออกไซด์ที่ไม่เป็นพิษและราคาไม่แพง Airhive ร่วมมือกับผู้ให้บริการการจัดเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ Exterra ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับในอากาศของ Airhive ด้วยกากโลหกรรมผ่านกระบวนการที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ
2. Heirloom – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Heirloom บุกเบิกเทคโนโลยีดักจับในอากาศโดยตรงที่มีราคาไม่แพง ซึ่งสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างถาวรในปริมาณระดับพันล้านตัน ด้วยการเร่งกระบวนการธรรมชาติของการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ โดยก่อตัวเป็นหินปูนภายในระยะเวลาหลักวัน
3. Octavia Carbon – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: เคนยา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: เคนยา
Octavia Carbon เป็นบริษัทดักจับในอากาศโดยตรงแห่งแรกของโลกใต้ เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การสร้าง และการติดตั้งใช้งานเครื่องจักรที่มีการแบ่งส่วนย่อยในระดับสูง ซึ่งดึงคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศโดยตรงโดยใช้เทคโนโลยี DAC ที่ก้าวหน้า
4. Project Hajar (44.01 & Air Capture) – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: โอมานและสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: โอมาน
Project Hajar ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง 44.01 และ AirCapture บูรณาการเทคโนโลยีดักจับในอากาศโดยตรงซึ่งใช้งานโดย AirCapture ในโอมาน เข้ากับเทคโนโลยีแปลงคาร์บอนไดออกไซด์เป็นแร่ธาตุที่บุกเบิกวงการของ 44.01 โดยมุ่งที่จะแปรสภาพคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับได้ให้กลายเป็นหิน
5. Skyrenu – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: แคนาดา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: แคนาดา
Skyrenu บูรณาการระบบดักจับในอากาศโดยตรงเข้ากับกระบวนการคาร์บอเนชันกับหิน เพื่อบำบัดกากโลหกรรมแร่ใยหิน เพื่อที่จะนำคาร์บอนออกไปกักเก็บตลอดไป
หิน
6. Arca – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: แคนาดา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: ออสเตรเลีย
เทคโนโลยีจดสิทธิบัตรของ Arca เร่งกระบวนการแปลงคาร์บอนเป็นแร่ธาตุในกากโลหกรรมและเศษหิน เพื่อสร้างโซลูชันกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับอุตสาหกรรม ด้วยการกระตุ้นให้แร่ซิลิเกตแมกนีเซียมแปรเปลี่ยนของเสียอัลตราเมฟิกจากเหมืองแร่เป็นอ่างเก็บคาร์บอนขนาดใหญ่
7. Lithos – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Lithos Carbon เร่งวงจรคาร์บอนธรรมชาติของโลก โดยใช้กระบวนการผุพังที่เพิ่มมากขึ้นของหิน (ERW) ในการเกษตรเพื่อขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศอย่างถาวร พร้อมทั้งเพิ่มผลผลิตของพืชและคุณภาพดินสำหรับเกษตรกร โดยใช้ประโยชน์จากผงหินบะซอลต์ภูเขาไฟเกรดออร์แกนิก ประกอบกับวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าล้ำสมัย เพื่อวัดการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมุ่งลดคาร์บอนในระบบอาหาร
8. Mati – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: อินเดีย
Mati กำจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศได้อย่างคงทนโดยใช้กระบวนการผุพังของหินที่เพิ่มขึ้นกับหินบะซอลต์ในนาข้าวของเกษตรกรรายย่อย กระบวนการดังกล่าวนี้ขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ พร้อมทั้งเพิ่มสารบำรุงสำคัญในดินซึ่งช่วยฟื้นฟูดินเสื่อมสภาพ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่เกษตรกรรายย่อย
9. Silicate – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: ไอร์แลนด์ ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: ไอร์แลนด์
Silicate Carbon ใช้คอนกรีตส่วนเกินจากอุตสาหกรรมก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมที่ดินทางการเกษตร โดยใช้ประโยชน์จากกระบวนการทางธรณีเคมีตามธรรมชาติเพื่อกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศอย่างถาวร ด้วยการเร่งการผุพังของแร่ธาตุ พร้อมทั้งเพิ่มค่าพีเอชของดิน ซึ่งเพิ่มผลิตภาพของผลผลิต และลดการพึ่งพายาฆ่าแมลงและปุ๋ย
10. UNDO – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหราชอาณาจักร ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหราชอาณาจักร
ด้วยเทคโนโลยีการผุพังของหินที่เพิ่มขึ้นจากธรรมชาติ UNDO สร้างเครดิตการลดคาร์บอนคุณภาพสูงอย่างถาวร โดยมีประโยชน์ควบคู่ในการสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
11. Yuanchu – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: จีน ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: จีน
Yuanchu เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพผู้บุกเบิกที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการแปลงสภาพเป็นแร่ธาตุในอากาศโดยตรง (DAM) โดยมุ่งกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศและแยกเก็บอย่างถาวรในวัสดุคาร์บอเนตที่เป็นของแข็งในปริมาณระดับกิกะตัน โดยใช้ต้นทุนต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ต่อคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตัน และมีผลผลิตจากการแปลงสภาพเป็นแร่ธาตุที่เสถียรนาน 1,000 ปี
แผ่นดิน
12. Climate Robotics – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Climate Robotics ส่งเสริมการใช้ถ่านชีวภาพในเกษตรกรรมระดับวงกว้าง ซึ่งเสริมสร้างคุณภาพดินและกำจัดคาร์บอนส่วนเกินจากชั้นบรรยากาศ เทคโนโลยีเคลื่อนที่ของบริษัทแปลงสภาพของเหลือจากผลผลิตเป็นถ่านชีวภาพที่ทนทานทั้งขณะเคลื่อนที่และในไร่เพาะปลูก ทำให้เกิดความคุ้มค่าตามหลักเศรษฐศาสตร์สำหรับเกษตรกรและระบบนิเวศของเรา
13. Mash Makes – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: เดนมาร์ก ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: อินเดีย
MASH บุกเบิกเทคโนโลยีไพโรไลซิสและการแปรสภาพเป็นก๊าซ ซึ่งแปลงสภาพของเสียเกษตรกรรมเป็นพลังงานคาร์บอนเป็นลบและถ่านชีวภาพสำหรับซ่อมแซมดิน เพื่อต่อสู้กับการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง
14. Net Zero – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: ฝรั่งเศส ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: บราซิล
ภารกิจของ NetZero คือเพื่อยกระดับขยายให้ถ่านชีวภาพเป็นโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศและเกษตรกรรม โดยให้ความสำคัญกับผลผลิตของเหลือที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ซึ่งมีอยู่มากมายในพื้นที่เขตร้อน ทั้งนี้โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะในด้านโรงไพโรไลซิสอัตโนมัติขนาดกลางที่มีประสิทธิภาพสูงและทำซ้ำได้ง่าย พร้อมทั้งดำเนินงานด้วยโมเดลครบวงจร ซึ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเกษตรกรท้องถิ่นให้เป็นทั้งซัพพลายเออร์ชีวมวลและลูกค้าถ่านชีวภาพ เช่นนี้จึงยกระดับประสิทธิภาพทางโลจิสติกส์ เพิ่มความสามารถตรวจสอบย้อนกลับ และส่งเสริมการสนับสนุนในท้องถิ่น
15. Takachar – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: อินเดีย ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: เคนยา
Takachar ใช้เทคโนโลยีของ MIT เพื่อสร้างเครือข่ายปฏิกรณ์กระจายศูนย์ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ส่งเสริมการขยายการใช้งานถ่านชีวภาพอย่างรวดเร็วและทำกำไรโดยไม่ขึ้นอยู่กับเครดิตชดเชยคาร์บอน ทั้งนี้โดยใช้ฮาร์ดแวร์เคลื่อนย้ายได้ที่มีราคาไม่แพงซึ่งอยู่ระหว่างขอจดสิทธิบัตร เช่นนี้ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยตามความต้องการเฉพาะจากถ่านชีวภาพในระดับหมู่บ้านโดยใช้เศษเหลือจากการเกษตรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรได้สูงสุด 30% และเพิ่มรายได้สุทธิ 50% จึงช่วยเสริมสร้างความยุติธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
16. Vaulted Deep – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Vaulted มอบการกำจัดคาร์บอนอย่างถาวรที่ปรับขยายได้ ด้วยกระบวนการทางธรณีวิทยาในการแยกเก็บของเสียออร์แกนิกที่เต็มไปด้วยคาร์บอน การแยกเก็บแบบของเหลวข้น (slurry sequestration) ที่จดสิทธิบัตร ใช้กระบวนทางธรณีวิทยาในการฉีดอัดของเสียที่ผ่านการแปรรูปเล็กน้อยเพื่อการกำจัดคาร์บอนถาวร (มากกว่า 10,000 ปี)
มหาสมุทร
17. Captura – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Captura มอบโซลูชันดักจับคาร์บอนในมหาสมุทรโดยตรง (DOC) ที่มีต้นทุนต่ำและปรับขยายได้ ซึ่งสร้างกระแสคาร์บอนไดออกไซด์ที่วัดได้เพื่อแยกเก็บ โดยใช้เฉพาะน้ำทะเลและพลังงานหมุนเวียน อีกทั้งไม่มีการผลิตสารเติมแต่งหรือเศษของเหลืออื่นใดภายนอก กระบวนการ DOC ไม่ต้องใช้น้ำจืด ใช้ที่ดินจำกัด และสามารถดำเนินการได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าไม่คงที่
18. Ebb – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: สหรัฐอเมริกา
Ebb Carbon เป็นผู้บุกเบิกโซลูชันใหม่ด้านการกำจัดคาร์บอน ด้วยการเพิ่มความสามารถตามธรรมชาติของมหาสมุทรในการจัดเก็บคาร์บอนไดออกไซด์อย่างปลอดภัย วิธีการทางไฟฟ้าเคมีในการเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทรนี้มีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งแนวทางระดับขนาดใหญ่ที่สุดและมีต้นทุนต่ำที่สุดในการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกิน พร้อมทั้งลดความเป็นกรดของมหาสมุทร
19. Kelp Blue – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: เนเธอร์แลนด์ ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: นามิเบีย
Kelp Blue เพาะปลูกสาหร่ายเคลป์ยักษ์ (Macrocystis pyrifera) ในฟาร์มนอกชายฝั่งนามิเบีย นิวซีแลนด์ และต่อไปในไม่ช้านี้คือในอะแลสกา โดยใช้นวัตกรรมโครงสร้างจมอยู่ใต้น้ำเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของน้ำริมชายฝั่งและใช้ประโยชน์จากระบบน้ำผุดอุดมสารอาหารในท้องถิ่น โดยนำชีวมวลจากเรือนยอดที่เก็บเกี่ยวได้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรและบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ขณะที่ชีวมวลที่เหลือแยกเก็บคาร์บอนในกระบวนการตามธรรมชาติ สนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ และมอบประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
20. Planetary – ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: แคนาดา ที่ตั้งตัวอย่างสาธิต: แคนาดา
Planetary ใช้ประโยชน์จากการเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร (OAE) เพื่อยกระดับสมรรถนะการกำจัดคาร์บอนตามธรรมชาติของมหาสมุทร โดยพัฒนาโครงการระดับโลกด้วยการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และใช้แพลตฟอร์มคาร์บอนมหาสมุทร (OCP) เพื่อตรวจสอบแหล่งความเป็นด่าง ทำให้ปฏิบัติการเป็นอัตโนมัติ สร้างความปลอดภัยในมหาสมุทร ตลอดจนวัดและสร้างรายได้จากการกำจัดคาร์บอน
"เหล่าทีมที่ยอดเยี่ยมกลุ่มนี้สะท้อนความหลากหลายของนวัตกรรมและโซลูชันในหลากแนววิธีกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ และแสดงถึงความก้าวหน้าอย่างมากของอุตสาหกรรมภายในระยะเวลาที่สั้น" คุณ Nikki Batchelor กรรมการบริหารของ XPRIZE Carbon Removal กล่าว "ในช่วงสามปีที่ผ่านมา การแข่งขันนี้ได้ช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ในด้านโซลูชันศักยภาพสูงที่มุ่งย้อนบรรเทาปัญหาภาวะโลกรวน"
นอกจากนี้ กรรมการยังได้คัดเลือก "ทีม XFactor" จำนวนสามทีม ได้แก่ Metalplant, Gigablue และ สถาบันนิเวศวิทยาอนาคตอะแลสกา (Alaska Future Ecology Institute) ซึ่งแม้ไม่ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ก็มุ่งบรรลุแนวคิดที่ใหม่และน่าตื่นเต้นโดยมีศักยภาพที่จะก่อผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ XPRIZE ยังได้เผยรายชื่อทีม 100 อันดับแรก ซึ่งนำเสนอโซลูชันรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในหลากหลายแนววิธีการกำจัดคาร์บอน
นับตั้งแต่เริ่มต้นจัด XPRIZE Carbon Removal เมื่อปี 2564 กว่า 1,300 ทีมจาก 88 ประเทศได้เข้าร่วมในสี่ประเภทแนววิธีการกำจัดคาร์บอนของการแข่งขันนี้ ทีมเหล่านี้ ซึ่งมีสมาชิกรวมมากกว่า 8,400 คนจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักเทคโนโลยี นักศึกษา และผู้เล่นหน้าใหม่
"เพื่อบรรลุการกำจัดคาร์บอนปริมาณระดับกิกะตัน จำเป็นที่นักนวัตกรรมจำนวนมากต้องมารวมตัวกัน โดยแต่ละรายทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศ รางวัล XPRIZE Carbon Removal เป็นตัวเร่งที่อุตสาหกรรมนี้ต้องการเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม" คุณ Ben Rubin กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของสภาธุรกิจคาร์บอน (Carbon Business Council) และพันธมิตรรายหลักของรางวัล XPRIZE Carbon Removal กล่าว "ความพยายามของทีมเหล่านี้ผลักดันหนทางกำจัดคาร์บอนที่ไม่เคยมีมาก่อน เราตั้งตารอผลกระทบที่จะเกิดขึ้น มิเพียงเฉพาะจากทีมผู้ชนะเท่านั้น แต่จากการแข่งขันทั้งหมดโดยรวมด้วย"
ระยะสุดท้ายของการแข่งขันจะดำเนินในช่วงปีหน้า ซึ่งทีมผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศจะต้องสาธิตการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 1,000 ตัน และจะได้รับการตัดสินโดยอิงจากต้นทุนทั้งหมด สมรรถนะของปฏิบัติการโดยรวม และข้อกำหนดด้านการปรับขยายอย่างยั่งยืน จนถึงปัจจุบัน XPRIZE Carbon Removal มอบเงินรางวัลไปแล้ว 20 ล้านดอลลาร์ โดย 5 ล้านดอลลาร์แบ่งสรรให้กับทีมนักศึกษา 23 ทีม และ 15 ล้านดอลลาร์มอบให้แก่ 15 ทีมผู้บรรลุตามหมุดหมาย ในการนี้ ผู้ชนะเลิศจะคว้าเงินรางวัล 50 ล้านดอลลาร์กลับบ้าน และอีก 30 ล้านดอลลาร์จะแบ่งสรรให้แก่ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ซึ่งจะคัดเลือกโดยคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันในเดือนเมษายน 2568
XPRIZE Carbon Removal สานต่อจากการทำงานก่อนหน้านี้ของ XPRIZE ในด้านการบริหารจัดการคาร์บอน รวมถึงโครงการ NRG COSIA Carbon XPRIZE ซึ่งเสนอเงิน 20 ล้านดอลลาร์ให้แก่นักนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีพลิกวงการซึ่งดักจับและแปรสภาพการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์ได้ การแข่งขันดังกล่าวนี้ ซึ่งมอบรางวัลไปในปี 2564 มีผลลัพธ์คือเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลซึ่งแปรสภาพคาร์บอนเป็นคอนกรีตเพื่อลดคาร์บอนของสิ่งแวดล้อมที่มีการปลูกสร้างโดยมนุษย์
XPRIZE Carbon Removal ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ Musk Foundation
ดูเพิ่มเติมและมีส่วนร่วมได้ทาง xprize.org/carbonremoval
เกี่ยวกับ XPRIZE
XPRIZE คือผู้นำระดับโลกในด้านการออกแบบ จัด และดำเนินการแข่งขันระดับใหญ่เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายใหญ่หลวงของมนุษยชาติ โมเดลเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนอื่นใดของเราสร้างความเสมอภาคในการพัฒนานวัตกรรม ด้วยการมอบแรงจูงใจให้เกิดโซลูชันจากการทำงานของคนจำนวนมากที่สามารถใช้การได้จริงในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างอนาคตที่เสมอภาคและอุดมสมบูรณ์มากขึ้นสำหรับคนทั้งมวล สามารถบริจาค ดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้าร่วมกับทีมได้ที่เว็บไซต์ xprize.org
เกี่ยวกับ Musk Foundation
มูลนิธิ Musk Foundation สร้างเงินทุนเพื่อสนับสนุนด้านต่าง ๆ ได้แก่ การวิจัยและสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน การวิจัยและสนับสนุนการสำรวจอวกาศโดยมนุษย์ การวิจัยด้านกุมารเวชศาสตร์ การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ปลอดภัยเพื่อยังประโยชน์แก่มนุษยชาติ
ติดต่อ:
Katy Frame
[email protected]
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2406919/XPRIZE_Carbon_Removal_1_Logo.jpg?p=medium600
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network