มะนิลา ฟิลิปปินส์, 28 พ.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/
จากสถิติล่าสุด มีผู้ให้บริการเครือข่ายราว 50 รายทั่วโลกที่ได้ดำเนินการติดตั้งใช้งาน 5G SA เสร็จสมบูรณ์ ในกลุ่มผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างโครงข่ายแกนหลักชนิด 5G Standalone (5G SA Core Network) DITO เป็นตัวแทนที่เป็นแบบอย่างของโครงข่ายแกนหลักแบบ SA โดยในการแสวงหาความสำเร็จด้าน 5G SA นั้น DITO ได้เป็นผู้นำในการก่อสร้างโครงข่ายแกนหลัก 5G SA เสร็จสมบูรณ์ และเพิ่งเปลี่ยนผ่านจากการเช่าสู่การเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลแกนหลักโดยแบ่งการดำเนินการเป็นขั้นตามเฟส
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา DITO ประสบความสำเร็จในการสร้างโครงข่ายแกนหลัก 5G SA บนคลาวด์อย่างสมบูรณ์ที่มีการผนวกรวมและกระจายตัว เครือข่ายที่มีการผนวกรวมอย่างสมบูรณ์แสดงถึงการผนวกรวมระหว่าง 4G กับ 5G อีกทั้งยังเป็นเครือข่ายที่กระจายตัวระดับประเทศอยู่ใกล้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น ซึ่งมอบประสบการณ์บริการรับส่งข้อมูลและเสียงที่มีคุณภาพดี ขณะที่เครือข่ายบนคลาวด์อย่างสมบูรณ์หมายถึงสถาปัตยกรรมระบบเครือข่ายสำหรับกิจการโทรคมนาคมที่อยู่บนคลาวด์โดยสมบูรณ์ (Native Telecom Cloud)
DITO บรรลุการดำเนินการเชิงพาณิชย์กับโครงข่ายแกนหลักแบบ 5G SA ตลอดจนทดสอบบริการโทรด้วยเสียง VoNR เสร็จสมบูรณ์ และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทดสอบสมรรถนะการแบ่งย่อยเครือข่าย (network slicing)
โครงข่ายแกนหลักของ DITO ใช้ประโยชน์จากความซ้ำซ้อนในระดับศูนย์ข้อมูล (DC) ระดับองค์ประกอบเครือข่าย (NE) และระดับระบบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิผล ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อถือได้ของเครือข่าย DITO ได้สร้างศูนย์ข้อมูลแกนหลักของตนเองซึ่งสอดรับกับมาตรฐานของกิจการโทรคมนาคม และได้ย้ายจากศูนย์ข้อมูลแกนหลักที่เช่าอยู่ เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ
นับตั้งแต่ปี 2565 DITO ได้ริเริ่มโครงการย้ายจากศูนย์ข้อมูลแกนหลักแบบเช่าสองแห่งสู่ศูนย์ข้อมูลแกนหลักที่เป็นเจ้าของเอง ซึ่งเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนและความเสี่ยงสูง เนื่องจากครอบคลุมอุปกรณ์มากกว่า 3,000 ชิ้นและปฏิบัติการมากกว่า 400 รายการ ตลอดจนมีผู้ใช้บริการเครือข่ายที่กำลังใช้งานอยู่อีกหลายสิบล้านราย ขณะนี้ศูนย์ข้อมูลแกนหลักแห่งแรกได้ดำเนินการย้ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการย้ายศูนย์ข้อมูลแกนหลักแห่งที่สอง
ความท้าทายหลักที่ DITO เผชิญระหว่างการย้ายศูนย์ข้อมูลแกนหลักมีดังต่อไปนี้
มีปฏิบัติการย้ายหลายรายการ จำเป็นต้องจัดการให้แน่ใจว่าไม่ส่งผลกระทบกับบริการ
มีการย้ายบริการมากกว่า 400 รายการ สร้างความท้าทายอย่างมากต่อการดำเนินงานของระบบอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีเสถียรภาพ เนื่องจากศูนย์ข้อมูลแกนหลักเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ จึงต้องมีการจำกัดระยะเวลาการหยุดชะงักของบริการให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบใดต่อประสบการณ์ผู้ใช้ เช่นนี้ถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงสำหรับความแม่นยำและความมั่นคงปลอดภัยของการจัดการแก้ไขเชิงเทคนิค
อุปกรณ์จำนวนมหาศาล จำเป็นต้องมีการทำงานสอดประสานข้ามระบบงานหลายรายการ
โครงการย้ายศูนย์ข้อมูลนี้ครอบคลุมผู้ให้บริการอุปกรณ์โทรคมนาคมมากกว่า 10 รายและหลากหลายระบบงานบริการ ทั้งโครงข่ายแกนหลัก บริการเสริม (VAS) กลุ่มทรัพยากรคลาวด์ไอที ระบบไอที และอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนสอดประสานและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผลระหว่างผู้ให้บริการหลายราย
ปฏิบัติการมีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีสมรรถภาพที่แข็งแกร่งสำหรับแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินของเครือข่าย
ตลอดทั้งกระบวนการย้ายครอบคลุมอุปกรณ์การสื่อสารข้อมูลและส่วนต่อประสานไร้สายทั้งหมด ตลอดจนการบูรณาการเข้ากับทั้งโครงข่ายแกนหลัก จึงอาจก่อความเสี่ยงสูงที่จะกระตุ้นให้เกิด signaling storm ระดับใหญ่ ส่งผลเป็นการขัดข้องของเครือข่าย จึงจำเป็นต้องมีการจำลองก่อนปฏิบัติการและมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ครอบคลุม
เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ DITO ได้รวบรวมความพยายามจากหลายแผนกของบริษัท โดยให้ความสำคัญกับโครงการนี้ด้วยการวิเคราะห์ปัญหาและจัดการทีละประการ
- การจัดเตรียมวิธีจัดการแก้ไขอย่างครอบคลุม: เนื่องจากโครงการนี้มีการย้ายสถานีฐานไร้สายทั้งหมด การย้ายพอร์ตไฟเบอร์โดยรอบโดยทันที และการบูรณาการแพลตฟอร์มบริการใหม่ ทีมงานของโครงการจึงได้จัดเตรียมหลากหลายวิธีการจัดการแก้ไข อย่างเช่น การสอดประสานระดับหลายศูนย์ข้อมูล (multi-DC) การรวบรวมกลุ่มไฮบริดที่ประกอบด้วยหลายองค์ประกอบเครือข่าย (multi-NE) และอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบย้ายได้อย่างราบรื่น ปฏิบัติการนี้เป็นไปตามข้อเสนอและ MOP อย่างเคร่งครัดเพื่อดำเนินการติดตามเสถียรภาพและค่อย ๆ ปลดองค์ประกอบเครือข่ายให้เสร็จสิ้น พร้อมกับการย้ายอย่างราบรื่น โดยมีหลากหลายแนวคิดและการดำเนินการเชิงนวัตกรรมในทั้งนโยบายการจัดการแก้ไขและการบริหารจัดการ ในแง่นี้ DITO ดำเนินการตรวจสอบข้ามระบบงานเพื่อให้มีความแม่นยำในการจัดการแก้ไขการย้าย โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบการจัดการแก้ไขการย้ายมากกว่า 80 ครั้ง ครอบคลุมโครงข่ายแกนหลัก เครือข่ายบริการ เครือข่ายข้อมูล และระบบงานไอที เพื่อจำกัดผลกระทบต่อบริการต่าง ๆ ระหว่างการย้ายบริการ ขณะนี้ศูนย์ข้อมูลแกนหลักแห่งแรกได้ย้ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว และศูนย์ข้อมูลแกนหลักแห่งที่สองอยู่ระหว่างดำเนินการ
- การควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด: มีการระบุความเสี่ยงของกระบวนการย้ายในเชิงลึกและบริหารจัดการล่วงหน้า ครอบคลุมด้านระยะเวลาการดำเนินโครงการ ความมั่นคงปลอดภัยของเครือข่าย สมรรถนะของเครือข่าย และการเคลื่อนย้ายฮาร์ดแวร์ มีการดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิผลในการจัดการกับความเสี่ยง เพื่อให้แน่ใจได้ว่าโครงการจะเป็นไปอย่างสำเร็จ โดยเฉพาะในแง่ของการดำเนินบริการ ความซ้ำซ้อน การจำลองการย้ายและการย้ายระบบโดยทันทีของทั้งเครือข่าย ซึ่งจำลองสภาพแวดล้อมปฏิบัติการจริง ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการย้ายจริง ทีมงานจำลองแต่ละระดับของความซ้ำซ้อนทั้ง 8 ระดับ ทั้งระดับศูนย์ข้อมูล ระดับเครือข่าย ระดับองค์ประกอบเครือข่าย ระดับลิงก์ และอื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงทั้งหมดที่เป็นไปได้ของโครงการย้ายนี้
- การคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ: มีการพิจารณาการจัดสรรทรัพยากรและการคุมต้นทุนตลอดทั้งวงจร มีการจัดสรรบุคลากรอย่างสมเหตุสมผล และมีการสื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นระหว่างทีมต่าง ๆ ซึ่งลดต้นทุนโดยรวมของโครงการย้ายและเพิ่มประสิทธิภาพของการย้ายได้อย่างมาก
ขณะนี้ DITO ได้ดำเนินการย้ายศูนย์ข้อมูลแกนหลักแห่งแรกเสร็จสมบูรณ์โดยไม่มีผลกระทบและการหยุดชะงักของบริการ พร้อมทั้งขยายสมรรถนะเครือข่ายและเพิ่มความเชื่อถือได้ของเครือข่ายได้สำเร็จ ซึ่งส่งผลเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของผู้ใช้บริการ 4G และ 5G SA
โครงการย้ายศูนย์ข้อมูลแกนหลักของ DITO ถือเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนสูง เสี่ยงสูง และท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายองค์ประกอบเครือข่ายและผู้ใช้บริการที่มีค่าจำนวนมาก โครงข่ายแกนหลักแบบ SA มีความซับซ้อนมากกว่าโครงข่ายแกนหลักแบบ NSA โดยมีระยะเวลาก่อสร้างเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนานกว่าเก้าเดือน อย่างไรก็ตาม DITO ดำเนินโครงการนี้ได้สำเร็จ โดยรับประกันความมั่นคงปลอดภัยและเสถียรภาพของเครือข่าย เพื่อส่งเสริมการขยายธุรกิจและคว้าประโยชน์จากมูลค่าตามศักยภาพของโครงข่ายแกนหลักแบบ SA ในการก้าวสู่อนาคตต่อไป
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network