ลอนดอน, 20 มิถุนายน 2567 /PRNewswire/ — ในช่วงไตรมาส 1/2567 มูลค่าของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลดลงราว 2% แตะระดับ 1.515 แสนล้านดอลลาร์ จากการประเมินโดย Competitive Landscaping Tool ซึ่งเป็นบริการวิเคราะห์ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ใหม่ล่าสุดจากบริษัท Omdia ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดเซมิคอนดักเตอร์มักปรับตัวลงในไตรมาสแรกของปี โดยสำหรับปีนี้รายได้ลดลง 4.4% หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4/2566 ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ตามฤดูกาล และเกือบทุกภาคส่วนย่อยในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ก็เผชิญกับขาลงในไตรมาส 1/2567 โดยเซมิคอนดักเตอร์สำหรับสินค้าผู้บริโภคได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยร่วงลง 10.4% จากไตรมาส 4 ขณะที่เซมิคอนดักเตอร์สำหรับภาคอุตสาหกรรมลดลง 8.5% เนื่องจากการปรับสินค้าคงคลัง แม้แต่เซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอมานานหลายปีก็ยังติดลบ โดยลดลง 5.1% ในไตรมาส 1/2567
อย่างไรก็ตาม การลดลงในภาคส่วนดังกล่าวได้ถูกชดเชยด้วยการเติบโตของชิปประมวลผลข้อมูล ซึ่งเติบโต 3.7% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิปของ NVIDIA และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
NVIDIA ยังคงรักษาทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 2 จุดเปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 14.5% ของรายได้ทั้งหมดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ โดยแซงหน้าผู้นำตลาดเจ้าเก่าอย่าง Samsung และ Intel ซึ่งครองส่วนแบ่งรายได้ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์รวมกัน 18.6% และ NVIDIA ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์หน่วยความจำยังผลักดันให้ SK Hynix และ Micron มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นด้วย
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ภาคส่วนต่าง ๆ ของตลาดเซมิคอนดักเตอร์เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผิดกับเซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเดินทางที่ลดลง ส่งผลให้รายได้ของภาคส่วนนี้ลดลง แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว หลังจากการเติบโตของรายได้ติดต่อกัน 13 ไตรมาส เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 รายได้ของภาคส่วนนี้ก็หดตัวลงเล็กน้อย 0.6% ในไตรมาส 4/2566 และทรุดลงไปอีกในไตรมาส 1/2567 โดยร่วงลงถึง 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งแนวโน้มขาลงนี้สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์ที่ชะลอตัวลง โดยอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยถอยลงในไตรมาสหลัง ๆ ส่งผลให้ต้องมีการปรับอุปทานเซมิคอนดักเตอร์ให้เหมาะสมกับอุปสงค์ยานยนต์ แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ แต่ตลาดเซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างสดใสในระยะยาว โดยคาดว่าจะไต่ระดับขึ้นตลอด 5 ปีข้างหน้า
Global Semiconductor Manufacturing Market Tracker (GMMT) และ Pure Play Foundry Tracker ของ Omdia (รายงาน ณ ไตรมาส 4/2566) พบว่า อัตราการใช้โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รวมกัน (IDM + Foundry) ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มโดยรวมในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยหลังจากดีมานด์เซมิคอนดักเตอร์พุ่งสูงสุดในช่วงต้นของยุคโควิดในปี 2565 อัตราการใช้โรงงานก็ลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีเดียวกัน เนื่องจากความต้องการลดลงอย่างมากในขณะที่ระดับสินค้าคงคลังสูงเป็นประวัติการณ์ และแม้ว่ารายได้ของตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะมีการเติบโตในปี 2566 แต่อัตราการใช้โรงงานยังคงอยู่ที่กรอบล่างของระดับ 80%
คุณ Craig Stice หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Omdia กล่าวว่า "อัตราการใช้โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 เนื่องจากตลาดเริ่มมองหาความสมดุล แต่ยังไม่ชัดเจนมากนักเนื่องจากรูปแบบอุปสงค์แบบเดิมยังไม่กลับมาเต็มที่ โดยอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และควรนำไปสู่การปรับสินค้าคงคลัง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการใช้โรงงานเพิ่มขึ้นอีกครั้ง"
เกี่ยวกับ OMDIA
Omdia เป็นกลุ่มวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีในเครือบริษัท Informa Tech โดยเรามีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยี ประกอบกับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง จึงช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตัดสินใจเรื่องการขยายธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด
ติดต่อ: Fasiha Khan อีเมล: [email protected]
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2440252/Total_semiconductor_revenue.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2369794/4765689/Omdia_Logo.jpg?p=medium600
Source : ผลวิจัย Omdia เผย ดีมานด์อ่อนแอฉุดตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในไตรมาส 1/2567
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network