ชิงเต่า, จีน, 21 มิถุนายน 2567 /PRNewswire/ — ไฮเซ่นส์ (Hisense) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคชั้นนำระดับโลก ติดท็อป 10 ในการจัดอันดับแบรนด์จีนชั้นนำระดับโลกโดย Kantar BrandZ™ เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน โดยการได้รับตำแหน่งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นระดับโลกของไฮเซ่นส์ทั้งในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศ
Hisense TV remains global No.2 and 100" TV global No.1
ไฮเซ่นส์ครองตลาดทีวีในจีนอย่างเหนียวแน่น โดยครองยอดขายทีวีสูงสุดอันดับ 1 เป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงเดือนเมษายน 2567 และนอกเหนือจากตลาดในประเทศแล้ว ทีวีของไฮเซ่นส์ยังครองส่วนแบ่งยอดจัดส่งทั่วโลกสูงถึง 13.6% ในไตรมาส 1 ปี 2567 และรั้งอันดับ 2 ของโลกตั้งแต่ปี 2565 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2567 นอกจากนี้ ไฮเซ่นส์ยังเป็นผู้นำระดับโลกด้านยอดจัดส่งทีวีขนาด 100 นิ้ว ยอดจัดส่ง Laser TV และจำนวนสิทธิบัตรของ TriChroma Laser TV
ทีวีของไฮเซ่นส์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2567 ทีวีของไฮเซ่นส์ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ รวมทั้งครองส่วนแบ่งตลาดมากเป็นอันดับสองในแคนาดาและเม็กซิโก
ด้วยแรงผลักดันจากปณิธานที่ว่า "Never Settle for No.2 Globally" (ไม่ยอมหยุดแค่ที่ 2 ของโลก) ไฮเซ่นส์จึงเดินหน้ายกระดับคุณภาพ นวัตกรรม และความพึงพอใจของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ไฮเซ่นส์มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง และยังเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดโลกอีกด้วย
เกี่ยวกับไฮเซ่นส์
ไฮเซ่นส์ คือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ UEFA EURO 2024™ ทั้งนี้ ข้อมูลของ Omdia ระบุว่า ไฮเซ่นส์ครองยอดจัดส่งทีวีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และครองยอดจัดส่งทีวีขนาด 100 นิ้วมากเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2566 และไตรมาส 1 ปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในกว่า 160 ประเทศ โดยมีความเชี่ยวชาญด้านสินค้ามัลติมีเดีย เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเทคโนโลยีสารสนเทศอัจฉริยะ
Source : ไฮเซ่นส์ ครองตลาดทีวีโลกอย่างเหนียวแน่น รั้งอันดับหนึ่งในหลายประเทศ
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
