ชิงเต่า, จีน, 15 กรกฎาคม 2567 //PRNewswire/ — ในช่วงการแข่งขัน EURO 2024 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคระดับโลกอย่าง Hisense ได้ร่วมมือกับ UEFA Foundation เพื่อเปิดตัวโครงการเพื่อสาธารณะภายใต้ชื่อ "Faith In Young Champions" โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจาก 22 ประเทศสามารถเข้าถึงการแข่งขัน EURO 2024 จำนวน 23 นัดได้ในรูปแบบเสมือนจริงผ่านหุ่นยนต์ล้ำสมัยที่ขับเคลื่อนโดย Hisense เติมเต็มความฝันในการเข้าร่วมชมการแข่งขันแม้ประสบกับข้อจำกัดทางด้านกายภาพ
ในช่วงเวลานี้ เด็ก ๆ สามารถใช้งานหุ่นยนต์เพื่อเข้าสู่พื้นที่พิเศษได้ เช่น โซนอุ่นเครื่อง ห้องล็อกเกอร์ และโซนวีไอพี รวมถึงสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้เล่นหรือทีมที่พวกเขารัก มอบโอกาสในการแสดงออกถึงความรักและความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลอย่างเต็มที่
Faith In Young Champions Welfare Initiative
ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการยกระดับชีวิตของเด็ก Hisense ต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางและความรับผิดชอบต่อสังคมทั่วโลก ในโอกาสพิเศษนี้ Hisense ได้มอบการสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ล้ำสมัยอย่างจอแสดงผลแบบโต้ตอบให้แก่โรงพยาบาลในแอฟริกาใต้ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสในการเรียนรู้วิธีการทำงานของเทคโนโลยีผ่านกิจกรรมเชิงโต้ตอบด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ในการดำเนินงานประจำวัน การประชุมหรือการพูดคุย ทำให้กระบวนการทำงานมีความเป็นอิเล็กทรอนิกส์และสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ด้านผู้จัดการโรงพยาบาล กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้รับมอบบอร์ดดิจิทัลนี้ ซึ่งจะช่วยอำนวนความสะดวกในการแบ่งปันความคิดร่วมกับผู้อำนวยการ แพทย์ และทีมผู้บริหารของโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์ดิจิทัลนี้จะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นอย่างมาก"
UEFA Foundation ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 ในฐานะองค์กรการกุศลภายใต้กฎหมายสวิสเซอร์แลนด์ มีปรัชญาอันยาวนานที่สอดคล้องกับแนวคิดการดูแลเยาวชนและความรับผิดชอบต่อสังคมของ Hisense โดยในระหว่างการแข่งขัน EURO 2024 แฟน ๆ จะสามารถสังเกตเห็นสโลแกน "เพราะเด็กทุกคนคือแชมป์" (BECAUSE EVERY CHILD IS A CHAMPION) บนบอร์ด LED บนฝั่งสนาม ซึ่งตอบรับกับแนวคิด "ศรัทธาในแชมป์วัยเยาว์" (Faith In Young Champions) ของ Hisense ในปีนี้ และผลักดันความเป็นไปได้ในการร่วมมือระหว่างกัน
Carine Nkoue เลขาธิการ UEFA Foundation กล่าวว่า "ฟุตบอลไม่ได้เป็นเพียงกีฬาอันดับหนึ่งของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีอันยอดเยี่ยมสำหรับโครงการสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เราต้องการให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมของ UEFA Foundation และร่วมเป็นผู้สนับสนุนในโครงการริเริ่มระดับโลกนี้ การสนับสนุนของ Hisense และความเป็นหนึ่งเดียวกันของครอบครัวฟุตบอลยุโรป จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้มากยิ่งขึ้น"
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการกุศลและความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรถือเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมที่ Hisense มาอย่างยาวนาน บริษัทได้จัดสรรทรัพยากรเชิงรุกในโครงการริเริ่มด้านสวัสดิการสาธารณะด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ทุกคนสนุกกับทุกช่วงเวลาของชีวิตด้วยเทคโนโลยีที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
การปรากฏตัวทั่วโลกของ Hisense ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในวงกว้าง และยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพและการศึกษาทั่วโลก Hisense ส่งออกอุปกรณ์อัลตราซาวนด์และอื่น ๆ ไปยังกว่า 20 ประเทศในเอเชีย แอฟริกากลางและตะวันออก และยุโรป เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ของ Hisense ยังได้รับความสนใจจากตลาดในกว่า 40 ประเทศ รวมถึงยุโรป สหรัฐอเมริกา และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เป็นเวลาหลายปีที่ Hisense ได้เข้าร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ริเริ่มโดยรายการแข่งขันกีฬาระดับโลก ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการยกระดับแคมเปญเพื่อสังคมจากการแค่การเป็นผู้สนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์สู่สิ่งที่เหนือกว่าสถานที่และกาลเวลา
ในอนาคต มูลนิธิ Hisense และ UEFA Foundation จะยังคงทำงานเพื่อพัฒนาโครงการด้านการกุศลต่อไป และมอบผลประโยชน์ที่มากขึ้นให้แก่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับ Hisense
Hisense คือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคชั้นนำระดับโลก ธุรกิจของ Hisense ครอบคลุมผลิตภัณฑ์มัลติมีเดีย (โดยเน้นไปที่สมาร์ตทีวี) เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และข้อมูลอัจฉริยะด้านไอที Hisense ครองอันดับ 2 ทั่วโลกด้านการจัดส่งโทรทัศน์ และอันดับ 1 สำหรับโทรทัศน์ขนาด 100 นิ้วทั้งในปี 2566 และไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจในกว่า 160 ประเทศ
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network
