ลอนดอน, 25 กรกฎาคม 2567 /PRNewswire/ — งานวิจัยล่าสุดของ Omdia การคาดการณ์ตลาดฮาร์ดแวร์หุ่นยนต์ – 2021–30 ได้คาดการณ์ว่าจะมีการจัดส่งหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกเกินกว่า 10,000 ตัวภายในปี 2570 และจะมียอดจัดส่งถึง 38,000 ตัวในปี 2573 ซึ่งแปลงออกมาเป็นค่า CAGR ถึง 83% ในระหว่างปี 2567 ถึง 2573
ปี 2567 ถือเป็นปีที่หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มีการพัฒนาอย่างมาก โดยหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ถือเป็นตัวแทนของการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญครั้งต่อไป โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากกระแสความนิยมของเจนเนอเรทีฟ AI (GenAI) ที่เลียนแบบมนุษย์ได้ ซึ่งในปัจจุบันมีปัจจัยหลายประการที่สอดคล้องกันเพื่อทำให้ฟอร์มแฟคเตอร์มนุษย์แบบสองเท้ามีความพร้อมที่จะวางจำหน่ายจำนวนมากในเชิงพาณิชย์ หลังจากที่มีการลงทุนอย่างกว้างขวางจากผู้บุกเบิกทางเทคโนโลยี อย่าง Boston Dynamics
ในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ได้มาถึงจุดที่เหมาะสม ในขณะที่เทคโนโลยีที่สำคัญอย่าง เซอร์โวมอเตอร์ ไดรฟ์ฮาร์มอนิก และเซ็นเซอร์มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทั้งยังมีการพัฒนาในด้านการประมวลผล AI บนอุปกรณ์ ซึ่งทำให้สามารถบูรณาการซอฟต์แวร์ AI เข้ากับการควบคุมการเคลื่อนไหว การนำทาง และคอมพิวเตอร์วิทัศน์ได้ นอกจากนี้ ผู้นำตลาดชิป AI อย่าง NVIDIA ยังได้ส่งเสริมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อย่างแข็งขันในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา โดยสอดคล้องกับความก้าวหน้าเหล่านี้ และตระหนักถึงศักยภาพของหุ่นยนต์ในอนาคตของระบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์ อันเนื่องมาจากความต้องการ AI บนอุปกรณ์ที่เน้นการประมวลผลสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
กรณีการใช้งานของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เบื้องต้นได้มุ่งเน้นไปที่การผลิตยานยนต์ เนื่องจากภาคส่วนนี้ได้มีบริษัทอย่าง Tesla และ Nio ที่นำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้แต่เนิ่นๆ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังมีศักยภาพในด้านอื่นๆ มากมาย รวมถึง งานการผลิตทั่วไปและลอจิสติกส์ การค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม การบริการลูกค้า และการดูแลสุขภาพ ซึ่งนอกเหนือจาก Tesla, Nio และ Boston Dynamics แล้ว ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งที่ให้ความสำคัญไปที่หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ รวมถึง Agility Robotics, Dataa Robotics, Dreame, Figure, Fourier Intelligence, UBTech และ Unitree
ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ในเชิงบวก แต่เทคโนโลยีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มแรก ความซับซ้อนของหุ่นยนต์เหล่านี้ได้ส่งผลให้การผลิตในจำนวนมากและการใช้งานอย่างแพร่หลายยังคงมีความซับซ้อนอยู่มาก โดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในขั้นทดลองหรือพิสูจน์แนวคิด และการนำไปใช้ในวงกว้างอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี "บริษัทจีน เช่น Dataa Robotics กำลังสำรวจการบูรณาการโมเดลพื้นฐานเข้ากับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ เพื่อให้มนุษย์และหุ่นยนต์สามารถโต้ตอบกันด้วยภาษาธรรมชาติได้" Lian Jye Su หัวหน้านักวิเคราะห์ที่ Omdia กล่าว
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ความตื่นเต้นเกี่ยวกับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เกิดขึ้น พร้อมกับภาพรวมของความต้องการระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Omdia คาดการณ์ว่าการปรับใช้หุ่นยนต์ในภาคส่วนองค์กรและอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ หุ่นยนต์สี่เท่า และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เป็นหลัก
ผู้จัดจำหน่ายหุ่นยนต์ไม่เพียงแต่เพิ่มความต้องการเท่านั้น พวกเขายังรวมปรัชญาการออกแบบและระบบอัตโนมัติที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางมากขึ้นไว้ในการออกแบบ การพัฒนา และการใช้งานหุ่นยนต์อีกด้วย "หุ่นยนต์มีความปลอดภัยมากขึ้นผ่านความก้าวหน้าในการรวมเซ็นเซอร์และอัลกอริธึมการนำทางเข้าด้วยกัน ผู้จัดจำหน่ายกำลังใช้ประโยชน์จาก AI ในการฝึกอบรมงาน การวางแผนเส้นทางและการเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการกลุ่มหุ่นยนต์ และอินเทอร์เฟซระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร โดย AI เชิงคาดการณ์และเจนเนอเรทีฟ AI จะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ AI เป็นที่เข้าถึงได้ในภาคส่วนวิทยาการหุ่นยนต์" Su กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ OMDIA
Omdia เป็นส่วนหนึ่งของ Informa Tech ซึ่งเป็นกลุ่มการวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี โดยเราช่วยให้องค์กรต่างๆ ทำการตัดสินใจเพื่อเติบโตอย่างชาญฉลาดได้ผ่านความรู้เชิงลึกของเราเกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยี ประกอบกับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง
Fasiha Khan [email protected]
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2369794/Omdia_Logo.jpg?p=medium600
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network