ก้านโจว จีน, 30 ก.ค. 2567 /PRNewswire/
หลังจากความสำเร็จกับรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าล้วนรุ่น Horizon ของ Geely Radar ขณะนี้เทคโนโลยีเรือธงของ Farasis Energy ได้แก่ Super Pouch Solution (SPS) ได้เป็นขุมพลังขับเคลื่อน Aion V Gen 2 รถ SUV อัจฉริยะสไตล์ดุดันรุ่นใหม่ พัฒนาการเช่นนี้จากรถกระบะไฟฟ้าขับเคลื่อนสี่ล้อสู่รถ SUV อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ ซึ่งสะท้อนผ่านการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีจาก SPS ชนิดลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) สู่โซลูชันนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NCM) ตอกย้ำบทบาทหลายมิติในตลาด ความหลากหลายของวัสดุ และขอบเขตการประยุกต์ใช้ที่กว้างขวางสำหรับ SPS ของ Farasis Energy
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม GAC Aion บริษัทยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเครือ GAC Group ได้ออกรถรุ่นกลยุทธ์ระดับโลกตัวแรกของแบรนด์ ได้แก่ Aion V Gen 2 ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี SPS ของ Farasis Energy โดยมีระยะขับขี่ 750 กม. (ตามมาตรฐานการทดสอบ CLTC) และการชาร์จเร็วที่เพิ่มระยะทาง 370 กม. ในเวลา 15 นาทีบนแพลตฟอร์ม 400V ของบริษัทฯ ซึ่งขจัดความกังวลเกี่ยวกับระยะทางได้อย่างมีประสิทธิผล การบริหารจัดการความร้อนที่ก้าวหน้ารับมือกับอุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -30 องศาเซลเซียสถึง 55 องศาเซลเซียส เพื่อให้มีสมรรถนะการทำงานที่มีเสถียรภาพในทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี SPS ยังมีน้ำหนักเบาและดีไซน์ที่ยืดหยุ่น จึงเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารอย่างเต็มที่ เพื่อมอบภายในที่กว้างขวาง ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ในระดับนี้
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานใหม่ Farasis Energy เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่แบบเพาช์ (pouch) และตั้งใจทุ่มเทเพื่อมอบโซลูชันที่ยั่งยืนและก้าวหน้าล้ำสมัยสำหรับการประยุกต์ใช้พลังงานใหม่ในทั่วโลก ในแง่นี้ SPS เป็นแนวทางที่เป็นนวัตกรรมซึ่งบูรณาการเซลล์แบบเพาช์ขนาดใหญ่ ระบบแบตเตอรี่แบบผนวกรวม กระบวนการผลิตที่ก้าวหน้า และการรีไซเคิลโดยตรงที่มีประสิทธิภาพ
SPS มอบระยะขับขี่ที่น่าทึ่ง 1,000 กิโลเมตร และมีการชาร์จที่ให้ระยะทาง 400 กิโลเมตรในเพียง 10 นาที นอกจากนี้ยังบูรณาการหลายฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและสมรรถนะ รวมถึงระบบเคมีที่แข็งแกร่ง ดีไซน์การจัดเรียงที่มั่นคงสำหรับเซลล์เพาช์ วัสดุการเปลี่ยนสถานะที่เป็นเอกสิทธิ์ การบริหารจัดการความร้อนที่ก้าวหน้า และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อการบริหารจัดการความปลอดภัย
อัตราการใช้ประโยชน์ปริมาตร 75% และการลดชิ้นส่วนลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ระบบ SPS มีน้ำหนักเบากว่าระบบแบตเตอรี่ทั่วไป 20-30 กิโลกรัม จึงมอบส่วนผสมอันยอดเยี่ยมระหว่างประสิทธิภาพที่มีน้ำหนักเบากับสมรรถนะที่แข็งแกร่ง
ไลน์การผลิตสามารถทำงานกับระบบเคมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบตเตอรี่แบบเหลว กึ่งโซลิด (semi-solid) และโซลิดสเตท (solid-state) จึงสอดรับกับความต้องการในระยะยาวที่หลากหลายของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้โดยมาพร้อมกับความหนาของเซลล์ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ขนาด 85 มม. ถึง 145 มม. ทำให้สามารถมีความจุของระบบแบตเตอรี่ระหว่าง 80 กิโลวัตต์-ชั่วโมงถึง 150 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ความยืดหยุ่นเช่นนี้ยกระดับประสิทธิภาพของกระบวนการวิจัยและพัฒนา ลดต้นทุนการจัดหา และทำให้ผู้ผลิตยานยนต์มั่นใจได้ว่ามีอุปทานแบตเตอรี่ที่มีเสถียรภาพ
นอกจากการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จของรถ Aion V Gen 2 จะตอกย้ำการยอมรับเทคโนโลยี SPS โดยตลาด ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงถึงก้าวสำคัญของภาคพลังงานใหม่ จากเพียงความเป็นไปได้ สู่ความเป็นเลิศอันพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
Source : เทคโนโลยี SPS ของ Farasis Energy เป็นขุมพลังขับเคลื่อนรถ Aion V Gen 2
This content was prepared by our news partner, Cision PR Newswire. The opinions and the content published on this page are the author’s own and do not necessarily reflect the views of Siam News Network