รัฐบาลไทยยกระดับการกำกับดูแลอีคอมเมิร์ซ

การปกป้อง SMEs

รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปกป้องวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในพื้นที่จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยกำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และอาจจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าที่นำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับธุรกิจของไทย

สิ่งสำคัญที่ต้องจำ

• รัฐบาลถูกเรียกร้องให้เข้มงวดการกำกับดูแลภาคส่วนอีคอมเมิร์ซเพื่อให้มั่นใจว่ามีการคุ้มครองผู้บริโภคและการปฏิบัติด้านการตลาดที่เป็นธรรม การเรียกร้องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมฉ้อโกงและการขาดความโปร่งใสในการทำธุรกรรมออนไลน์
• ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลและกลุ่มสนับสนุนผู้บริโภค เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีแนวทางและการติดตามที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากการหลอกลวงและคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงพอในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
• กฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสามารถอำนวยความสะดวกให้เกิดสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่มากขึ้นสำหรับธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการในตลาดออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

กำกับดูแลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

รัฐบาลไทยกำลังเพิ่มการกำกับดูแลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ โดยเฉพาะ Temu ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ของจีน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบภาษีของไทย การดำเนินการดังกล่าวเกิดจากความกังวลของธุรกิจในท้องถิ่นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของตลาดที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการหลั่งไหลเข้ามาของสินค้าราคาถูกจากจีน โดยเฉพาะสินค้าจาก Temu ที่มีส่วนลดสูงสุดถึง 90%

แหล่งที่มา – รัฐบาลเร่งรัดให้มีการกำกับดูแลอีคอมเมิร์ซให้เข้มงวดยิ่งขึ้น