ยอดขายและกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับอิทธิพลจากกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ เมื่อแยกภาคส่วนเหล่านี้ออกไป ผลการดำเนินงานโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพด้วยปัจจัยบวกจากภาคการธนาคาร การท่องเที่ยวและสันทนาการ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นายมารพงศ์ เสนาณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งผลการดำเนินงานแล้ว 815 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 97.26 ของทั้งหมด 836 บริษัท (บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ mai ซึ่งแสดงงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 แต่ไม่รวมทรัพย์สินและ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน) จากสถิติพบว่ามีบริษัท 614 แห่งหรือร้อยละ 73.27 ของบริษัททั้งหมดที่ส่งงบการเงิน รายงานผลกำไรสุทธิ
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานยอดขายรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 มูลค่า 12.73 ล้านล้านบาท (ประมาณ 361.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าต้นทุนการผลิตจะลดลงร้อยละ 2.9 แต่กำไรหลักจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 16.0 เป็น 1.25 ล้านล้านบาท และร้อยละ 10.6 เป็น 740.81 พันล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย ทั่วไป และบริหารร้อยละ 5.8
ด้านฐานะการเงิน บริษัทจดทะเบียนไทย ไม่รวมกลุ่มอุตสาหกรรมทางการเงิน มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 1.55 เท่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ลดลงจาก 1.58 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“ราคาน้ำมันและ…
