- กำลังการผลิตท่อส่งไฟฟ้าขั้นสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการของ Masdar เพิ่มขึ้นจาก 20GW เป็น 51GW ระหว่างปี 2565 ถึงสิ้นปี 2567
- ดีลใหญ่ในสเปน กรีซ และสหรัฐอเมริกา ยังช่วยให้พอร์ตโฟลิโอของ Masdar เพิ่มเป็นสองเท่าอีกด้วย
- Masdar ได้จัดสรรเงินทุนมูลค่าเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 เพิ่มเติมจากการระดมทุนโครงการมูลค่ากว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในเก้าประเทศ
- ผู้นำด้านพลังงานสะอาดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเจ็ดโครงการสำคัญทั่วโลกและเปิดทุ่งกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง
อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 15 มกราคม 2568 /PRNewswire/ — Masdar หรือ Abu Dhabi Future Energy PJSC ซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศว่าบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญถึง 150 เปอร์เซ็นต์เป็น 51 กิกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2567 จาก 20GW ในปี 2565 ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ Masdar กลายเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดระดับโลก และกำลังไปได้ดีในการบรรลุเป้าหมายอันท้าทายในการสร้างกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 100GW ให้ได้ภายในปี 2573
กำลังการผลิตของท่อส่งไฟฟ้าขั้นสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการของ Masdar เพิ่มขึ้นจาก 20GW เป็น 51GW ระหว่างปี 2565 ถึงสิ้นปี 2567 นอกจากนี้ พอร์ตโฟลิโอกำลังการผลิตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการของ Masdar ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในช่วงเวลาเพียง 12 เดือนจาก 16.5GW เป็น 32.6GW ภายในสิ้นปี 2567
ในปี 2567 ปีเดียว Masdar ได้จัดสรรเงินลงทุนในหุ้นมูลค่าเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ และได้รับเงินทุนสนับสนุนโครงการมูลค่ากว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในเก้าประเทศ ทำให้สามารถพัฒนาโครงการที่มีกำลังการผลิตใหม่รวมกว่า 6.5GW ได้ ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของ Masdar ในการขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียนไปพร้อมกับการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานทั่วโลก
การเติบโตของ Masdar ก้าวหน้าจากการเข้าซื้อกิจการสำคัญในกรีซ สเปน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของบริษัทในยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมถึงการสร้างโครงการใหญ่เจ็ดโครงการทั่วโลก ได้แก่โครงการ BESS (ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่) สองโครงการในสหราชอาณาจักร โครงการพลังงานแสงอาทิตย์สองโครงการในอาเซอร์ไบจานซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 760MW และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Al Ajban กำลังการผลิต 1.5GW ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ Masdar ยังได้ประกาศปิดบัญชีทางการเงินสำหรับโครงการจำนวนหกโครงการ ได้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Al Henakiyah ขนาด 1.1GW และโครงการสาธารณูปโภคอเนกประสงค์แบบยั่งยืน AMAALA ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย รวมถึงโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 760MW ใน Bilasuvar และ Neftchala ในอาเซอร์ไบจานอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น Masdar ยังได้ลงนามข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าในเดือนธันวาคม 2567 สำหรับโครงการ Sadawi ขนาด 2GW ในประเทศซาอุดีอาระเบีย และเปิดทุ่งพลังงานลม Zarafshan ขนาด 500MW ในอุซเบกิสถาน ซึ่งปัจจุบันเป็นการดำเนินการที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง
บริษัทประสบความสำเร็จในการออกตราสารหนี้สีเขียวครั้งที่ 2 ที่ระดมทุนได้ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยมีผู้จองซื้อเกินกว่า 4.6 เท่า ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อวิสัยทัศน์และผลงานของ Masdar โดยความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Fitch ได้อัปเกรดอันดับความน่าเชื่อถือของ Masdar จาก A+ เป็น AA- แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นในสถานะการเงินของบริษัท
ฯพณฯ ดร. Sultan Ahmed Al Jaber ประธานบริษัท Masdar กล่าวว่า "ด้วยการสนับสนุนอย่างมั่นคงจากผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Masdar จึงได้เติบโตในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาจากการเป็นผู้บุกเบิกด้านพลังงานสะอาดมาเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2567 เราประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญโดยเพิ่มกำลังการผลิตโดยรวมเป็น 51GW เกินครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย 100GW ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์กลยุทธ์การเติบโตที่สมดุลซึ่งผนวกการเข้าซื้อกิจการอย่างชาญฉลาดและการพัฒนาโครงการในการมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานสะอาด เรามุ่งมั่นที่จะบรรลุมติมหาชนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป้าหมายระดับโลกในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าภายในปี 2573 ในพันธกิจเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานทั่วโลกและสร้างความก้าวหน้าที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน"
Mohamed Jameel Al Ramahi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Masdar กล่าวว่า "การเดินทางของ Masdar ในปี 2567 แสดงให้เห็นพลังแห่งความทะเยอทะยานอย่างเด็ดเดี่ยวควบคู่ไปกับการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าสองเท่าในเวลาเพียงสองปี เราไม่เพียงแต่สร้างสถานะเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนแบบ pure-play ของโลกเท่านั้น แต่ยังขยับขยายเป้าหมายด้วยการซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา สเปน และกรีซ นอกจากนี้ เรายังประสบความสำเร็จอย่างมากในโครงการสำคัญทั่วโลก ขณะที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานระดับโลก เราไม่ได้เพียงแค่บรรลุเป้าหมายสำคัญเท่านั้น แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอีกด้วย ขณะที่มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย 100GW และตรึงชื่อเสียงของเราในฐานะพันธมิตรด้านพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้ของโลก"
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2549 Masdar ถือเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการบรรลุวิสัยทัศน์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ บริษัทได้พัฒนาและร่วมมือในโครงการต่าง ๆ ในกว่า 40 ประเทศ โดยมีพันธกิจในการเพิ่มกำลังการผลิตพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียนเป็น 100GW ภายในปี 2573
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.masdar.ae และติดตามเราที่: facebook.com/masdar.ae และ twitter.com/masdar
เกี่ยวกับ Masdar
Masdar (Abu Dhabi Future Energy Company) เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ในฐานะผู้บุกเบิกด้านพลังงานสะอาดระดับโลก Masdar กำลังผลักดันการพัฒนาและการนำเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ และไฮโดรเจนสีเขียวมาใช้งานเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและช่วยโลกบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Masdar ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 และได้พัฒนาและลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในกว่า 40 ประเทศ โดยมีกำลังการผลิตรวมกว่า 50 กิกะวัตต์ (GW) โดยมอบการเข้าถึงพลังงานสะอาดในราคาจับต้องได้ให้กับผู้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด และช่วยขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
Masdar มี TAQA, ADNOC และ Mubadala เป็นเจ้าของร่วม และมุ่งเป้าไปที่กำลังการผลิตพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียน 100GW ภายในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนสีเขียวชั้นนำภายในปีเดียวกัน
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2514011/4930165/MASDAR_Logo.jpg?p=medium600
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2598725/Masdar_capacity.jpg?p=medium600
Source : กำลังการผลิต Masdar โต 150% เกิน 50GW ในสองปี ตรึงตำแหน่งผู้นำพลังงานสะอาดระดับโลก
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Siam News Network.