เซินเจิ้น, จีน, 17 มกราคม 2568 /PRNewswire/ — เมื่อเร็ว ๆ นี้ หัวเว่ย (Huawei) จัดการประชุมในหัวข้อ 10 เทรนด์สำคัญของวงการศูนย์ข้อมูล ประจำปี 2568 โดยคุณ Yao Quan ประธานฝ่ายระบบศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ย เป็นผู้กล่าวอธิบาย 10 เทรนด์สำคัญโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมแรงผลักดันใหม่ ๆ ให้แก่การพัฒนาอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และนำไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมนี้
ตามคำกล่าวของคุณ Yao Quan ศูนย์ข้อมูลได้เปลี่ยนจากพลังการประมวลผลทั่วไปที่รองรับงานหลากหลายประเภทไปสู่พลังการประมวลผลอัจฉริยะ โดยได้รับอานิสงส์จากการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีโมเดลพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์ ประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์และพลังงานได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างมาก และการสร้างกลุ่มประมวลผลที่ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จำนวน 1,000 ตัว 10,000 ตัว และ 100,000 ตัว กลายเป็นเรื่องปกติ อุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลกำลังเปิดรับโอกาสให้แก่การพัฒนาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับความท้าทายด้านความน่าเชื่อถือ การใช้พลังงานสูง ความต้องการไฟฟ้าสูง และความไม่แน่นอนด้วย
จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและประสบการณ์ยาวนาน หัวเว่ยได้เปิดเผย 10 เทรนด์สำคัญของวงการศูนย์ข้อมูลสำหรับปี 2568 โดยเน้นที่ความน่าเชื่อถือ ความยืดหยุ่น และการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและความคิดเห็นเกี่ยวกับศูนย์ข้อมูล AI สร้างฐานการประมวลผลที่น่าเชื่อถือได้อย่างสูง และผลักดันยุคดิจิทัลให้ก้าวหน้า
แนวโน้มที่ 1: ความน่าเชื่อถือกลายเป็นข้อกำหนดที่เป็นหัวใจสำคัญของศูนย์ข้อมูลประมวลผลอัจฉริยะ
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของการสร้างศูนย์ข้อมูลเมื่อเทียบกับต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมูลค่าของอุปกรณ์ AI เพิ่มสูงขึ้นและขอบเขตความเสียหายจากความผิดพลาดยังคงขยายวงกว้างในยุคการประมวลผลอัจฉริยะ ทำให้ความน่าเชื่อถือกลายเป็นข้อกำหนดหลักของศูนย์ข้อมูลประมวลผลอัจฉริยะ ความน่าเชื่อถือของศูนย์ข้อมูลยังหมายถึงความน่าเชื่อถือตลอดวงจรชีวิตของศูนย์ ซึ่งครอบคลุมถึงส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ สถาปัตยกรรม บริการ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) หากศูนย์ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือต่ำ จะส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อให้สามารถลดต้นทุนได้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องมั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือของศูนย์ข้อมูล
แนวโน้มที่ 2: สถาปัตยกรรมแยกส่วนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือของศูนย์ข้อมูลประมวลผลอัจฉริยะ
ปริมาณพลังงานที่ใช้ต่อหน่วยพื้นที่ (power density) ในศูนย์ข้อมูลประมวลผลอัจฉริยะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักมีคุณสมบัติที่ใช้แรงดันไฟฟ้าสูงและกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้การรักษาความปลอดภัยและความเสถียรในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลจากระยะไกลเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินงานเพื่อให้บริการได้อย่างเสถียร นอกจากนี้ หากต้องติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องอุปกรณ์หลัก จะต้องแยกอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากการบริการหลักและติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนด โดยต้องคำนึงถึงระยะเวลาการทนไฟ การดับเพลิงด้วยน้ำ ระบบระบายอากาศฉุกเฉิน และการปิดทำงานเครื่องด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เพื่อลดผลกระทบต่อบริการให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
แนวโน้มที่ 3: ระบบระบายความร้อนอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอนเป็นขีดความสามารถที่จำเป็นในการประมวลผลอัจฉริยะความหนาแน่นสูง
ในยุค AI การใช้ระบบทำความเย็นที่ผสมผสานระหว่างอากาศและของเหลวจะเป็นกระบวนการในระยะยาว การทำความเย็นด้วยของเหลวถือเป็นแนวโน้มที่เลี่ยงไม่ได้ และระบบทำความเย็นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอนจะกลายเป็นขีดความสามารถจำเป็นสำหรับการประมวลผลอัจฉริยะความหนาแน่นสูง ทั้งนี้ การทำความเย็นอย่างไม่ขาดตอนหมายถึงระบบทำความเย็นทำงานต่อเนื่องไม่หยุดชะงักขณะที่ศูนย์ข้อมูลทำงานตามปกติ และสามารถกู้คืนการทำงานระบบทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยวิธีนี้ ศูนย์ข้อมูลจึงจะสามารถทำงานได้อย่างเสถียร
แนวโน้มที่ 4: AI จะช่วยปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยเชิงรุกในการดำเนินงานและบำรุงรักษาศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เราจะสามารถป้องกันความผิดปกติต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าขัดข้อง การเกิดเพลิงไหม้ และอุณหภูมิสูงในศูนย์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ โดยช่วยให้สามารถเปลี่ยนจากการตอบสนองแบบตั้งรับไปสู่การบำรุงรักษาเชิงรุก ทำให้เราสามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของศูนย์ข้อมูลได้อย่างสูง
แนวโน้มที่ 5: บริการระดับมืออาชีพคือหลักประกันสำคัญของความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูล
โดยปกติ ศูนย์ข้อมูลมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ถึง 15 ปี โดยการบำรุงรักษามีบทบาทสำคัญมากกว่าตัวอุปกรณ์ตลอดวงจรชีวิตทั้งหมดของศูนย์ข้อมูล บริการระดับมืออาชีพเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ศูนย์ข้อมูลสามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือและต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งนี้ สามารถขจัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการติดตั้ง ด้วยการดำเนินการติดตั้งโดยมืออาชีพและการจัดการกระบวนการส่งมอบศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี AI ยังถูกนำมาใช้เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์แทนการตอบสนองเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าศูนย์ข้อมูลทำงานอย่างน่าเชื่อถือตลอดวงจรชีวิตของศูนย์
แนวโน้มที่ 6: สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์คือกุญแจสำคัญเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของข้อกำหนดของศูนย์ข้อมูล AI
ศูนย์ข้อมูล AI จำเป็นต้องมีสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ (modular architecture) เพื่อรองรับข้อกำหนดที่ไม่แน่นอนของศูนย์ข้อมูล AI ได้อย่างยืดหยุ่น สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ประกอบด้วยห้องอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ฟังก์ชันแบบโมดูลาร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องกลที่แยกส่วนกัน ซึ่งช่วยให้สามารถติดตั้งระบบตามความต้องการและปรับขนาดระบบย่อยหลักได้อย่างยืดหยุ่น รวมถึงสามารถปรับให้เข้ากับวิวัฒนาการบริการในอนาคตได้อย่างคล่องตัว ตัวอย่างเช่น ศูนย์ข้อมูลที่อู๋หู (Wuhu) ในประเทศจีน จากการใช้สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ ทำให้สามารถส่งมอบศูนย์ข้อมูลได้ภายในเวลาเพียงสามเดือน และรองรับการปรับขยายได้อย่างยืดหยุ่นในอนาคต
แนวโน้มที่ 7: การผลิตส่วนของระบบย่อยล่วงหน้าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถส่งมอบศูนย์ข้อมูล AI ได้อย่างรวดเร็ว
การผลิตล่วงหน้าช่วยให้ประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น ศูนย์ข้อมูลที่มีระบบย่อยผลิตล่วงหน้าจะสามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดของบริการ AI ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านความยืดหยุ่นและเริ่มใช้งานอย่างรวดเร็ว การผลิตระบบย่อยล่วงหน้าไม่ใช่เพียงแค่การประกอบชิ้นส่วนเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนโซลูชันให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ โดยต้องผ่านการออกแบบด้วยมืออาชีพ การจำลอง การทดสอบ และการใช้เครื่องมืออัตโนมัติเพื่อรับรองคุณภาพของการส่งมอบ นอกจากนี้ การผลิตและการทดสอบระบบในโรงงานล่วงหน้าจะช่วยลดภาระงานก่อสร้างในสถานที่ได้ถึง 90% ซึ่งลดระยะเวลาการส่งมอบได้อย่างสูง เพื่อรับประกันได้ว่าสามารถส่งมอบศูนย์ข้อมูล AI ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสูง
แนวโน้มที่ 8: ระบบจ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพสูงจะมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ในศูนย์ข้อมูล AI
สถานการณ์การประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูงและความต้องการคำนวณสูงเป็นสิ่งท้าทายและอุปสรรคสำคัญกับการระบายความร้อน ตั้งแต่การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศไปจนถึงของเหลว ประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงานจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานของศูนย์ข้อมูล ควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพจ่ายพลังงานของระบบขนาน แทนที่จะมุ่งเน้นที่อุปกรณ์เดียว และต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมด้วย ตัวอย่างเช่น ระบบสำรองไฟฟ้า (UPS) อาจมีประสิทธิภาพได้สูงถึง 99.1% และสามารถสลับโหมดได้ทันทีโดยไม่มีการหน่วงเวลา (0 ms) เมื่อทำงานในโหมดควบคุมประหยัดพลังงานสูงสุด (S-ECO)
แนวโน้มที่ 9: AI ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมในศูนย์ข้อมูล
นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพของการจ่ายพลังงานและการทำความเย็นแล้ว เทคโนโลยี AI ยังสามารถช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ในสถานการณ์การทำความเย็นด้วยอากาศและของเหลว มีพารามิเตอร์ที่ต้องปรับแต่งนับล้านตัว ทำให้กระบวนการปรับแต่งมีความซับซ้อนแบบทวีคูณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การทำความเย็นที่ดีที่สุด สามารถใช้เทคโนโลยีปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานด้วย AI แทนการปรับแต่งตามขั้นตอนแบบเดิมได้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ทำให้ศูนย์ข้อมูลสามารถประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แนวโน้มที่ 10: การทำงานร่วมกันระหว่างการประมวลผลและพลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นรูปแบบใหม่ในการสร้างศูนย์ข้อมูล
พลังการประมวลผล คือหัวใจสำคัญของ AI และพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพลังการประมวลผลดังกล่าว เนื่องจากการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การจ่ายพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงจะเป็นทางออกเพื่อลดการใช้พลังงานให้แก่ศูนย์ข้อมูลได้ นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นส่วนเชื่อมโยงของระบบบูรณาการที่ประกอบด้วยการผลิตไฟฟ้า-โครงข่ายไฟฟ้า-โหลด-การจัดเก็บพลังงาน ศูนย์ข้อมูลจึงสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานโครงข่ายไฟฟ้า (GUE) ด้วยการปรับความถี่และลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีการใช้พลังงานสูงสุด (peak shaving) ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดการโหลดได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการเพื่อฝึกฝนและทำการสรุปผลหรืออนุมาน (inference) ให้แก่ AI เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีที่สุด ในอนาคต การทำงานร่วมกันระหว่างการประมวลผลและพลังงานจะกลายเป็นรูปแบบใหม่ในการสร้างศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของศูนย์ข้อมูลได้
ในยุค AI ระบบศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ยจะมุ่งเน้นความสำคัญที่คุณภาพและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างโซลูชันการจ่ายพลังงานที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีความยืดหยุ่น และยั่งยืนสำหรับศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรคว้าโอกาสจากพลังประมวลผลอัจฉริยะ พร้อมทั้งเพิ่มผลลัพธ์ได้สูงสุดจากทุกวัตต์ของพลังงานที่ใช้ ด้วยความมุ่งมั่นขับเคลื่อนยุคดิจิทัลให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
Source : ผลักดันยุคดิจิทัลให้รุดหน้า | หัวเว่ยเผย 10 เทรนด์สำคัญของวงการศูนย์ข้อมูลรับปี 2568
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Siam News Network.