- ซีอีโอเกือบ 60% คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจาก 38% ในปีที่แล้ว และ 18% เมื่อสองปีก่อน
- 42% วางแผนเพิ่มจำนวนพนักงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับกลุ่มที่คาดว่าจะลดจำนวนพนักงาน โดยซีอีโอส่วนใหญ่ระบุว่า GenAI ช่วยส่งเสริมการจ้างงานมากกว่าลดจำนวนพนักงาน
- ซีอีโอเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จาก GenAI โดย 56% รายงานว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่ 1 ใน 3 พบว่ากำไร (34%) และรายได้ (32%) เพิ่มขึ้น
- ซีอีโอ 42% เชื่อว่าบริษัทของตนจะไม่สามารถอยู่รอดได้เกิน 10 ปีหากไม่ปรับตัวครั้งใหญ่ โดยเกือบ 4 ใน 10 ระบุว่าได้เริ่มแข่งขันในภาคธุรกิจใหม่แล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ มีโอกาสที่จะส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ลดลงถึง 6 เท่า
ดาวอส, สวิตเซอร์แลนด์, 20 มกราคม 2568 /PRNewswire/ — ผลการสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 28 ของ PwC ซึ่งเปิดตัวในวันนี้ระหว่างการประชุมประจำปีของ World Economic Forum เปิดเผยว่า เกือบ 60% ของซีอีโอทั่วโลกคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า
รายงานนี้ได้สำรวจความคิดเห็นซีอีโอ 4,701 ราย จาก 109 ประเทศและดินแดน และยังพบอีกว่า ซีอีโอ 42% คาดว่าจะเพิ่มจำนวนพนักงานอย่างน้อย 5% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับกลุ่มที่คาดว่าจะลดจำนวนพนักงาน (17%) และเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปีที่แล้ว โดยสัดส่วนสูงสุด (48%) มาจากบริษัทขนาดเล็ก (มูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และบริษัทในภาคเทคโนโลยี (61%) อสังหาริมทรัพย์ (61%) ไพรเวทอิควิตี้ (52%) และเภสัชภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (51%)
แม้ซีอีโอจะมองเศรษฐกิจโลกในแง่บวก แต่ความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาค (29%) และเงินเฟ้อ (27%) ยังคงเป็นความเสี่ยงอันดับต้น ๆ สำหรับปีข้างหน้าที่ซีอีโอทั่วโลกกล่าวถึง โดยมีความแตกต่างชัดเจนเมื่อแยกตามภูมิภาค ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นความเสี่ยงสูงสุดในตะวันกลาง (41%) และยุโรปกลางและตะวันออก (34%) ส่วนในยุโรปตะวันตก ความเสี่ยงทางไซเบอร์ (27%) เป็นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ (25%) และเงินเฟ้อ (24%) อยู่เล็กน้อย โดยมีความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคอยู่อันดับหนึ่งที่ 29% ขณะที่เงินเฟ้อเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากเป็นอันดับหนึ่งในแอฟริกา (39%) ด้านอเมริกาเหนือและเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญกับความเสี่ยงในระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก
Mohamed Kande ประธานกรรมการระดับโลกของ PwC กล่าวว่า
"ผลสำรวจซีอีโอปีนี้ชี้ให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน โดยผู้นำธุรกิจทั่วโลกมองปีข้างหน้าในทางบวก แต่ก็ตระหนักดีว่าพวกเขาต้องปฏิรูปวิธีการสร้าง ส่งมอบ และรับมูลค่า ขณะที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง GenAI ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ ล้วนเข้ามาพลิกโฉมรูปแบบของเศรษฐกิจ ระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่ ๆ กำลังก่อตัวขึ้น ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการแข่งขันและสร้างมูลค่าของบริษัทต่าง ๆ ทั้งนี้ บริษัทจะเจริญก้าวหน้าได้เมื่อผู้นำธุรกิจลงมือทำทันทีและตัดสินใจอย่างกล้าหาญในเรื่องกลยุทธ์ของตน ทั้งเรื่องบุคลากร ฐานการดำเนินงาน และซัพพลายเชน ไปจนถึงการปฏิรูปโมเดลธุรกิจ"
ความจำเป็นในการปฏิรูปองค์กร
เช่นเดียวกับ 2 ปีที่ผ่านมา ซีอีโอราว 4 ใน 10 (42%) เชื่อว่าบริษัทของตนจะไม่สามารถอยู่รอดได้เกินทศวรรษหน้าหากยังดำเนินธุรกิจแบบเดิม โดยในกลุ่มที่คาดว่าจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้น 42% ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบมีอิทธิพลมากที่สุดต่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของบริษัท
แต่ซีอีโอกำลังลงมือทำ โดยในทุกภาคส่วนนั้น เกือบ 2 ใน 3 (63%) ได้ดำเนินการครั้งสำคัญอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการของบริษัทในการสร้าง ส่งมอบ และรับมูลค่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยซีอีโอที่ได้ดำเนินการปฏิรูปมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีอัตรากำไรสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาวิธีปฏิรูปโมเดลธุรกิจ เกือบ 4 ใน 10 (38%) ได้เริ่มแข่งขันในภาคธุรกิจใหม่อย่างน้อยหนึ่งส่วนแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 1 ใน 3 (34%) เปิดเผยว่าภาคธุรกิจใหม่นี้สร้างรายได้ให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปยังคงเป็นไปอย่างช้า ๆ และบริษัทส่วนใหญ่ยังขาดความคล่องตัว โดยเมื่อพูดถึงการจัดสรรงบประมาณและบุคลากรระหว่างโครงการและหน่วยธุรกิจนั้น ซีอีโอประมาณครึ่งหนึ่งจัดสรรทรัพยากรทางการเงินและทรัพยากรบุคคลใหม่เพียง 10% หรือน้อยกว่าจากปีต่อปี ขณะที่มากกว่า 2 ใน 3 จัดสรรใหม่ไม่ถึง 20% ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว รายได้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น มาจากธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากเดิมเพียง 7%
ซีอีโอมองบวกต่อศักยภาพของ GenAI แต่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
ซีอีโอรายงานผลลัพธ์ที่จับต้องได้จาก GenAI โดยมากกว่าครึ่ง (56%) พบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ 1 ใน 3 (32%) มีรายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน้อยกว่าที่คาดหวังไว้เมื่อปีที่แล้วเล็กน้อย โดยในปี 2567 นั้น ซีอีโอ 46% คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น จากนั้นหนึ่งปีต่อมา เมื่อเราถามว่าผลกำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ มีเพียง 34% ที่ตอบว่าใช่ ซึ่งความไว้วางใจใน AI ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย มีซีอีโอเพียง 1 ใน 3 ไว้วางใจเทคโนโลยีนี้มากพอที่จะนำไปรวมกับกระบวนการสำคัญในบริษัทของตน
แม้จะมีความกังวล แต่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลกระทบของ GenAI ต่อผลกำไรก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมี 49% คาดว่าจะเห็นผลกำไรเพิ่มขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า ประมาณครึ่งหนึ่ง (47%) คาดว่าจะผสานรวม AI (รวมถึง GenAI) เข้ากับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของตนภายใน 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ 41% วางแผนที่จะผสานรวมเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจหลัก และ 30% มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ข้อมูลของเรายังไม่พบสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าโอกาสการจ้างงานทั่วโลกจะลดลงอย่างกว้างขวางอันเนื่องมาจาก GenAI โดยซีอีโอที่ระบุว่า GenAI ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นนั้นมีจำนวนมากกว่าที่จ้างงานลดลง (17% เทียบกับ 13%)
Matt Wood ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ (CTIO) ระดับโลกและสหรัฐอเมริกา ของ PwC กล่าวว่า
"ผลสำรวจในปีนี้สะท้อนให้เห็นมุมมองที่พัฒนาขึ้นเกี่ยวกับ GenAI ในองค์กร โดยบรรดาซีอีโอเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ และมีความเชื่อมั่นสูงกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ตระหนักมากขึ้นถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความไว้วางใจในการออกแบบระบบ AI และในขณะนี้ก็ให้ความสำคัญในการผสานรวมเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจหลัก พวกเขาจำเป็นต้องมองเห็นศักยภาพของ GenAI ในการสร้างการเติบโตผ่านผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ และสร้างคุณค่าในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย"
การลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเริ่มเห็นผล
ขณะที่การเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างต่อเนื่อง บรรดาซีอีโอต่างก็ดำเนินการตอบสนอง เมื่อเราได้สอบถามซีอีโอเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินจากการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น เราพบว่าการลงทุนเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มรายได้ (33%) มากกว่าลดรายได้ (5%) ถึง 6 เท่า นอกจากนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของซีอีโอรายงานว่าการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศได้ช่วยลดต้นทุนหรือไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนเลย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายในการริเริ่มการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศ โดยซีอีโอที่ลงทุนในส่วนนี้เปิดเผยว่า ความซับซ้อนของกฎระเบียบเป็นปัจจัยหลัก (24%) ที่ขัดขวางความสามารถของบริษัทในการริเริ่มการลงทุนเหล่านั้น รองลงมาคือผลตอบแทนจากการลงทุนที่น้อยกว่า (18%) หรือการขาดการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารหรือคณะกรรมการ (6%)
Carol Stubbings ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ระดับโลกของ PwC กล่าวว่า
"การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ดำเนินมากว่าสามทศวรรษนั้น เริ่มเข้ามาทำลายขอบเขตที่เคยแบ่งแยกระหว่างภาคธุรกิจต่าง ๆ อย่างชัดเจน ในขณะที่ผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ AI และแนวโน้มสำคัญอื่น ๆ จะเร่งกระบวนการปรับโครงสร้างใหม่ ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้นำธุรกิจกำลังเผชิญกับอนาคตด้วยทั้งความหวังในเศรษฐกิจและความเป็นจริงที่ว่า ธุรกิจจำเป็นต้องปฏิรูปรากฐานในการสร้างมูลค่า หากต้องการประสบความสำเร็จในอนาคต"
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับผลการสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 28 ของ PwC
PwC ดำเนินการสำรวจความเห็นของซีอีโอ 4,701 คนใน 109 ประเทศและดินแดนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ตัวเลขทั่วโลกและระดับภูมิภาคได้รับการถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนของ GDP ของประเทศ ตัวเลขระดับอุตสาหกรรมและระดับประเทศอิงจากข้อมูลที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนักจากกลุ่มตัวอย่างซีอีโอทั้งหมด 4,701 คน สามารถอ่านผลการวิจัยฉบับเต็มได้ที่ pwc.com/ceosurvey
เกี่ยวกับ PwC
PwC มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราคือเครือข่ายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใน 149 ประเทศ และมีบุคลากรกว่า 370,000 คนที่ทุ่มเทให้บริการรับประกัน ให้คำปรึกษา และให้บริการด้านภาษีที่มีคุณภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.pwc.com
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1121790/PWC_Logo.jpg
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Siam News Network.